โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
31 มกราคม 2550 15:47 น.
เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2550 นายนพดล ปัทมะ ทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เปิดโรงแรมเช่นเคย และออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้ทางการเมืองเหมือนทุกๆวัน
หลังจากตอบโต้จนหมดคำถามแล้ว ในขณะที่นายนพดล ปัทมะ กำลังจะเดินจากไปจากห้องแถลงข่าว นายนพดลก็ได้พูดผ่านกล้อง ASTV เป็นการเฉพาะ ตอบกลับในทำนองว่า ฝากบอกคุณสนธิด้วยว่ายังมีความรู้สึกที่ดีต่อคุณสนธิอยู่ แต่ไม่ควรที่จะนำรูปตัวเขาเองไปเทียบกับ...
เสียงนักข่าวคนหนึ่งพูดขานรับขึ้นมาทันทีว่า คุณทองแดง!? หลังจากนั้นนายนพดลก็ไม่ได้ตอบอะไรแล้วเดินจากไป....
ถ้านายนพดล ปัทมะ ไม่ต้องการที่จะให้มาเปรียบเทียบกับคุณทองแดงจริงๆ แล้ว ทำให้ต้องพิจารณาต่อมาว่าภาพที่ ASTV ได้เคยนำเสนอออกอากาศเปรียบเทียบระหว่างนายนพดล และ คุณทองแดงนั้นเป็นอย่างไร?
ภาพแรก เป็นภาพคุณทองแดงอยู่ด้านบน และภาพนายนพดล ปัทมะอยู่ด้านล่างใต้ภาพคุณทองแดงมีตัวอักษรอ่านว่า สุนัขทรงเลี้ยง และตัวอักษรที่อยู่ด้านล่างของภาพนายนพดล ปัทมะ มีตัวอักษรใต้ภาพว่า นักเรียนทุนในหลวงทรงอุปถัมภ์
ภาพที่สอง เป็นภาพใบหน้าคุณทองแดงเต็มหน้าอยู่ด้านซ้าย ส่วนภาพหน้าของนายนพดลอยู่ด้านขวา มีตัวอักษรอยู่ใต้ภาพเหมือนกันกับภาพแรก
ทำให้ต้องถามต่อไปอีกว่าทั้งสองภาพนั้น มันบาดตาบาดใจนายนพดลตรงไหน ระหว่างภาพแรกหรือภาพที่สอง หรือทั้งสองภาพ!!!
สำหรับคนไทยแล้วการได้มีโอกาสถ่ายรูปร่วมกับ คุณทองแดง ได้ต้องถือว่ามีความโชคดีมากเพราะเป็นสุนัขทรงเลี้ยง ภาพคุณทองแดงอย่างเดียวก็ยังได้รับความนิยมในหมู่ประชาชนชาวไทยทั่วไป ทั้งที่เป็นรูปถ่ายและทั้งที่เป็นเสื้อยืดที่ปักรูปคุณทองแดงที่ขายดิบขายดีในนาม สุวรรณชาด
ภาพคุณทองแดงอันเป็นที่ชื่นชอบและเป็นที่นิยมในหมู่ประชาชนได้ก็เพราะคุณทองแดงเป็นสุนัขทรงเลี้ยงที่มีความฉลาด กตัญญูรู้คุณ และมีความจงรักภักดีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงถือเป็นภาพที่เป็นสิริมงคล
ทองแดง เกิดเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 41 แม่ของทองแดงชื่อ แดง ซึ่งเป็นสุนัขจรจัดบริเวณถนนพระรามเก้า คนงานในหมู่บ้านช่วยกันเลี้ยงดู รวมทั้งป้อนนมให้ลูกสุนัข เพราะ แดง ไม่มีนมให้ลูกกิน นายแพทย์คนหนึ่งนำ ทองแดง มาทูลเกล้าถวายให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จากลูกสุนัขข้างถนน ทองแดง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณนำเข้ามาในสวนจิตร ถวายตัวเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2541 เมื่อมีอายุได้เพียง 5 อาทิตย์ และกลายเป็นสุนัขทรงเลี้ยง คุณทองแดง
