เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กันยายน 27, 2024, 06:18:32 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สาระน่ารู้เกี่ยวกับกาแฟครับ  (อ่าน 9023 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
quick-รักในหลวง
ตึงไปก็ขาด ย่อนไปก็ยาน คงความเป็นกลางไว้
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 48
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2043



« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2007, 10:30:57 PM »

ประโยชน์ของกาแฟ
นับตั้งแต่สมัยโบราณ คนเรารู้จัก "กาแฟ" มาเป็นระยะเวลากว่าพันปีแล้ว จวบจนปัจจุบันกาแฟนับเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมยิ่งและนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก แต่จะมีอีกกี่คนที่ทราบว่านอกจากรสละมุนลึกล้ำแล้ว หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม "คาเฟอีน" ในกาแฟมีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจในหลายด้านด้วยกัน
คาเฟอีนกระตุ้นให้สมองตื่นตัว ซึ่งจะเร่งความเร็วของการประมวลผลข้อมูล ในสมองและย่นระยะเวลาในการตอบสนอง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของงานที่ต้องการสมาธิ การใช้เหตุผลและความจำ คาเฟอีนในปริมาณที่พอเหมาะ ช่วยลดความหงุดหงิด อารมณ์ซึมเศร้าและความเครียดได้ ทำให้ผู้ดื่มรู้สึกพึงพอใจและมีความสุข
ด้านโภชนาการ การดื่มกาแฟช่วยให้ร่างกายได้รับของเหลวเข้าไปในปริมาณที่เพียงพอต่อวัน อีกทั้งเนื้อกาแฟยังมีแร่ธาตุไนแทซเซียมและไนอาซีน ซึ่งเป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ นอกจากนี้ยังมีรายงานวิจัยว่าคาเฟอีนช่วยกระตุ้นการใช้พลังงานของร่างกาย ทำให้ไขมันสลายตัวเพิ่มขึ้น จึงอาจดื่มกาแฟเป็นเครื่องดื่มในการลดน้ำหนัก และเนื่องจากคาเฟอีนและสารอื่นที่มีอยู่ในกาแฟช่วยกระตุ้นการหลั่งกรดและน้ำย่อย กาแฟจึงช่วยในการย่อยอาหารเป็นเหตุให้คนจำนวนมากดื่มกาแฟหลังอาหารแต่ละมื้อ
จากการวิจัยทางการแพทย์สหรัฐฯ โดยดร.จี เวปสเตอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทและคณะจากศูนย์การแพทย์นครฮอนโนลูลู สหรัฐฯ พบว่าผู้ชายที่ไม่ดื่มกาแฟมีโอกาสที่จะป่วยเป็นโรคพาคิสันมากกว่าพวกที่ดื่มกาแฟมากกว่าวันละ 5 ถ้วย ถึง 5 เท่า
ผลกระทบของคาเฟอีนต่อเส้นเลือดมีประโยชน์ต่อวงการแพทย์ เพราะคาเฟอีนช่วยไปขยายหลอดเลือดแดงที่หล่อเลี้ยงหัวใจ ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เส้นเลือดแดงบริเวณที่ศีรษะหดตัว ซึ่งช่วยลดอาการปวดหัวจากไมเกรนได้ จากการศึกษาของนายแพทย์ วินเซนต์ ทูบิโอโล แห่งศูนย์การแพทย์ยูซีแอลเออ-ฮาร์เบอร์ ได้ตั้งทฤษฎีใหม่ว่า การรับคาเฟอีนจำนวน 400 มิลลิกรัมต่อวัน อาจช่วยลดอาการแพ้เกสรดอกไม้ได้
จากรายงานการวิจัยในกลุ่มสตรีที่ดื่มกาแฟไม่เกิน 5 ถ้วยต่อวันพบว่า กาแฟไม่มีส่วนทำให้เป็นการเสี่ยงต่อการเป็นโรคของหัวใจมากขึ้น แม้ในรายที่มีปัญหาเส้นเลือดอุดตันหรือหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟทุกวัน วันละหกถ้วยขึ้นไปก็ไม่มีอัตราหัวใจสูงกว่าปกติ และจากการสำรวจหลายครั้ง รวมทั้งการวิจัยโดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่าผู้ดื่มกาแฟมีอัตร่การเป็นมะเร็งเต้านมต่ำกว่าผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟ ส่วนการศึกษาของมหาวิทยาลัยบอสตันพบว่า คนไข้ที่ดื่มกาแอย่างน้องห้าถ้วยต่อวัน มีความเสี่ยงเป้นมะเร็งลำไส้ต่ำกว่ากลุ่มอื่นถึงร้อยละ 40
กาแฟยังกลายเป็นข่าวดีสำหรับผู้ชายทั่วโลก เมื่อดร.ดาร์ซี โรแบร์โตลิมา ผู้เชี่ยวชาญด้านเภสัชวิทยาของมหาวิทยาลัยริโอ เดอจาเนโร ในบราซิล เปิดเผยว่า ผู้ที่มีปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศอันเนื่องมาจากการดื่มสุรา การเสพยา ภาวะซึมเศร้าและอายุขัย สามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะในแต่ละวัน

