เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 16, 2024, 06:37:36 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ประวัติวันวาเลนไทน์  (อ่าน 3110 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
quick-รักในหลวง
ตึงไปก็ขาด ย่อนไปก็ยาน คงความเป็นกลางไว้
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 48
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2043



« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2007, 02:28:44 PM »

วันวาเลนไทน์ จริงๆ แล้ววันนี้เป็นวันที่ระลึกถึง Saint Valentine
มีประวัติหลายแบบ แต่ที่เหมือนกันคือ ท่านถูกประหารชีวิตในวันที่ 14 กุมภาพพันธ์

ประวัติวันวาเลนไทน์#1
กำเนิดวันวาเลนไทน์ เทศกาลวาเลนไทน์
เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ
ในยุคนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกจัดให้เป็นวันหยุด
เพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโน่ผู้เป็นจักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน
นอกจากนี้แล้วพระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่งอิสตรีเพศและการแต่งงาน
และในวันถัดมา คือวันที่ 15 กุมภาพันธ์
เป็นวันเริ่มต้นเทศกาลเฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย
การดำเนินชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกตัดขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตาม มีขนบธรรมเนียมอย่างหนึ่งของชายหนุ่มก็คือ
การจับฉลาก ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ก่อนที่จะเริ่มต้นเทศกาลลูเพอร์คาร์เลีย
ชื่อของเด็กสาวจะถูกเขียนลงในเศษกระดาษและใส่ลงในไห
ชายหนุ่มแต่ละคนจะจับฉลากเพื่อเลือกคู่ในเทศกาลเฉลิมฉลองนี้
บ่อยครั้งที่หนุ่มสาวต่างถูกใจกัน และแต่งงานกันในเวลาต่อมา

ในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 แห่งโรม พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีใจคอดุร้าย
และทรงนิยมการทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่า
เหตุที่ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วมในกองทัพ
เนื่องมาจาก ไม่อยากจากคู่รัก และครอบครัวไป
จึงทรงมีพระราชโองการสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและแต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด
ทำให้ประชาชนทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง ขณะนั้นเอง พระรูปหนึ่งนามว่า
เซนต์วาเลนไทน์ซึ่งอาศัยอยู่ในโทรม ได้ร่วมมือกับเซนต์มาริอัส
จัดพิธีแต่งงานให้กับชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนาดีของท่านนี้เอง
จึงทำให้ท่านถูกตัดสินประหารชีวิตโดยเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ.270
ซึ่งตรงกับเทศกาลลูเพอร์คาร์เลีย ตามประเพณีโบราณพอดี
ณ โอกาสนี้เอง กลุ่มคนนอกศาสนาได้รื้อฟื้นประเพณีจับฉลากขึ้นมาใหม่
โดยชายหนุ่มจะเป็นผู้เขียนชื่อหญิงสาวลงไปด้วยตัวเอง
ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์
เป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความรัก และดูเหมือนว่ายังคงเป็นธรรมเนียม
ที่ชายหนุ่มจะเลือกหญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันวาเลนไทน์ สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้

ประวัติวันวาเลนไทน์#2
วาเลนไทน์ (Valentine) คือวันที่ระลึกถึง นักบุญเซนต์วาเลนไทน์ (Saint Valentine)
ผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตา ความรัก และความปรารถนาดี ต่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง
แต่สุดท้ายเขาต้องจบชีวิตลงด้วยการรับโทษประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270
หรือเมื่อประมาณ 1,737 ปีล่วงเลยมาแล้ว
ซึ่งเป็นยุคสมัยของจักรวรรดิโรมันที่ศาสนาคริสต์ยังไม่เป็นที่ยอมรับ
ซํ้าร้ายภายใต้การปกครองของกษัตริย์ "คลอดิอุสที่ 2"
ผู้ออกกฎหมายบีบบังคับให้ประชาชนเลิกนับถือ
และห้ามให้มีแต่งงานของพวกคริสเตียนเกิดขึ้น แต่ยังคงมีผู้นำคริสเตียนคนหนึ่งชื่อ
"วาเลนตินัส" หรือที่ได้รับการยกย่องเป็น เซนต์วาเลนไทน์ ในภายหลัง
คอยลักลอบแอบจัดงานแต่งงานให้กับคู่รักคริสเตียนจนถูกจับขังและรับโทษทรมานแสนสาหัสอยู่ในคุก

