พูดตรงเลยนะครับ ป.๔ ที่ไม่ระบุยี่ห้อปืน โอนกันได้ครับ เห็นมาหลายๆแล้ว
แต่ที่กลัวกัน ก็คือ กลัวว่าจะขายเฉพาะใบ ป.๔ กันแล้วไปหาปืนขนาดเดียวกัน อาจเป็นปืนยี่ห้อไหนก็ได้
มาสวมทะเบียนมากกว่า แต่ถ้าเราไม่ขายใบป.๔ ก็ไม่ต้องไปกลัวครับ
ที่เขาขายกัน เขาจะขายเฉพาะตัวปืนครับ แล้วทำโคลนนิ่งใหม่
ประเด็นเรื่องนี้ อยู่ตรงนี้ครับ
ปืนที่นำจดเถื่อน เมื่อปี 2500 2511 2518 ปืนพวกนี้แน่นอนต้องมีเครื่องหมายที่นายทะเบียน
ทำขึ้นใหม่ ถ้าไม่มีจดไม่ได้ แต่เครื่องหมายประจำปืนถ้าไม่มี ก็ไม่ต้องทำอะไรกับมันปล่อยว่างๆ
แต่ถ้ามีก็ควรขอให้เขาลงเลขไว้ จะเป็นผลดีต่อเจ้าของปืนเอง ปืนเป็นอาวุธโดยสภาพ
ที่ต้องมีรายละเอียด (รถยนต์คันโตๆเขายังตัดชัชซีเอาหมายเลขมาแปะสวมทะเบียนขาย
ยิ่งยากกว่า)
ส่วนเรื่องยี่ห้อ ตรงนี้ก็เหมือนกัน เมื่อปี 2500 ตอนนั้นการศึกษาบ้านเราอาจจะไม่คุ้นเคย
กับภาษาต่างประเทศ ก็เลยทำให้เขียนบ้างไม่เขียนบ้าง แต่หลังจากปี 2510 เป็นต้นมา
ข้าราชการที่ทำงานด้านนี้ แม้ว่าจะอยู่ในจุดที่ห่างจากกรุงเทพไกลที่สุด ในขั้นต่ำเชื่อว่า
ต้องจบการศึกษามากกว่าชั้นมัธยมศึกษาปีที่สาม อ่านภาษาต่างประเทศออกแล้ว
เรื่องเอาปืนไปสวมทะเบียน แล้วเอามาโอนกรุงเทพ พวกนี้มักจะไม่รอด
แต่หากเป็นต่างจังหวัดอาจหลงหูหลงตา เขาก็ยังยกประโยชน์ให้จำเลย
เพราะว่าอะไร เอกสารทั้งหมดมันเป็นกระดาษ 30-40 ปี ปลวกอาจรับประทาน
หมดแล้ว หรืออย่างร้ายก็ขี้เกียจไปค้น
เช่นจดทะเบียนปืนเถือนปี 2518 ปืนโคลท์ไม่มีเลขซีเรียลนำเบอร์ มีแต่เครื่องหมายทะเบียน
ที่นายทะเบียนทำขึ้นใหม่ ต่อมานึกสนุกไปเอา ซีรี่ย์ 80 ไม่มีซีเรียลนำเบอร์เหมือนกัน
มาใส่ตัวเดิม อย่างนี้ก็พัง
ปืนเถื่อนที่นำจดทะเบียนถูกต้องในปีนั้นๆ ไม่ได้เกี่ยวในข้อความด้านบนนะครับ