บทความนี้เป็นบทความสุดท้ายที่ผมได้เขียนไว้ในเวป thaifighterclub.com เพราะนับแต่นี้ผมจะไม่ไปเหยียบที่นั่นอีก เนื่องจาก webmaster ที่นั่นจิตใจคอคับแคบและเห็นแก่ตัว ชอบตามมาลบกระทู้ผมโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ผมจึงขออนุญาติใช้เนื้อที่ในเวปนี้เพื่อนำเสนอบทวิเคราะห์สงครามโลกครั้งที่สามที่ผมได้เขียนไว้ ให้เพื่อนๆได้ลองอ่านกันเล่น
คำตอบ :
เรื่องคำทำนายของนอสตราดามุสน่ะ เคยฮิตมากอยู่ครั้งนึงตอนปี 1985 มีการทำเป็นภาพยนตร์ด้วย ในตอนนั้นกัดดาฟีกร่างมาก ก็เลยมีการคาดการณ์กันว่า Anti Christ คนที่ 3 ต่อจากฮิตเลอร์ น่าจะเป็นพันเอกโมฮัมมา กัดดาฟี แต่พอภายหลังลิเบียถูกประธานาธิบดีโรนัลด์ รีแกน สั่งบอมป์ โดยใช้เครื่อง F-111 (ปัจจุบันปลดไปแล้ว) กัดดาฟีก็หายหน้าหายตาไปจากเวทีโลก
ต่อมาก็มีกรณีอิรักบุกคูเวต ก็เลยมีการคาดการณ์กันว่าบุคคลผู้นั้น น่าจะเป็น ซัดดัม ฮุสเซ็น แต่ก็อย่างที่เราท่านรู้ๆกันอยู่ ซัดดัมโดนสหรัฐฯแขวนคอไปเรียบร้อยแล้ว
ปัจจุบันการดำเนินนโยบายการต่างประเทศที่แข็งกร้าวและการพยายามครอบงำทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้สร้างความไม่พอใจให้หลายๆชาติในโลก โดยเฉพาะกลุ่มอาหรับและกลุ่มประเทศโลกที่สาม
ปัจจุบันกล่าวได้ว่าสหรัฐกำลังอยู่ในภาวะเสื่อมถอย จากการที่ต้องไปติดหล่มในสงครามในอิรัก หมดเม็ดเงินไปเป็นแสนๆล้านยูเอสดอลลาร์ ภาพพจน์ของประเทศก็ดูตกต่ำลงในสายตาชาวโลก ซึ่งแม้แต่อดีตเลขา UN นายโคฟี อานัน เองก็ได้ออกมาประนามสหรัฐฯก่อนอำลาเก้าอี้ การที่สหรัฐฯติดหล่มอยู่ในอิรักและอัฟกานิสถานนี่ ทำให้มีความท้าทายใหม่เกิดขึ้นในโลก โดยที่สหรัฐฯเองก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนดูตาปริบๆ นั่นคือวิกฤตนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ และวิกฤตนิวเคลียร์อิหร่าน
ทีนี้มาเข้าเรื่องกันบ้างว่า ท่านคิดว่า Anti Christ คนที่ 3 น่าจะเป็นใคร ระหว่างคิมจองอิล กับประธานาธิบดีมามุด อมาดีเนจาด แห่งอิหร่าน สำหรับผมผมคิดว่าน่าจะเป็นอมาดีเนจาด คนผู้นี้ก้าวร้าว และเคยประกาศว่าจะลบอิสราเอลออกจากแผนที่โลก รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มชาติอาหรับซึ่งเกลียดอิสราเอลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกทั้งอายุอานามก็ยังไม่มากด้วย คิมจองอิลไม่น่าใช่ เพราว่าโดดเดี่ยวเกินไป
ทีนี้มาถึงประเด็นที่ว่าหากต้องรบกันจริงๆ ฝ่ายจีนและกลุ่มอาหรับเอง พร้อมหรือไม่ที่จะทำศึกกับสหรัฐฯกับยุโรป ผมขอฟันธงเลยว่าตอนนี้ยังไม่พร้อมครับ กำลังทหารจีนแม้จะพัฒนารุดหน้าไปรวดเร็วมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงเป็นรองสหรัฐฯหลายขุม ส่วนโลกอหารับเองก็ยังคงแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย ขาดความเป็น unity
เพราะฉนั้นผมถึงมองว่าอมาดีเนจาดนี่แหละที่จะเป็นผู้ทำให้โลกอาหรับเป็นหนึ่งเดียว แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ และสงครามเต็มรูปแบบยังจะไม่เกิดภายในสิบปีนี้แน่นอน เพราะตอนนี้ก็อย่างที่บอก ไม่มีใครกล้าชนกับสหรัฐฯหรอก แต่แน่นอนว่าจะมีสงครามการก่อการร้ายเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง และอีกอย่างก็คือณ.ตอนนี้ความไม่พอใจในสหรัฐฯได้เริ่มบ่มเพาะขึ้นแล้ว
ในส่วนตัวผม ผมคิดว่าสงครามโลกครั้งที่สามน่าจะเกิดในช่วงหลังจากนี้ไปประมาณ 20 ปีครับ เมื่อจีนและโลกอาหรับมีความเข้มแข็งพอที่จะท้าชนกับสหรัฐฯในสวครามเต็มรูปแบบ ซึ่งถึงตอนนั้น ก็คงจะเดาออกนะครับว่าประเทศไทยจะอยู่ข้างไหน เพราะมันจะคล้ายๆเป็นการย้อนอดีตสงครามเอเชียมหาบูรพานั่นแหละ ที่ญี่ปุ่นบังคับให้เราต้องเลือกข้าง