ในขณะที่ถูกคุมขังนั้น เขาก็พบรักกับสาวตาบอด ซึ่งเธอเป็นลูกสาวของผู้คุมในคุก
ด้วยความรักและคำอธิษฐานของเขา พระเจ้าได้ทรงโปรดให้ตาของสาวคนรักหายเป็นปกติ
เมื่อความนี้ล่วงรู้ถึงหูกษัตริย์คลอดิอุสที่ 2 พระองค์จึงสั่งให้ลงโทษ วาเลนตินัส
ด้วยการโบยและนำไปประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ
ในคืนสุดท้ายก่อนที่เขาจะถูกนำไปประหารนั้น ได้เขียนจดหมายสั้น ๆ
เป็นการอำลาส่งไปให้หญิงคนรักของเขา โดยลงท้ายในจดหมายว่า

"...จากวาเลนไทน์ของเธอ (Love From Your Valentine)"

ต่อมาเมื่อคนทั่วไปทราบเรื่องราวจึงเกิดความประทับใจในความรักของเขา
ยึดถือเอาวันที่14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น "วันแห่งความรัก" Saint Valentine's Day
หรือ Valentine'sDay และได้นิยมแพร่หลายไปทั่วยุโรป อเมริกา รวมทั้งในทวีปเอเชียด้วย

ที่มา http://www.zabzaa.com/event/valentine.htm

ประวัติวันวาเลนไทน์#3 (คล้ายแบบที่ 2)
วาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรักทำไมต้องเป็นวันที่ 14 กุมภาพันธ์
คือวันที่ระลึกถึง นักบุญเซนต์ วาเลนไทน์ (Saint Valentine)
ผู้เปี่ยมไปด้วยความรักและความปรารถนาดี ต่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง
แต่เขาต้องจบชีวิตลงด้วยการรับโทษประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270
หรือเมื่อประมาณ 1,737 ปีล่วงเลยมาแล้ว ในจักรวรรดิโรมัน

ประวัติความเป็นมาของเรื่องนี้ เกิดขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 3
มีผู้นำคริสเตียนคนหนึ่งชื่อ "วาเลนตินัส" เขาเป็นคนที่มีความรักและความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์มาก
โดยทุก ๆ วันเขาจะแอบนำอาหารและของใช้ที่จำเป็น ไปวางไว้ประตูหน้าบ้านของคนยากจน
โดยไม่ให้คนเหล่านั้นรู้ ซึ่งในสมัยนั้น ศาสนาคริสต์ยังไม่เป็นที่ยอมรับในจักรวรรดิโรมัน
และถือว่าใครที่นับถือศาสนาคริสต์ จะมีความผิดร้ายแรงมาก
พวกคริสเตียนจึงถูกข่มเหงและทารุณกรรมอย่างหนักเพื่อบังคับให้เลิกเป็น
คริสเตียน
ใครที่ไม่ยอมเลิกนับถือคริสต์จะถูกทรมานและฆ่าทิ้ง
วาเลนตินัสก็รวมอยู่ในกลุ่มขบวนการถูกขู่เข็ญและทรมาน
บังคับให้เลิกนับถือศาสนาคริสต์ แต่เขาไม่ยอมจึงถูกจับเข้าคุก ในข้อหาเป็นคริสเตียน