ส่วนนายนพดล ปัทมะ จากเด็กต่างจังหวัดเข้ามาเรียนในกรุงเทพมหานคร และนพดลก็ได้รับเลือกให้เป็นนักเรียนอานันทมหิดล ไปศึกษาต่อด้านกฎหมายทางธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด อังกฤษ กระทั่งจบปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต และปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต ในปี 2533 จากนั้นได้เรียนต่อเนติบัณฑิตอังกฤษ ลินคอร์น อินน์ (Lincoln s inn) จบออกมาจนเป็น นายนพดล ในวันนี้
ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีตัวอักษรใต้ภาพว่า สุนัขทรงเลี้ยง กับ นักเรียนทุนในหลวงทรงอุปถัมภ์ ก็เพราะว่าทั้งคุณทองแดง และนายนพดล ปัทมะ ต่างก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยกันทั้งสิ้น
แต่หลังจากได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ชีวิตของ คุณทองแดง ช่างแตกต่างจากชีวิตของ นายนพดล ปัทมะ อย่างสิ้นเชิง
ทองแดงเป็นสุนัขกตัญญูรู้คุณ เมื่อมาใหม่ ๆ ต้องอาศัยนม แม่มะลิ ที่เสมือนเป็นแม่นม ตอนแรกทองแดงไม่เคยอยู่ห่าง แม่มะลิ ต่อมาเมื่อแยกกันอยู่ เมื่อมาพบกันทองแดงก็ยังเคารพ แม่มะลิ ซึ่ง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์การกระทำของทองแดงในเรื่องความกตัญญูนี้ว่า
ผิดกับคนอื่นที่เมื่อกลายมาเป็นคนสำคัญแล้วมักจะลืมตัว และดูหมิ่นผู้มีพระคุณ ที่เป็นคนต่ำต้อย ส่วนนายนพดล ปัทมะ พอจบการศึกษามาด้วยทุนอานันทมหิดล กลับมาก็ทำงานในภาคเอกชนหาเงิน!!! โดยยังมีคำถามอยู่ว่านายนพดลได้มีโอกาสสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสำรวจวัตถุประสงค์ของทุนนี้หรือไม่?
เพราะแม้ว่าทุนอานันทมหิดลจะไม่มีข้อผูกมัดในสัญญาใดๆ แต่มูลนิธิอานันทมหิดลมีวัตถุประสงค์ของทุนการศึกษานี้ระบุเอาไว้อย่างชัดเจน 4 ข้อ คือ หนึ่ง เพื่อประโยชน์ต่อผู้ที่ได้รับทุนจนนำวิชาความรู้กลับมาถ่ายทอดแก่ชนรุ่นหลัง ช่วยพัฒนาประเทศ สอง เพื่อการประกอบอาชีพหรือเพื่อค้นคว้าสำหรับผู้ที่ได้รับพระราชทานทุนที่มีความสามารถดีเยี่ยม มีคุณธรรม สาม เพื่อจัดตั้งสถาบันวิชาการเพื่อให้ผู้ที่ได้รับพระราชทานทุนทำการค้นคว้าทางวิชาการ สี่ ร่วมมือกับสถาบันอื่นที่มีวัตถุประสงค์คล้ายคลึงกัน เพื่อให้การสนับสนุนทางวิชาการกว้างขวางทั่วถึงขึ้น
นายนพดลได้เคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2549 ถึงความภาคภูมิใจของตัวเองต่อการก้าวหน้าของชีวิตตัวเองว่า:
ผมเป็นคนไม่มีมรดก ผมสร้างชีวิตของผมเอง เริ่มจากศูนย์ตลอด จากเด็กเลี้ยงวัว มาเป็นเด็กวัด พ่อแม่ไม่มีมรดกให้ผม ผมเป็นคนโคราช ผมเกิดปีฉลู แปลว่าวัว โคราชก็เกี่ยวกับวัว แล้วก็จบออกซ์ฟอร์ด ก็เกี่ยวกับวัวอีก (หัวเราะ) ทีนี้ผมก็เลยต้องมาทำมาหากินโดยการตั้งสำนักงานกฎหมาย
นายนพดล ปัทมะ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและทำตามวัตถุประสงค์ของทุนพระราชทานแล้วหรือไม่ โปรดพิจารณา!!!!