1. ป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ B มีผู้วิจัยพิสูจน์แล้วว่า กาแฟมีประโยชน์ในการป้องกัน โรคดังกล่าว
2. ป้องกันโรคหอบ โรคนี้ คือ อาการ ภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง โดยทั่วไปเมื่อมีประสาทสำรองไม่ถูกกระตุ้น จะไม่มีอาการหอบเกิดขึ้นง่ายๆ แต่ถ้าหากประสาทสัมผัสสำรองถูกกระตุ้น จะเกิดอาการหอบทันที และคาเฟอีนในกาแฟจะระงับการตึงเครียดของประสาทสัมผัสสำรอง ลดการเกิดโรคหอบ
3. ลดการเกิดโรคตับจากสุรา ตามที่นักวิชาการสำรวจแล้วพบว่า กาแฟช่วยลดผลร้ายที่จะมีต่อตับ แต่ยังต้องวิจัยต่อไปว่า สารใดที่มีประโยชน์ดังกล่าว และมีผลต่อสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดโรคตับแข็งหรือไม่ นอกจากแอลกอฮอล์
4. ป้องกันมะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งในช่องปาก จากผลการทดลองจริง พบว่ากาแฟมีประสิทธิภาพป้องกันโรคขั้นต้น โดยเฉพาะในคาเฟอีนมีกรดอะซิติก ที่ช่วยป้องกันโรค
5. ขับไล่ความชรา ออกซิเจนเป็นสารที่ร่างกายต้องการมากก็จริง แต่ถ้ามีออกซิเจนมากไป ทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งสูงและแก่เร็ว โดยเฉพาะกาแฟที่เข้มข้น จะทำให้ออกไซด์แตกตัว ลดการเกิดมะเร็งได้ กระตุ้นการเผาผลาญอาหารในร่างกาย
6. กาแฟลดอัตราคอเลส-เตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ ในกาแฟมีนิโคติน แต่ไม่ใช่ชนิดเดียวกับในบุหรี่ แต่เป็นวิตามิน B รวมชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายต้องการ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด จึงป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือดแข็งตัว
7. ละลายไขมัน กาแฟที่ทานหลังอิ่มอาหาร ช่วยให้ไขมันแตกตัว และให้พลังงานทดแทนจึงลดความอ้วนได้
8. กาแฟเพิ่มไขมันชนิดดีให้ร่างกาย ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ตามผลการวิจัยพบว่า คนที่ดื่มกาแฟบ่อยๆ จะมีไขมันชนิด (HDL) เพิ่มขึ้น ซึ่งไขมันชนิดนี้จะขับไล่คอเลสเตอรอลออกไป ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว
9. แก้ปวดศีรษะ กาแฟมีส่วนผสมของคาเฟอีนที่ขยายหลอดเลือด ระงับอาการปวดได้เช่นเดียวกับยาแก้ปวด และยังช่วยขับปัสสาวะ ละลายไขมันในเส้นเลือด และช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ เนื่องจากเมาสุราได้
10. เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมองและสมรรถภาพสมอง มีผู้เชี่ยวชาญสรุปผลการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาว่า ความหอมของกาแฟช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานได้เร็วขึ้น และมีสมาธิ ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น นั้นเป็นเพราะกลิ่นกาแฟ ทำให้เลือดไหลเวียนในสมองเพิ่มขึ้น
11. ดื่มกาแฟเล็กน้อยทำให้น้ำย่อยในกระเพาะหลั่งดีขึ้น ไขมันแตกตัว หากได้ดื่ม กาแฟเล็กน้อยหลังทานอาหารเสร็จ คาเฟอีน ในกาแฟจะมีประโยชน์ต่อกระเพาะโดยตรง น้ำย่อยที่กระเพาะและตับอ่อนเพิ่มขึ้น ไขมันถูกเผาผลาญ
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกาแฟ
ถ้าจะถามว่าควรดื่มกาแฟวันละมากน้อยเท่าใด คงหามาตรฐานมาตอบไม่ได้ ต้องดูตามความชอบ และสภาพร่างกายผู้ดื่ม โดยทั่วไป ดื่มให้อร่อยหรือพอใจ คงจะเหมาะสม แต่ก็ควรสังเกตลักษณะอื่นๆ โดยละเอียดดังนี้
ดื่มกาแฟตอนเย็น ทำให้นอนไม่หลับไหม หลายคนเคยมีประสบการณ์มาบ้าง แต่กาแฟก็มีผลต่อร่างกาย แต่ละคนต่างกัน ถ้ากลัวว่าจะนอนไม่หลับ ให้ดื่มน้อยลง ทว่ากาแฟมีผลในการขับปัสสาวะ อาจทำให้ต้องลุกเข้าห้องน้ำกลางดึก รบกวนการนอนได้
คนมีครรภ์ควรดื่มกาแฟไหม เป็นเพราะว่าคาเฟอีนในกาแฟ จะส่งผลต่ออวัยวะภายในของทารกที่ยังอ่อนแออยู่ จึงไม่ควรดื่ม
เด็กเล็กไม่ควรดื่มกาแฟ โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 10 ขวบ
หญิงลูกอ่อน ที่คลอดลูกแล้ว 100 วัน และอยู่ในช่วงให้นมลูก ไม่ควรดื่มกาแฟ เพราะช่วง 100 วันนี้ ทารกต้องการน้ำนมบริสุทธิ์จากแม่ การดื่มอะไรเข้าไปจะส่งผลต่อทารกได้ จึงต้องระวัง
คนเป็นโรคกระเพาะควรงดกาแฟ เพราะคาเฟอีนจะกระตุ้น การหลั่งน้ำย่อยในกระเพาะ จะยิ่งเพิ่มกรดในกระเพาะให้อักเสบมากขึ้น
คนเป็นโรคหัวใจ ไม่ควรดื่มกาแฟ เพราะคาเฟอีน มีบทบาทในการกระตุ้นหัวใจ ทำให้เลือดเพิ่มขึ้น ซึ่งกรณีนี้ไม่เป็นอันตรายต่อเด็กวัยรุ่นถ้าดื่มกาแฟ แต่ถ้าเป็นคนชราที่มีโรคหัวใจอยู่ จะทำให้ประสิทธิภาพหัวใจดีเกินไป และหัวใจเสื่อมเร็ว จึงไม่ควรดื่มอย่างยิ่ง


