ทักซวย......เพราะพูดหาประโยชน์เข้าตัวอย่างเดียวไม่เห็นแก่ประเทศชาติ
หัวขิน........ไม่แน่ใจว่าคล้ายหัวหิน(หัวแข็ง)หรือเปล่า แต่อย่า
กลับคำ แล้วกัน
พี่คงเครียดน้อยหลังจากได้แสดงความเห็นข้างบนนะ ใจเย็นไว้ ขอบคุณครับ
ลองอ่านดูต่อแต่อย่าเพิ่งวิจารณ์คนที่ให้สัมภาษณ์นะครับ
"เวลานี้มีการโจมตีกันเยอะมาก เรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับทฤษฎีทักษิโณมิกส์ ผมขอโอกาสนี้พูดหน่อย เพราะผมเป็นคนที่อยู่ในทั้ง 2 ยุค ทั้งทักษิโณมิกส์ และเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งคนที่ไม่เข้าใจก็จะคิดกันไปว่าเศรษฐกิจพอเพียงนั้นขัดต่อความก้าวหน้าของเศรษฐกิจ ซึ่งมันไม่ใช่
ปรัชญาความคิดของเศรษฐกิจพอเพียงนั้น มีหลักสำคัญ อยู่ 2 ตัว คือ 1.ความพอประมาณ ความพอตัว และ 2.การสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งหลักทั้ง 2 ประการนั้น สามารถใช้ได้ดีกับเศรษฐกิจกลไกตลาด หรือทุนนิยม โดยเป็นภูมิคุ้มกันที่สำคัญให้กับเศรษฐกิจได้
สาเหตุที่เกิดวิกฤติปี 2540 ขึ้นมานั้น เป็นเพราะเราโตกันอย่างเกินกำลัง แต่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้นจะเป็นตัวบอกว่าทำอะไรอย่าทำเกินกำลัง แต่ตอนนั้นเศรษฐกิจเรากู้หนี้ยืมสิน ลงทุนเกินกำลังกันถึง 3 เท่าตัว ทั้งในระดับมหภาคและจุลภาค ถึงได้เกิดวิกฤต ทักษิโณมิกส์ก็เป็นทฤษฎีที่ไม่มีความพอประมาณ และหากปล่อยไว้อีกไม่เกิน 3 ปี ก็เกิดวิกฤต เพราะเป็นการโตแบบสุรุ่ยสุร่าย หมกหนี้ หมกปัญหาเอาไว้ จนมันใกล้จะแตกเต็มที่แล้ว โตแบบไม่ยับยั้งชั่งใจ ใกล้จะถึงวิกฤต มีหนี้หมกไว้ 1.5 แสนล้านบาท ผมเพิ่งจัดสรรงบประมาณไปให้ปีนี้ 8 หมื่นล้านบาท ยังต้องจัดสรรให้อีกในปีต่อๆ ไปอีก ยังไม่รวมถึงการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณอีกจำนวนไม่รู้เท่าไหร่ เช่น โครงการหวย 2 ตัว 3 ตัว เป็นการใช้จ่ายเงินโดยอำนาจของคนเพียงคนเดียว ซึ่งถ้าเราปล่อยให้ระบบสุรุ่ยสุร่ายแบบนี้เดินต่อไปอีกไม่นาน เราก็จะกลายเป็นอาร์เจนตินา
อยู่ดีๆ อยากลุกขึ้นมาทำพีอาร์ก็มาพูดอย่างโน้นอย่างนี้ ต่างประเทศก็ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ผมไม่มีเวลาออกไปแก้หรอก เพราะลำพังก็เข้ามาแก้เรื่องที่ ทักษิโณมิกส์ทำไว้ก็ 15 เรื่องเข้าไปแล้ว ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ทำไปแล้วเหมือนเขาทำเพื่อประโยชน์ประเทศชาติ แต่ที่จริงทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว และพวกพ้อง ต่อจากนี้ไปอีกผมยังไม่รู้ว่าต้องตามแก้เรื่องอะไรของท่านอีก
ผมยังยืนยันว่าปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับทักษิโณมิกส์ นั้นมันคนละคลาส (class) ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาสำคัญที่จะเป็นภูมิคุ้มกันสำคัญให้เศรษฐกิจโตได้อย่างยั่งยืน โตไม่เกินกำลัง ไม่ทำให้มันล้มในอนาคต และสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกาภิวัตน์ได้ ไม่เหมือนทักษิโณมิกส์ที่โตอย่างสุรุ่ยสุร่าย คิดอะไรได้ ก็ทำ โดยไม่ได้คำนึงถึงความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ทำไปก่อน เป็นหนี้ก็หมกเอาไว้ โครงการหลายๆ โครงการทำเอาไว้แล้วแก้ยาก เช่น อีลิทการ์ด ทำไปโดยไม่คิด ทุนมี 500 ล้านบาท แต่ขาดทุนไปแล้ว 900 ล้านบาท และก็แก้ไม่ได้ด้วยเพราะไปผูกพันกับต่างประเทศเอาไว้ แบงก์รัฐต่างๆ ก็ใช้เงินนอกระบบเสียจนกลายเป็นปัญหาหนี้เสียจำนวนมากอยู่จนทุกวันนี้
ปกติผมไม่ใช่คนที่จะตอบโต้อะไร แต่มาว่าประเทศไทยอย่างนี้ผมก็ไม่ชอบเหมือนกัน อยากจะโม้ ก็ไม่ควรเอาของไม่ดีไปโม้ แล้วไปโม้ที่ต่างประเทศ อย่างนี้มันทำลายประเทศชาติ ไหนว่ารักชาติไง อย่างนี้คนคนนี้ไม่ได้รักชาติจริง"
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01p0104010250