ขอบคุณคุณชัช เหล็กไหล ที่นำเรื่องราวมาทบทวนให้ฟังอีกทีครับ
ผมขอออกความเห็นซึ่งอาจจะดูเหมือนเป็นหมอดูที่เก่งหลังเหตุการณ์
ตอนฟังวิทยุตอนค่ำวันเกิดเหตุว่ากระเหรี่ยงก๊อดอาร์มีบุกจับตัวประกันที่โรงพยาบาล
หลังจากที่ก่อนหน้านั้นไม่นานก็เพิ่งจี้สถานทูตพม่า แล้วลอยนวลออกไปได้โดยมีคุณชายสุขุมพันธ์ รมว. ต่างประเทศนั่งเป็นตัวประกันในฮ. ไปส่งที่ชายแดน
ผมทำนายในใจตัวเองว่าคราวนี้พวกมรึงตายโหงหมดแน่
ไม่มีรัฐบาลไหนปล่อยให้มาเหิมเกริมอย่างนี้ได้สองครั้งติดแน่ครับ
ถึงแม้เขาไม่ได้ตามข้อเรียกร้อง ต่อให้เจรจาว่าเลิกแล้วต่อกัน ปล่อยตัวประกันแล้วเขาจะถอนกำลังออกไปที่ชายแดน ให้ถือว่าเจ๊ากันไป
ต่อให้เหตุการณ์จะออกมาเช่นนี้ รับรองว่าพลตรีสนั่น และ ผบทบ. ต้องเอาปี๊บคลุมหัวอีกหลายเดือนแน่
วันรุ่งขึ้นคำทำนายของโหรหมาป่าก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ตายเรียบบบบ
ปกติ ผมไม่ค่อยด่านักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนครับ
เขาจะเรียกร้องอย่างไร ผมมักมองเห็นความเป็นเหตุเป็นผล และมักสนับสนุนจุดยืนของพวกเขาเสมอเสมอ
แต่ในกรณีนี้ที่เหล่านักเคลือนไหวออกมาประณามรัฐบาลไทย และฝ่ายปราบปรามว่าทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ
ผมยืนตรงข้าม และด่าในใจ
ภาพที่เห็นว่ากระเหรี่ยงทุกคนโดนยิงหัว และฝ่ายปราบปรามถูกเสียดสีทำนองว่าจับเป็นได้แล้วจ่อยิง ไม่ให้โอกาสพวกนี้สู้คดี
ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เลยไม่รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร
แต่ถ้ามันจะเป็นการจ่อยิง หมาป่าสนับสนุนเต็มที่
จะเรียกว่าเชือดไก่ให้ลิงดูก็ได้ (ขอโทษนักกฏหมายหรือนักสิทธิมนุษยชนนะครับ ที่ผมคิดละเมิดหลักกระบวนการยุติธรรม)
ไม่อย่างนั้นเราคงต้องมีวิกฤติตัวประกันกับกระเหรี่ยงกู้ชาติอีกหลายครั้งแน่
คนเรียกร้องความยุติธรรม ด้วยการใช้ชีวิตผู้บริสุทธิ์มาเป็นเครื่องต่อรอง ไม่ควรมีที่ให้ยืนบนโลกใบนี้ครับ
กรุณาใช้วิธีอื่น
น่าจะมีท่านผู้มีข้อมูลเอาข้อมูลตอน พล.อ. สุรยุทธ ควบคุมการปฏิบัติการช่วยคนไทยในกัมพูชาตอนเราถูกเผาสถานทูตมาเล่าให้ฟังอีกครั้งนะครับ