ในขณะที่เขาถูกจับขังคุกนั้น ก็พบรักกับสาวตาบอดซึ่งเธอเป็นลูกสาวของผู้คุมในนั้น
และด้วยความรักและคำอธิษฐานของเขา
พระเจ้าได้ทรงโปรดให้ตาของคนรักของเขาซึ่งเธอตาบอด หายเป็นปกติ
จากเหตุการณ์นี้เองจึงทำให้ผู้คุมและครอบครัวของเขาหันมานับถือศาสนาคริสต์
เมื่อความนี้นี้เองรู้ถึงจักพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ของโรม พระองค์ทรงกริ้วมาก
สั่งให้ลงโทษวาเลนตินัส อย่างหนักด้วยการโบยและนำไปประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ

ในคืนสุดท้ายก่อนที่เขาจะถูกนำไปประหารนั้น เขาได้เขียนจดหมายสั้น ๆ
เป็นการอำลาส่งไปให้หญิงคนรักของเขา และลงท้ายในจดหมายว่า
"จากวาเลนไทน์ของเธอ" รุ่งขึ้นของเช้าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270
วาเลนตินัสก็ถูกนำไปตัดศีรษะและเอาศพไปฝังไว้ที่เฟลมิเนี่ยนเวย์
ซึ่งภายหลังมีการสร้างโบสถ์หลังใหญ่คร่อมสุสานของเขาไว้
เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงชีวิตและความรักอันยิ่งใหญ่ของเขา
คนทั่วไปประทับใจกับความรักของเขาจึงยึดถือเอา
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น "วันวาเลนไทน์"
ภาษาอังกฤษเรียกว่า Saint Valentine's Day หรือ Valentine's Day
หรือวันแห่งความรัก ซึ่งต่อมาได้นิยมแพร่หลายไปทั่วยุโรปและอเมริกา และเข้ามาในทวีปเอเชียด้วย

ที่มา http://board.narak.com/topic.php?No=28399

แต่บางประวัติก็เอา 1 กับ 2 มารวมกัน โดยเฉพาะในทางคริสตศาสนา
อ่านทั้งหมดได้ที่ http://www.catholic.or.th/spiritual/articl...ntine/va01.html
บันทึกการเข้า
quick-รักในหลวง
ตึงไปก็ขาด ย่อนไปก็ยาน คงความเป็นกลางไว้
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 48
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2043



« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2007, 02:29:17 PM »

แล้วทำไม? วันวาเลนไทน์ต้องให้ดอกกุหลาบด้วยนะ

ด้วยความที่กุหลาบมีมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลแล้ว จึงทำให้ความสวยงามของดอกและกลิ่นอันชวนพิสมัยของ

ราชินีแห่งดอกไม้นี้เป็นที่เลื่องลือมาช้านาน
และล้วนกล่าวถึงความงามเป็นสื่อที่แสดงถึงความสุข ความมีไมตรีจิต ความ
น่ารัก
ความสวยงาม การบูชา และการเกี้ยวพาราสี
ดังนั้น กุหลาบจึงเป็นเสมือนตัวแทนแห่งความรัก และความอมตะ
จนมีตำนานกล่าวขานกันต่าง ๆ นานา ตั้งแต่สมัยกรีก ตำนานเล่าว่า
"คลอรีส" เทพธิดาแห่งดอกไม้ ได้บันดาลให้ร่างของ
นางไม้กลายเป็นกุหลาบ
และยกให้เป็นราชินีของดอกไม้ จากนั้นต่อมาก็มีการมอบดอกกุหลาบแก่ "อีรอส" ลูกชาย
ซึ่งเป็นเทพแห่งความรัก

ส่วนในศาสนาคริสต์เชื่อกันว่า ในสมัยที่พระเยซูถูกตรึงไม้กางเขนอยู่นั้น
พระโลหิตได้ไหลหยดลงบนต้นหญ้ามอสส์
และได้บังเกิดเป็นต้นกุหลาบที่มีดอกสีแดงสด
จึงมีการเรียกขานกุหลาบชนิดนี้ว่า "กุหลาบมอสส์"
นอกจากนี้ยังมีการสู้รบกันระหว่าง 2 ตระกู้ลใหญ่
คือราชวงศ์ยอร์ค ซึ่งใช้สัญลักษณ์เป็นดอกกุหลาบขาว
และราชวงศ์แลงแคสเตอร์ ใช้ดอกกุหลาบแดงเป็นสัญลักษณ์
และได้เรียกสงครามครั้งนี้ว่า "สงครามกุหลาบ" ซึ่งเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 1948-2028
และในสมัยต่อมาพวกกุหลาบแดงได้มาแต่งงานกับพวกกุหลาบขาว
ซึ่งในปัจจุบันกุหลาบได้ถือเป็นดอกไม้ประจำชาติของชาวอังกฤษ
ไป
นี่แหละค่ะถ้าทุกคนมีความรักให้แก่กันแล้วโลกจะสงบสุขแน่นอนค่ะ