ประวัติกาแฟ
แหล่งกำเนิดของกาแฟเดิมเป็นพืชพื้นเมืองของ อบิสซิเนีย และอราเบีย ซึ่งสันนิษฐานกันว่าเป็นกาแฟพันธุ์อราบิกา (Coffee Arabica Linn) ส่วนกาแฟพันธุ์โรบัสตา (Coffee Robusta Linden) เป็นพืชพื้นเมืองในป่าแถบเส้นศูนย์สูตรในอัฟริกาตั้งแต่ West Cost จนถึง Uganda และ Southern Sudan หรือบางทีอาจรวมทั้ง Western Abyssinia ซึ่งเป็นแถบที่มีฝนตกพอเพียงมีอากาศอบอุ่นพอเหมาะ และความชื้นสูง

ชาวโลกเริ่มรู้จักกาแฟครั้งแรกในศตวรรษที่ 9 คาลดี (KALDI) คนเลี้ยงแพะ ชาวอาระเบียเป็นผู้ได้รับเกียรติพอเชื่อถือได้ว่า เป็นผู้พบประโยชน์ของกาแฟในการใช้เป็นเครื่องดื่ม แต่บางท่านกล่าวว่า พระม๊อสเล็มองค์หนึ่ง ชื่อ ฮะยีโฮเมอร์ (Hadji Omer) ถูกขับไล่ออกจากเมืองเมกกา (Mecka) ใน คศ. 1285 เป็นคนแรกที่ได้ดื่มกาแฟ
นอกจากกาแฟจะใช้เป็นเครื่องดื่มแล้ว ชาวอราเบียยังใช้รับประทานด้วย โดยใช้ใบที่บดละเอียดคลุกกับเมล็ดกาแฟและไขมันปั้นเป็นก้อนรับประทาน การดื่มกาแฟได้แพร่ขยายอย่างรวดเร็วเป็นธรรมดาที่การสร้างสวนกาแฟจะต้องเกิดขึ้นตามมา ประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นประเทศแถบที่มีอากาศร้อนก็พากันปลูกกาแฟกันทั่วไป ดังนั้น ในปัจจุบันจึงมีการปลูกกาแฟแพร่หลายทั่วโลก การปลูกกาแฟในประเทศไทย ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่นอนว่า กาแฟถูกนำเข้ามาเพาะปลูกในประเทศไทยเมื่อใด แต่ความนิยมบริโภคกาแฟเริ่มตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และเป็นที่นิยมมากขึ้นใน รัชกาลที่ 6 หลังจากได้มีนักเรียนไทยไปเรียนต่างประเทศ และนำวัฒนธรรมการดื่มกาแฟกลับมา กล่าวกันว่า มีการพบต้นกาแฟรุ่นแรกพันธุ์โรบัสตา ซึ่งนำพันธุ์มาจากเมืองเมกกะ โดยนายตี้หมุน ชาวไทยอิสลามนำกลับมาหลังจากการเดินทางไปแสวงบุญ โดยนำมาปลูกที่ตำบลบ้านโหนด อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ประมาณอายุได้ว่า นำเข้ามาปลูกเมื่อประมาณ พ. ศ.2447 ส่วนกาแฟในภาคตะวันออกสันนิษฐานว่า พระในนิกายแคทอลิกจากเวียดนามใต้เป็นผู้นำเข้ามาปลูก ส่วนในภาคเหนืออาจจะนำเข้ามาจากพม่าด้านแม่สาย จากนั้นจึงกระจายไปทั่วประเทศ
บันทึกการเข้า
CT_Pro4
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 537
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4869



« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2007, 10:38:36 PM »

...ขอบคุณครับ ได้ความรู้ใหม่...  Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

Every problem contains the seeds of its own solution.- Stanley Arnold
sigsax
Hero Member
*****

คะแนน 206
ออฟไลน์

กระทู้: 1778


ขึ้นลำแล้วลดนก


« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2007, 10:40:33 PM »

ขอบคุณครับ . .. ..
บันทึกการเข้า

Virus
Hero Member
*****

คะแนน 6
ออฟไลน์

กระทู้: 1759



« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2007, 11:14:15 PM »

 Smiley  ขอบคุงค่ะ
บันทึกการเข้า

จะดี จะชั่ว อยู่ที่ตัวทำ
จะสูง จะต่ำ อยู่ที่เราทำตัว
กะเเด่ว
Full Member
***

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 315



« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2007, 11:24:37 PM »

ชอบดื่มกาแฟครับ...แต่ถ้าแก้วเป็นร้อยคงไม่ไหว....ขอบคุณมากครับ  Smiley
บันทึกการเข้า

บางครั้งมิตรภาพในอินเตอร์เนท มันก็ยั่งยืนมากกว่าในมิตรภาพในโลกความจริง
auauto
Jr. Member
**

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 40


« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2007, 11:25:16 PM »

ขอบคุณครับ ผมคอกาแฟเหมือนกัน
บันทึกการเข้า
east
Sr. Member
****

คะแนน 2
ออฟไลน์

กระทู้: 572


« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2007, 11:28:34 PM »

  แวะมาดู ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
Narin CZ
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2007, 11:32:08 PM »

ว่าแต่ว่าผมขอ Expresso ซั๊กถ้วยนะครับคุณ ควิก ขอพันธุ์ Arabica ด้วยนะครับ แหม.....แบบว่ามันอยาก.. น้ำลายหก Grin
บันทึกการเข้า
toi
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 373

ทุกๆสิ่งมีสองด้านเสมอ


« ตอบ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2007, 11:46:58 PM »

ขอบคุณครับอ่านแล้วอยากกินกาแฟ...ปกติผมก็ไปนั่งร้านกาแฟทุกวันดืมทุกวันเพิ่งจะรู้เรื่องกาแฟวันนี้ ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2007, 11:51:20 PM »

 Grin ผมชอบเอสเปรสโซ่+น้ำตาล 11/2 ช้อนครับ Grin
บันทึกการเข้า

SATIN
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 203


« ตอบ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2007, 11:55:53 PM »

ผมว่าชนชาติที่นำกาแฟมายังไทย  คือชาวอิสลามที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาและอีกส่วนที่สำคัญคือ  คนจีนที่เข้ามาตั้งรกรากในไทย  ครับ
ลองแลกเปลี่ยนกันดู 
ขอบคุณ จขกท. มากทำให้ข้อสงสัยเรื่องสุขภาพกับกาแฟหายไปเยอะเลย  ทำให้ผมรักกาแฟมากขึ้น จากวันละ 4-5 แก้วน่าจะเป็น10แก้วได้เลย
บันทึกการเข้า
harusame
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2007, 11:56:32 PM »

