อ่านแล้วดีขึ้น ค่ะ เลยเก็บมาฝาก พี่ๆๆๆ
ตั้งแต่ปลายปี 2549 เป็นต้นมา พวกเราชาวตลาดหุ้น รู้สึกเหนื่อยหน่าย ท้อแท้ ทั้งจากสภาพตลาดโดยรวม และการแก้ไขปัญหาจากทางการ ซึ่งมองว่าตลาดทุนเป็นอะไรที่ไม่น่าสนใจ เป็นเรื่องของคนกลุ่มน้อย ไม่ได้มีประโยชน์ต่อประเทศสักเท่าไหร่ วิธีการแก้ไขปัญหาส่วนใหญ่ ก็มักไม่ได้คำนึงถึงผลกรนะทบต่อตลาดหุ้น ทำให้คนที่ซื้อหุ้นหรือมีหุ้นอยู่ในมือ ประสบกับปัญหา มูลค่าของพอร์ตลดลง บางรายก็ถอดใจออกไปจากตลาดหุ้น สังเกตได้ว่าปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้น น้อยลงกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้ สิ่งนี้เป็นปัจจัยภายใน ยังไม่นับรวมปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบด้านลบต่อตลาดอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนในวงการตลาดหุ้น รวมทั้งผมเอง รู้สึก เหนื่อยหน่ายท้อแท้ บังเอิญผมได้เจอบทความหนึ่ง อ่านแล้วก็ทำให้ผมรู้สึกอยากจะทำอะไรให้มากกว่าเดิม บางคนท้อแท้ และก็ไม่ทำอะไรเลย ปล่อยชีวิตให้ซังกะตายไปวัน ๆ แต่ถ้าเราใช้ความท้อแท้ให้เป็นประโยชน์ และก็พยายามแก้ไขปัญหา ทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันก็จะทำให้ชีวิตเรามีคุณค่ามากขึ้น ลองอ่านบทความนี้ดู ผมหวังว่า จะช่วยปลุกให้คนที่ท้อแท้ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นท่านผู้อ่านที่อยู่เฉพาะตลาดทุนเท่านั้น คนทำมาค้าขาย คนที่ประสบกับปัญหาอยู่ ก็ให้ลุกขึ้นมา ต่อสู้ แระหาทางแก้ไขปัญหาเหล่านั้น ขอให้มีความสุขกับการอ่านบทความนี้
คนญี่ปุ่นชอบเนื้อปลาสด แต่ทะเลหรือแหล่งน้ำแถบญี่ปุ่นนั้นไม่มีปลาชุกชุม ดังนั้น เรือประมงทั้งหลายจึงต้องมีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้สามารถหาปลาได้เพียงพอต่อการบริโภค
ชาวประมงออกไปหาปลาใช้เวลานานในการนำปลากลับมา ถ้าออกทะเลไปนานเกิน 2 3 วัน ปลาก็จะไม่สด และคนญี่ปุ่นไม่ชอบรสชาติแบบนั้น วิธีแก้ปัญหาก็คือ บริษัทประมงทำการติดตั้งตู้แช่แข็งเอาไว้บนเรือ พอจับปลาได้ก็เอาใส่ไว้ในตู้แช่แข็ง ทำให้พวกชาวประมงสามารถออกไปหาปลาได้ไกลจากฝั่งมากขึ้น แต่ว่าคนญี่ปุ่นก็สามารถแยกความแตกต่างในรสชาติของเนื้อปลาสด กับ เนื้อปลาแช่แข็งได้อยู่ดี และพวกเขาก็ไม่ชอบปลาแช่แข็งเสียด้วย ปลาแช่แข็งจึงมีราคาถูก
เมื่อเป็นเช่นนั้น บริษัทประมงจึงทำการติดตั้งแทงค์น้ำ แล้วเอาปลาที่จับได้ใส่ลงไป แต่พอถูกเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา และต้องโคลงเคลงอยู่ในแทงค์น้ำนาน ๆ เข้า ปลาก็ไม่ยอมว่าย มันอ่อนล้าแล้วก็เซื่องซึมลง แม้จะยังมีชีวิตอยู่ก็ตาม แต่คนญี่ปุ่นก็ยังสามารถแยกความแตกต่างในรสชาติของเนื้อปลาได้อยู่เหมือนเดิม
บริษัทประมงญี่ปุ่นแก้ปัญหานี้อย่างไร ?? พวกเขาจับปลาที่ให้รสชาติของความสดใหม่กลับประเทศอย่างไร ?? หากคุณจะให้คำปรึกษาแก่อุตสาหกรรมประมง คุณจะแนะนำอย่างไร ?? เมื่อคุณบรรลุถึงจุดหมายที่ตั้งเป้าไว้ คุณมีคู่ครองที่เหมาะสม มีธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ หรืออะไรก็ตามแต่ คุณไม่ต้องพยายามอีกต่อไป ... อย่างนั้นหรือ?