เรามาดูกันในประเทศไทยบ้างค่ะ
มีเรื่องราวเล่าขานถึงความงดงามของดอกกุหลาบไว้โดยปรากฏอยู่ในพระราชนิพนธ์
ของพระมหาธีราชเจ้า รัชกาลที่ 6 ในเรื่อง "มัทนะพาธา" หรือ "ตำนานดอกกุหลาบ"
ซึ่งได้ปรากฏชัดว่าดอกกุหลาบได้กลายเป็นดอกไม้ที่นิยมไปทั่วโลก

เรามาย้อนอดีต...กุหลาบ...ราชินีแห่งบุปผชาติกันดูไหม

ด้วยความโดดเด่นของรูปโฉมอันพิลาส
กอปรกับกลิ่นหอมที่มีเสน่ห์เย้ายวนชวนให้น่าหลงไหล
กุหลาบจึงเป็นดอกไม้ที่นิยมมาตั้งแต่อดีตกาล โดยสันนิษฐานว่า
กุหลาบถือกำเนิดมาตั้งแต่สมัย Taceous หรือเมื่อประมาณ 40 ล้านปีมาแล้ว
โดยดูได้จากซากฟอสซิลที่ขุดพบโดยนักวิทยาศาสตร์
แต่หลักฐานที่ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดแน่นอนจะอยู่ในราว 5,000 ปีที่ผ่านมา
ตั้งแต่สมัย สุเมเรียน (Sumerians) โดยนักโบราณคดีชาวอังกฤษ
ได้ขุดค้นพบน้ำที่มีกลิ่นกุหลาบในหลุมศพของกษัตริย์ในสมัยนั้น
นอกจากนี้ยังค้นพบเครื่องประดับของชาวสุเมเรียน
ซึ่งมีรูปทรงเป็นดอกกุหลาบทำด้วยทองคำ

แต่ในบางแหล่งได้กล่าวไว้ว่า กุหลาบมีกำเนิด ณ เทือกเขาคอเคซัส
ประเทศเปอร์เซีย หรืออิหร่านในปัจจุบัน และมีชื่อเรียกดอกไม้ชนิดนี้ว่า "คุล" Gol หรือ Gul ซึ่งแปลว่า ดอกไม้
และคำว่า "คุลาพ" หมายถึง กุหลาบอย่างที่คนไทยเราเรียกกัน

สำหรับประเทศไทยไม่ทราบแน่ชัดว่า มีกุหลาบมาตั้งแต่สมัยใด
หากแต่มีการบันทึกของราชทูตฝรั่งเศส ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชว่า
ได้เห็นดอกกุหลาบอยู่ในกรุงศรีอยุธยา และอีกหลายแห่งที่ปรากฎหลักฐานว่า
มีกุหลาบเข้ามาเมืองไทยแล้วก็คือ กาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศก
ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ที่ได้กล่าวถึงความงามของ
ดอกกุหลาบไว้ด้วย

รูปร่างและสีสันของดอกกุหลาบ...แปลความหมายได้
ดอกกุหลาบนั้นทั้งลักษณะและสีสันของมันสามารถสื่อความหมายถึงคนที่เรามอบให้ ได้ว่าอย่างไร
ที่เราทุกคนเรียกมันว่า "ภาษาดอกไม้" อย่างไรไงคะ
เรามาดูกันเลยนะคะว่าดอกกุหลาบแต่ละแบบ
แต่ละสีสื่อความหมายไว้ว่าอย่างไรกันบ้าง