ขอบคุณค่ะ สำหรับความรู้มาแบ่งปัน  Cheesy

ชอบกาแฟค่ะ โดยเฉพาะกาแฟสด ได้กลิ่นไม่ได้น้ำลายสอ มาพร้อมกับอาการปวดหัว (ดื่มกาแฟสดแล้วจะปวดหัวค่ะ แค่ได้กลิ่นก็ปวดแย้ว  Undecided )
เท่าที่เคยอ่านผลการวิจัยเกี่ยวกับกาแฟ วันละไม่เกิน 3 แก้ว จะส่งผลดี แต่ถ้าวันละ 8 แก้วขึ้นจะส่งผลเสีย

อีกอย่าง คาเฟอีน (ทั้งในกาแฟและชา) จะเป็นตัวยับยั้งการดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ทำให้ร่างกายดุดซึมสารอาหารได้ไม่เต็มที่

เรื่องการเร่งเผาผลาญเพื่อช่วยในการลดความอ้วนนั้นจริง แต่ ......... ต้องดื่มแล้วไปออกกำลังกาย จึงจะได้ผล เพราะคาเฟอินจะดึงเอาไขมันออกมา แล้วแขวนลอยไว้ในเลือด หากไม่ออกกำลังกาย คือร่างกายไม่ได้ใช้พลังงานที่ถูกดึงออกมาแล้ว มันจะถูกส่งกลับไปเป็นไขมันอย่างเดิม เท่ากับว่า ไม่ส่งผลในการลดความอ้วนใด ๆ (ไม่แน่ใจว่า ถูกดึงกลับหลังจากดื่มกาแฟไปแล้วกี่นาที) ข้อมูลนี้ได้มาจากเพื่อนที่เรียนวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่ออสเตรเลีย

ทุกวันนี้ จะดื่มกาแฟดำใส่น้ำผึ้ง ก่อนไปออกกำลังกายประมาณ 30 นาที ค่ะ เป็นเทคนิคจากพรรคพวกนักกล้าม ซึ่งต้องไดเอท เมื่อถึงฤดูกาลแข่งขัน

***มีผลการวิจัยเกี่ยวกับสุขภาพอย่างนี้ออกมามากมาย หลาย ๆ ผลการวิจัย ในเรื่องเดียวกัน ออกมาขัดแย้งกัน ขึ้นอยู่กับผู้ให้ทุนในการวิจัย ทำธุรกิจอะไรอยู่ ทั้งนี้เพื่อให้ผลการวิจัยมาส่งเสริมสนับสนุนสินค้าของตน และลบล้างคุณประโยชน์สินค้าของคู่แข่ง (แล้วก็มีการสร้างกระแสการบริโภคขึ้นมา)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 09, 2007, 12:12:31 AM โดย harusame » บันทึกการเข้า
ozero++รักในหลวงมากค่ะ++
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1287
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 25366


มารยาท...มีให้รักษา


« ตอบ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2007, 12:10:42 AM »

ดื่มบางทีค่ะ ชอบนะคะ แต่ดื่มได้ไม่บ่อยเพราะดื่มทีไรท้องผูกทุกทีเลย หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

เข้ามากด like กันได้นะคะ http://www.facebook.com/OAroi
และ https://www.facebook.com/SiaAke
harusame
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2007, 12:15:12 AM »

ดื่มบางทีค่ะ ชอบนะคะ แต่ดื่มได้ไม่บ่อยเพราะดื่มทีไรท้องผูกทุกทีเลย หัวเราะร่าน้ำตาริน


ตรงกันข้ามกันเลยค่ะ

พี่นะ ถ้าดื่มตอนเช้า หลังตื่นนอนจะถ่ายดีมากเลยค่ะ  Wink
บันทึกการเข้า
Narin CZ
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2007, 12:18:56 AM »

อ้อ.....ลืมบอกไป ผมเองก็ชอบดื่มชาด้วยครับ...โดยเฉพาะชาที่ไต้หวันกลิ่นงี้ห้อมหอมมมม......ส่วนสรรพคุณสรรพโทษของชาในทางลึกแล้วผมไม่ทราบ....ทราบแต่ว่าหลังจากที่ทานอาหารของโปรดที่มันๆเช่นข้าวขาหมู ผมจะรู้สึกมึนๆนิดๆ แต่หลังจากได้ดื่มชาร้อนๆแล้วอาการก็จะหายไป.....และหากท่านไดมีข้อมูลเกี่ยวกับชาละก็ช่วยกรุณาเผยแพร่ด้วยครับ จะเป็นพระคุณยิ่งครับ... Grin
ลืมบอกไปว่าชาดีๆที่ไต้หวันแปงมากกกก..... หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.058 วินาที กับ 21 คำสั่ง