ขอแสดงความยินดี กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส

อ้างจาก: สหายตุ๊ ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 04:05:17 PM

ช่วยเล่าเรื่องดีๆของท่านให้ฟังบ้างสิครับ

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ สอบเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 8 ก่อนจะเลือกเหล่าตำรวจเป็น นรต.24 ซึ่งมีเพื่อนร่วมรุ่นอาทิ พล.ต.ท.ดร.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ กรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ท.ปรุง บุญผดุง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล, พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ถาวรศักดิ์ เทพชาตรี ผู้บัญชาการสำนักงานวิทยาการตำรวจ

รับราชการครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2514 ในพื้นที่นครบาลก่อนออกไปอยู่ สภ.อ.เมืองสกลนคร ในปีเดียวกัน โดยวนเวียนอยู่ใน จ.นครพนม 2 ปีก็ถูกส่งไปอยู่โรงเรียนนายร้อย

กระทั่งปี 2519 กลับมาขึ้นเป็นสารวัตรที่ สภ.อ.นาแก จ.นครพนม และขึ้นเป็นสารวัตรใหญ่ ที่เดียวกัน ซึ่งที่นี่เองสร้างฉายา “วีรบุรุษนาแก” ให้เขา เพราะยุคนั้นพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สีชมพู ซึ่งถือเป็นเขตอิทธิพลของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย แต่ พ.ต.ต.เสรี (ชื่อ-ยศ ในขณะนั้น) ก็นำกำลังเข้าปะทะอย่างไม่หวาดกลัวสร้างความสูญเสียให้ฝ่ายตรงข้ามไม่น้อย

กระทั่งเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2520 พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์ รามาธิบดี “เหรียญรามมาลา เข็มกล้ากลางสมร” ซึ่งเหรียญดังกล่าวจะพระราชทานให้ผู้ทำความดีความชอบ เป็นพิเศษในราชการทหาร ไม่ว่าในยามสงบหรือยามสงคราม

จากนั้น เขาก็เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยปี 2526 เป็นผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ครองยศ พ.ต.อ. เมื่อมีอายุเพียง 35 ปี และเป็นตำแหน่งสุดท้ายที่ประจำการอยู่ในภาคอีสาน เพราะอีก 3 ปีต่อมาเขาก็ย้ายมาสู่ภาคตะวันออกที่สร้างชื่อเสียงให้ไม่แพ้กัน

เริ่มจากเป็นผู้กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และผงาดเป็นผู้บังคับการกองปราบ หรือ "ผู้การประเทศไทย" ในปี 2533 และถูกลองของด้วยการลอบวางระเบิดที่ทำงานโดย ยังจับมือใครดมไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ ทำให้อยู่ในตำแหน่งเพียง 6 เดือน แต่เขาก็เริ่มส่งสัญญาณไปถึงผู้มีอิทธิพลฝั่งตะวันออกด้วยการนำกำลังคอมมานโดเข้าไปกดดันในพื้นที่ จ.ชลบุรี

ชื่อของเขากลับมากระหึ่มอีกครั้งเมื่อเป็นผู้ช่วยหัวหน้าตำรวจภูธรภาค 2 รับบทหัวหน้าพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ นายสมชาย คุณปลื้ม หรือ “กำนันเป๊าะ” และพวกในข้อหาทุจริตที่ทิ้งขยะเขาไม้แก้ว กระทั่งในปี 2546 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี 4 เดือน จากนั้นในปี 2547 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน “กำนันเป๊าะ” จึงต้องฝากความหวังเอาไว้กับศาลฎีกา!

การออกโรงปะทะกับคนระดับกำนันเป๊าะย่อมทำให้คนในยุทธจักรสั่นสะเทือน และทำให้นามของเขากระเดื่องดังขึ้นไปอีกจน "ชาละวันเมืองพิจิตร” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย (ในขณะนั้น) แต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.)