กุหลาบแดง หมายถึง ความรักและความปรารถนา เป็นดอกไม้ของคิวปิดและอีรอส (คุณกามเทพไง) เป็นสิ่งนำโชคมาสู่ผู้หญิงที่ได้รับ
กุหลาบขาว หมายถึง ความมีเสน่ห์ ความบริสุทธิ์ ความเงียบสงบ และนำโชคมาสู่ผู้หญิงที่ได้รับเช่นเดียวกับดอกกุหลาบแดง
กุหลาบสีชมพู หมายถึง ความรักที่มีความสุขอย่างสมบูรณ์ที่สุด
กุหลาบสีเหลืองหรือสีส้ม หมายถึง ความรักร้อนแรงและยาวนาน ไม่จืดจาง หวานชื่น และมีความสุข
กุหลาบตูม หมายถึง ความรักและความเยาว์วัย
กุหลาบบาน หมายถึง ความรักที่กำลังเบ่งบาน ความอ่อนหวาน สดชื่น

เป็นอย่างไรบ้าง หวังว่าคุณคงหายสงสัยแล้วนะคะว่า
ทำไมวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปีจึงเป็นวันวาเลนไทน์
และทำไมต้องให้ดอกกุหลาบในวันนั้น
อ้อ ประเพณีของหนุ่ม-สาวชาวอาทิตย์อุทัย หรือชาวญี่ปุ่นนั่นเองจะแตกต่างกับชาติ
อื่นๆ
คือในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ หรือ วันวาเลนไทน์ สาวๆ จะเป็นคนให้ ช็อกโกเลต (Chocolate) รูปหัวใจขนาดเล็ก-ใหญ่
แล้วแต่ความชอบน้อย-มาก ตัวเองทำเองแก่หนุ่ม ๆ ที่เธอชอบ
เรียกว่าวันนั้นหนุ่ม ๆ ยิ้มกันแก้มปริกันเป็นแถวเลย หลังจากวันนั้นอีกหนึ่งเดือนคือวันที่ 14 มีนาคม
หนุ่ม ๆ ก็จะมอบดอกกุหลาบ เพื่อเป็นการขอบคุณสาวผู้ให้

ที่มา http://board.narak.com/topic.php?No=28399
บันทึกการเข้า
quick-รักในหลวง
ตึงไปก็ขาด ย่อนไปก็ยาน คงความเป็นกลางไว้
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 48
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2043



« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2007, 02:29:48 PM »

ของขวัญวันวาเลนไทน์ ของขวัญที่นิยม ของขวัญแทนใจวันแห่งความรัก

ดอกไม้ เป็นของยอดฮิตที่สุด ในวันวาเลนไทน์
เพราะความหมาย ก็คือแทนคำว่ารัก ได้ดีที่สุด
ดอกกุหลาบบอกรายละเอียดไปแล้ว ที่นี้มาดูดอกไม้่อื่นๆ กัน
ดอกคาร์เนชั่นสีแดง หมายถึง รักอย่างสุดซึ้ง,
ดอกลิลลี่สีขาว หมายถึง ความโรแมนติก อ่อนหวานระหว่างคุณและคนรัก,
ดอกทิวลิปสีแแดง หมายถึง ความรักที่จะร่วมฟันฝ่าไปด้วยกัน
และ
ดอกไวโอเล็ต ที่แทนความหมายของการให้รักตอบแทน

ช็อกโกแลตแทนความรัก ถือเป็นสินค้ายอดนิยมอันดับ 2
ซึ่งสื่อความหมายของความรักมาแต่ไหนแต่ไร ซึ่งก็แพร่หลายมาจากต่างประเทศ
วัยรุ่นไทยก็มาเลียนแบบเหมือนเดิม จนเป็นที่นิยมอย่างมากมาย
ปัจจุบันก็มีร้านที่รับทำช็อกโกแลตในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะทรงหัวใจนี้ขายดีมากๆ
และราคาก็สูงเป็นพิเศษด้วย