โดยคุณ : piras วันที่ : 2007-01-04 12:00:30
เคยอ่านมานานแล้วจะเล่าพอคร่าวๆนะ ถ้าผิดก็ขออภัย
นอสตราดามุสฟันธงไว้ว่า ผู้ต่อต้านพระคริสต์ (Anti Christ ) ที่ 3 (คนที่1 นโปเลียน คนที่ 2 ฮิตเลอร์) นั้น จะเป็นคนอาหรับ ชื่อว่า Mabus โดยบอกว่า ทหารอาหรับจะไปอยู่ในท้องปลา แล้วปลาจะโผล่ที่ยุโรป ทหารอาหรับจะยึดยุโรปไว้ได้ (น่าจะหมายถึง ทหารเข้าไปอยู่ในเรือดำน้ำมั้งเพราะสมัยนั้นยังไม่มีเรือดำน้ำ นอสตราดามุสเลยไม่รู้ว่าจะเรียกเจ้าสิ่งนี้ว่าอะไร) นอสตราดามุสยังเล่าเหตุการณ์ที่นิวยอร์กโดนระเบิดนิวเคลียร์ และทหารอาหรับจะอยู่เต็มประเทศอเมริกาไปหมด อเมริกาจะถูกยึดโดยทหารอาหรับ แต่ก่อนหน้าที่จะยึดอเมริกาได้ ก็หมดนิวเคลียร์ไปหลายลูกโดยต่างฝ่ายต่างยิงเข้าใส่กัน
พอสงครามโลกครั้งที่3จบไปได้โลกจะสงบสุขไประยะหนึ่ง แล้วก็จะเกิดน้ำท่วมโลกครั้งใหญ่
โดยคุณ : min_linkin วันที่ : 2007-01-04 13:36:51
คำตอบ :
ประธานาธิปดีอามาดิเนจาดคงจะทำให้โลกอาหรับเป็นหนึ่งเดียวไม่ได้ง่ายนักหรอกครับเพราะอิหร่านนั้นเป็นชาวเปอร์เซียซึ่งเป็นคนละเชื้อสายกับชาวอาหรับครับ และประเทศอาหรับในตะวันออกกลางนั้นส่วนใหญ่จะนับถือนิกายสุหนี่ซึ่งแตกต่างจากชาวอิหร่านที่ส่วนใหญ่จะนับถือนิกายชีอะหฺ(ตัวอย่างความขัดแย้งระหว่างสองนิกายก็เห็นได้ที่อิรักในปัจจุบันครับ)
โดยคุณ : AAG_th1 วันที่ : 2007-01-04 16:19:05
คำตอบ : ความขัดแย้งระหว่างนิกายเป็นประเด็นที่น่าสนใจมากครับท่าน AAG_th1 แต่ผมว่าในบรรดาโลกอาหรับนั้นแม้ว่าจะต่างนิกายกัน แต่ต่างก็มีศัตรูร่วมเดียวกันคือสหรัฐฯและอิสราเอล อีกประการนึงก็คือ หากอิหร่านสามารถพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้สำเร็จ อิหร่านก็จะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของโลกอาหรับในทันทีครับ อมาดีเนจาดนั้นอายุยังน้อยตามที่ผมกล่าวไว้แต่แรก ยังถือว่าเป็นผู้นำที่ยังหนุ่ม หากเค้าต้องการจะรวบรวมโลกอาหรับเป็นหนึ่งเดียว เพื่อต่อกรกับสหรัฐฯและอิสราเอล ผมว่ายังมีเวลาอีกเยอะครับ ไม่แน่ว่าสงครามกลางเมืองในอิรักที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากสหรัฐฯถอนทหารออกไป อาจจะเป็นก้าวแรกของอมาดีเนจาดในการรวมอาหรับเป็นหนึ่งเดียวก็เป็นได้ครับ
โดยคุณ : piras วันที่ : 2007-01-04 17:54:24
คำตอบ :
ผมขอกล่าวถึงประธานาธิบดีอมาดีเนจาด ( Mahmoud Ahmadinejad ) ต่อนะครับ บุคคลผู้นี้ถือได้ว่าเป็นผู้นำที่มีอายุน้อยมาก เพราะเกิดเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 1956 จบปริญญาเอกทางด้าน traffic and transportation engineering and planning และเคยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยมาก่อน เป็นพวกอนุรักษ์นิยมหัวรุนแรง ขึ้นเป็นประธานาธิบดีแห่งอิหร่านเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2005 โดยประกาศเจตตารมณ์ที่จะกำจัดอธิพลสหรัฐฯให้ออกไปจากตะวันออกกลาง และทำลายประเทศอิสราเอลให้หายไปจากแผนที่โลก
To the outside world, Ahmadinejad (pronounced ah-MAHDI-ne-JAD) is best known for spurring confrontation with the West -- restarting the uranium enrichment program that the United States believes is aimed at making a nuclear bomb; denying the Holocaust and calling for Israel to be "wiped off the map"; and declaring that Iranian influence should replace American sway in the Middle East.
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวแกสามารถหาอ่านได้ในเวปวิกีพีเดีย (เวปโปรดผมครับ)
http://en.wikipedia.org/wiki/Mahmoud_Ahmadinejad โดยคุณ : piras วันที่ : 2007-01-04 18:35:13