ในยุคที่ประชาธิปัตย์ครองเมืองชื่อของ “เสรี” เป็นที่ครั่นคร้ามไปทั่วแผ่นดิน เมื่อได้รับมอบหมายให้ทำงานหินๆ เช่น ปราบมาเฟียสนามม้า หรือการไล่จับทุจริตซื้อเสียงจนทำให้เกิดฉายา “ยี้ห้อย ร้อยยี่สิบ”

แต่ความคลางแคลงใจของสังคมก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อเขารับผิดชอบคดีทุจริตฝายราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีนักการเมือง (ที่ไม่ใช่ประชาธิปัตย์) หลายคนเข้าไปเกี่ยวข้อง และหนึ่งในนั้นปัจจุบันเป็นถึงเสนาบดีในรัฐบาล “ทักษิณ”2/1 จนเกิดวิวาทะอย่างรุนแรงระหว่างเขากับ ส.ส.กลุ่มดังกล่าว

ไม่เพียงแต่นักการเมืองเท่านั้นที่เขาออกมาตอบโต้ด้วยปฏิกิริยาเผ็ดร้อน แต่กับแกนนำชาวบ้านกลุ่มสมัชชาคนจน นักวิชาการ เอ็นจีโอ สื่อมวลชน กระทั่งหมอผี เขาก็ปะทะด้วยอย่างดุเดือดนำมาซึ่งการฟ้องร้องกันไปมากว่า 100 คดีทำให้ภาพของวีรบุรุษไม่ผ่องใสเหมือนเก่า

แม้จะขยับขึ้นเป็นผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ และเปลี่ยนเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในเวลาต่อมา แต่เมื่อไม่ได้รับมอบหมายให้ดูแลสายงานปราบปรามทำให้นาม "วีรบุรุษนาแก" ค่อยๆ จางไปจากสังคม กระทั่งกลางปี 2547 นาม พล.ต.ท.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ปรากฏขึ้นมาท่ามกลางความงุนงงของหลายฝ่ายก่อนที่จะได้รับการเฉลยว่าคือคนเดียวกับ "เสรี เตมียเวส" นั่นเอง !?

การปรากฏกายครั้งนี้เพื่อคัดค้านที่ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผบ.ตร. (ในขณะนั้น) เสนอชื่อ พล.ต.ท.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ภรรยาของ "ท่านผู้นำ" ให้ขึ้นเป็น รอง ผบ.ตร. ต่อที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และฟ้องร้องต่อศาลปกครองให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว

แม้การร้องคัดค้านจะไม่มีผลโดยตรง แต่ในเดือนตุลาคมปีเดียวกันเขาก็ได้ขยับขึ้นติดยศ พล.ต.อ. เป็น รองผบ.ตร. ในที่สุด!

กระทั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติปรับโครงสร้างใหม่ เปิดตำแหน่ง "จเรตำรวจแห่งชาติ" ซึ่งมีหน้าที่ในการปราบปรามการทุจริตในองค์กร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็ได้รับความไว้วางใจจาก พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ให้เป็นผู้ถือดาบอาญาสิทธิ์เชือดสีกากีนอกแถว และได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบคดีทุจริตลำไยอบแห้ง แต่ที่กลับมาแจ้งเกิดอย่างเต็มๆ ก็เห็นจะเป็นการได้รับบทมือปราบมาเฟียเมืองกรุงนั่นเอง

นับเป็นความชาญฉลาดทางการเมืองเป็นอย่างยิ่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.ต.อ.ชิดชัย ที่เลือกเอาบุรุษผู้ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมมาทำงาน เพราะหากทำสำเร็จ เครดิตย่อมเป็นของรัฐบาล แต่ถ้าไม่...พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็ต้องรับ "เผือกร้อน" ไปเต็มๆ

ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องที่ต้องวัดใจกันว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะกระโดดลงมาชนเองหรือไม่ เพราะเวทีปราบเจ้าพ่อเจ้าแม่ทั้งหลายในครั้งนี้ อาจจะเป็นเวทีสุดท้าย ที่ส่งให้เขาไปถึงดวงดาวที่ชาวสีกากีทุกคนใฝ่ฝันถึง !?!?

หามาให้อ่านแค่นี้ก่อน
ด้วยความเคารพครับ
ขอแสดงความยินดีกับท่านด้วยครับ

	ผู้เขียน	หัวข้อ: ขอแสดงความยินดี กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส (อ่าน 7390 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 9 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้