ทุกวันนี้คุณทองแดงเป็นสุนัขทรงเลี้ยงที่ไม่เข้ามาเคลียคลอ หรือตีเสมอพระองค์ท่าน เวลาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนิน คุณทองแดงจะนำเสด็จอยู่หน้าพระองค์ท่านเพื่อตรวจตระเวนความเรียบร้อย ... เวลาพระองค์ท่านประทับนั่ง คุณทองแดงก็จะนั่งหมอบอยู่ด้านหน้า ใช้สองขาหน้าเกยกันเหมือนคนกำลังหมอบคลาน เป็นท่านี้ตลอด แล้วหันหน้าออกไปด้านนอก คอยระแวดระวังความปลอดภัยและความเรียบร้อยด้านนอกอย่างเดียว
ในขณะที่นายนพดล ปัทมะ วันนี้ออกมาทำหน้าที่เป็นทั้ง ทนายความ และ โฆษกทางการเมือง ที่แถลงข่าวรายวันเพื่อเอาชนะทางการเมืองให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยนายนพดล ปัทมะ อ้างว่าเพราะคนยังไม่มีความผิดจึงมีสิทธิ์ที่จะพิสูจน์และใช้ทนายความต่อสู้
สำคัญตรงที่นายนพดล ปัทมะนั้นมีการศึกษาที่ดีได้โดยอาศัยทุนอานันทมหิดล ลำพังปล่อยให้บ้านเมืองมีการคอร์รัปชันกันอย่างมโหฬาร หรือปล่อยให้มีการโกงการเลือกตั้งกันอย่างกว้างขวาง โดยไม่แสดงสติปัญญาในการต่อสู้ในเรื่องเหล่านี้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็ถือได้ว่าบกพร่องต่อหน้าที่อย่างใหญ่หลวงแล้ว
วันนี้กำลังรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างไม่ลืมหูลืมตา โดยไม่สนใจเสียด้วยซ้ำไปว่าหนึ่งในเหตุผลของการรัฐประหารที่ผ่านมาก็คือ การมีพฤติกรรมหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
นายนพดล ปัทมะ มีหรือที่จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมาอันเป็นเหตุทำให้เกิดการรัฐประหาร ทบทวนกันอีกครั้งให้ก็ได้ ถึงคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ว่า ถ้าผมไม่จงรักภักดี ผีที่ไหนจะจงรักภักดี หรือที่พูดว่า พร้อมจะลาออกหากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมา กระซิบ หรือในกรณีการโยกย้ายข้าราชการก่อนมีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง แม้กระทั่งกรณีการใช้เงิน 1,000 ล้านบาทที่ตั้งเงื่อนไขว่าจะทูลเกล้าฯ ถวายต่อเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมางานสโมสรสันนิบาตของรัฐบาลชุดที่แล้ว ตลอดจนการของบประมาณเพื่อซื้อเครื่องบินไทยคู่ฟ้าที่ใช้เหตุผลว่าจะมาใช้เป็นพระราชพาหนะสำรอง แต่สุดท้ายเจ้านายเอามาใช้เสียเอง หรือแม้กระทั่งการตัดตราครุฑออกจากบัตรประชาชนชาวไทย ฯลฯ
ยังไม่นับกรณีล่าสุดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปให้สัมภาษณ์ในต่างประเทศที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนกระแสสื่อสารมวลชนต่างประเทศที่พร้อมใจออกกันมาอย่างเป็นกระบวนการในความพยายามเปรียบเทียบ เศรษฐกิจพอเพียง กับ ทักษิโณมิกส์ นายนพดล ปัทมะ คนที่เคยเป็นนักเรียนทุนอานันทมหิดล ได้เคยออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้การกระทำที่ไม่บังควรของสื่อสารมวลชนเหล่านั้น ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหรือไม่?
แต่อันที่จริงแล้ว จริยธรรม และ ความกตัญญู นั้นมีระดับสูงกว่าตัวบทกฎหมาย แต่สำหรับนายนพดล ปัทมะแล้ว อาจจะไม่ได้เข้าใจเช่นนี้ก็ได้ เพราะ
นายนพดลได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2549 ถึงกรณีการหลบเลี่ยงภาษีของตระกูลชินวัตรว่า ผมคิดว่าในเมื่อไม่ผิดกฎหมาย มันก็ไม่ผิดจริยธรรม
ในขณะที่ จริยธรรม ความกตัญญู และ ความจงรักภักดี ของ คุณทองแดง แสดงได้ด้วยการปฏิบัติทั้งชีวิตโดยที่ไม่ต้องมีกฎหมายใดๆมาบัญญัติหรือกำหนดเอาไว้ทั้งสิ้น ส่วนนายนพดล ไม่อยากจะไปถูกเปรียบเทียบกับคุณทองแดงนั้น จะเป็นเพราะอายคุณทองแดงหรือไม่ หรือกลัวว่าคุณทองแดงจะเสื่อมเสียเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเองหรือไม่ อันนี้ไม่ทราบได้จริงๆ