ก็เปรียบได้กับปัญหาเรื่องปลา ๆ ของชาวญี่ปุ่นนี่ล่ะ ทางแก้นั่นง่ายมา ตามที่นาย รอน ฮับบาร์ด เขาค้นพบแล้วในช่วงปียุค 50 ว่า มนุษย์เราจะใฝ่หาความสำเร็จในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายเท่านั้น
ความท้าทายให้อะไรกับชีวิต ? เมื่อคุณรู้สึกว่าคุณเก่ง คุณสามารถ คุณมุ่งมั่น คุณก็จะเริ่มมองปัญหาต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ท้าทาย และเมื่อคุณเอาชนะปัญหาพวกนั้นได้ คุณจะรู้สึกดีกับตัวเอง คุณไม่เกรงกลัวต่อปัญหาอีกต่อไปแล้ว ตรงกันข้าม คุณรู้สึกกระตือรือร้น ตื่นเต้นที่จะได้คิด ได้แก้ไข ได้ลองวิธีใหม่ ๆ คุณเริ่มสนุกกับปัญหาเข้าแล้ว เพราะมันทำให้คุณรู้สึกมีชีวิต ชีวา!!
กลับมาที่เรื่องปลา ๆ ของชาวญี่ปุ่น ตกลงว่าเขาแก้ปัญหาปลาไม่สดกันยังไงกันนะ ?
ทางแก้ปัญหาเรื่องปลาของคนญี่ปุ่น ง่ายนิดเดียว ชาวประมงญี่ปุ่นเขาจะใส่ปลาไว้ในแทงค์ แล้วก็ใส่ ปลาฉลาม ลงไปในแต่ละแทงค์ด้วย ปลาฉลามอาจกินปลาไปนิดหน่อย แต่มันทำให้บรรดาปลาส่วนใหญ่มีชีวิตชีวามากขึ้น ปลาก็ผจญกับเรื่องท้าทาย ไม่เบื่อหน่าย ไม่เป็นปลาที่รอวันตาย
อย่าหนีปัญหา แต่จงโดดเข้าใส่ แล้วซัดมันให้น่วมไปเลย สนุกกับมันสิ ปัญหาคือความท้าทาย แต่ถ้าปัญหานั้นมันใหญ่โต ก็อย่าเพิ่งยอมแพ้ ลองจัดระบบให้กับตัวเองใหม่ เรียกความมุ่งมั่นกลับมา หาความรู้ใส่ตัว หาความช่วยเหลือก็ได้หากจำเป็น แต่ถ้าหากคุณทำข้อสอบ ตอบโจทย์ที่ได้มาจนหมดเกลี้ยงแล้ว ก็ได้เวลาหาโจทย์ใหม่ที่ท้าทายกว่าเดิม
หากคุณประสบความสำเร็จในชีวิตส่วนตัว และครอบครัวแล้ว ลองมองดูรอบตัว ว่าคุณทำอะไรได้อีกบ้าง ให้กับคนอื่น กลุ่มการทำงานของคุณ สังคมที่คุณอยู่หรือแม้แต่เพื่อนมนุษย์ร่วมโลก คุณสร้างความแตกต่างได้อีกมากมายให้กับโลกใบนี้
วันนี้ .. คุณหาปลาฉลามมาใส่ในชีวิตคุณบ้างหรือยัง ??