คำแนะนำ ช็อกโกแลต คงจะเหมาะกับวัยรุ่นมากกว่า ส่วนคนทำงานทั่วไปก็ให้ได้
แต่ที่แน่ๆ ผู้สูงอายุไม่แนะนำ เพราะอาจทำให้ฟันผุ ส่วนสถานที่ซื้อก็หาได้หลายที่
ถ้าทั่วๆไปก็ซื้อตามห้างสรรพสินค้าทั่วๆ ไป แต่หากจะเป็น ช็อกโกแลตดีๆ หรือประเภทสั่งทำ
ก็มีตามร้านขายหรือตามร้านซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในโรงแรมทั่วไป

การ์ดแทนความห่วงใยและรัก เป็นสินค้ายอดนิยมอันดับ 3 ที่นิยมให้กันในวันนี้
ส่วนใหญ่การ์ดให้ได้ในทุกๆ งาน และก็มักให้คู่กับของขวัญอื่นๆ
เช่น ดอกไม้ หรือ ช็อกโกแลต ข้อดีของมันก็คือราคาที่ไม่แพง และหาซื้อได้ง่าย ทั่วไป
นอกจากนี้ยังสามารถบอกความในใจได้ด้วยคำบรรยาย

คำแนะนำ เป็นสินค้าที่ให้กันได้ทุกเพศวัย
แต่ควรเลือกการ์ดที่เหมาะกับวัยของคนที่ให้ และถ้ารู้ว่าขอชอบรูปแบบไหน หรืออะไรได้ยิ่งดี
และหากจะให้ประทับใจหน่อยสำหรับคนรัก หรือวัยรุ่นก็น่าจะมีเสียงเพลงเสียหน่อย จะดีมาก
ส่วนสถานที่ซื้อการ์ด ห้างสรรพสินค้าที่ไหนก็มีจ้า

ตุ๊กตา แทนคำว่ารักและชอบ สินค้ายอดนิยมอันดับ 4 ที่นิยมให้กันมาก
ตุ๊กตานี้เป็นสินค้าที่ให้กันได้ตลอดที่เทศกาลแห่งความสุขจริงๆ
ส่วนใหญ่ตุ๊กตาที่ให้กันในเทศกาลวาเลนไทน์ ก็จะเป็นประเภทน่ารักๆ
ไม่ได้เน้นความหมายอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็คงจะดูสถานะภาพกระเป๋าตัวเองเป็นหลัก

คำแนะนำ เหมาะสำหรับให้กับวัยรุ่นฝ่ายหญิงเสียมากกว่า
ควรเลือกตุ๊กตาที่คนที่รับชอบ หรือถ้าไม่รู้จริงๆ ก็ให้ตุ๊กตาหมี หรืออะไรก็ได้ที่น่ารักๆ
แต่อย่าสื่อไปในทางที่เลวร้าย เช่น ตุ๊กตาควาย เพราะอาจจะโดนตบได้
ส่วนสถานที่ซื้อก็หาซื้อได้ทั่วไป ตามห้างสรรพสินค้า หรือย่านขายของต่างๆ

กรอบรูป แทนความคิดถึงและผูกพัน
อันนี้ก็ให้กันก็ให้กันมาก เพราะเป็นสินค้าที่หาซื้อง่าย ราคาไม่แพงมาก
นอกจากนี้ยังเป็นสินค้าที่ผูกพันทางใจ โดยเฉพาะวัยรุ่นนี่ให้กันมาก
ราคา 50 บาทก็หาซื้อกันได้แล้ว ซึ่งบางทีให้เก๋ก็ใส่รูปคนให้ไปด้วย
เอาไว้ดูต่างหน้าแก้คิดถึง

คำแนะนำ ของขวัญชิ้นนี้ ส่วนใหญ่วัยรุ่น เขาจะนิยมให้กัน แต่ถ้าคนวัยทำงาน
หรือคนทั่วๆ ไปก็ไม่แปลกอะไร อีกข้อหนึ่งก็คือ ส่วนใหญ่คนให้คนรับ
ควรจะเป็นคนโสด หรือว่ารักกันหวานแหวว แต่เพื่อนให้เพื่อนคงไม่เหมาะเท่าไหร่
ส่วนสถานที่ซื้อสินค้าก็หาเลือกซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าและร้านค้าทั่วไป

น้ำหอม
น่าจะแทนความห่วงใยและใกล้ชิดได้เป็นอย่างดี เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
ฝ่ายชายส่วนใหญ่ก็จะเลือกกลิ่นน่ารักๆ หอมสบาย ให้คนรัก
ส่วนสาวๆ ก็ไม่แพ้กัน นิยมซื้อน้ำหอมให้หนุ่มๆ เหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็จะแมนๆ

คำแนะนำ น้ำหอมน่าจะเหมาะกับคนที่รู้ใจกัน หรือคบหากันมาพอสมควร
เพราะต้องเป็นคนที่รู้ใจกันจริงๆ จึงจะเลือกให้กันถูก เพราะหากเลือกกลิ่นไม่ถูกใจ
อาจมีปัญหาได้ ส่วนใหญ่น้ำหอมเหล่านี้คุณๆ ก็หาซื้อกันได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วๆ ไป

เทียนหอม
เป็นของขวัญมาแรง ของวัยรุ่น เพราะราคาไม่แพง สวย ดูแล้วน่ารักดี
ปัจจุบันมีการทำเทียนหอม ในรูปแบบต่างๆมากมาย โดยเฉพาะรูปหัวใจ
เทศกาลนี้ขายดีมาก และที่ว่าใหม่นั้นคือเทียนหอม ที่จุดแล้วมีเสียงเพลง
ซึ่งก็ดูแล้วเก๋ไปอีกแบบ

คำแนะนำ เทียนหอม สามารถให้ได้กับทุกเพศทุกวัย
แต่ก็ต้องดูลวดลายหรือแบบว่าน่าจะเหมาะกับคนที่คุณจะให้หรือเปล่า
เทียนหอมเป็นของที่น่ารัก สวยงาม หลากหลายรูปแบบ ราคาก็แตกต่างกันออกไป
ถือเป็นของขวัญใหม่ ที่นิยมให้กันทุกเทศกาล
เพราะเทียนหอมสามารถทำในรูปแบบต่างๆ ได้
ส่วนท่านที่หาซื้อ ก็มีอยู่ตามห้างสรรพสินค้าทุกแห่ง และตามร้านของขวัญทั่วไป

แหวน
ของขวัญแทนใจ ที่ส่วนใหญ่ชายมักมอบให้หญิง คบกันและและรู้จักกันมาก
จนมั่นใจว่า เธอคนนั่นรักตอบ เพราะแหวนเป็นเสมือนสิ่งแทนใจ และจับจองหัวใจไว้
ซึ่งก็นั่นหมายถึงคู่รักที่ให้แก่กัน

คำแนะนำ ส่วนใหญ่จะเป็นคู่รักให้กัน ฝ่ายชายให้ฝ่ายหญิง
และคงต้องเลือกให้ถูกใจผู้รับเป็นพิเศษ ถ้าพาไปเลือกด้วยเลยก็จะดี
แหวนส่วนใหญ่แหวนที่ให้กันจะเป็นแหวนรูปหัวใจ หรือชื่อย่อ
แต่การที่มีคนให้แหวน นั้นหมายถึงเขาจับจองตีตราคุณแล้วนะ

หมอน ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนและผ้านวม
สำหรับไอเดียที่สกรีนรูปหน้าของเราหรือเราทั้งคู่ลงในอุปกรณ์เครื่องนอนต่างๆ
ก็เป็นความคิดที่โรแมนติคที่ดีเลยทีเดียวนะคะ
เปรียบเสมือนคนรักจะได้เห็นหน้าเราก่อนนอนทุกคืนเลยไงคะ
หรือสำหรับสาวๆ ที่มีฝีมือ หรือมีความอดทนขึ้นมาหน่อย
อาจจะลงทุนเย็บหรือปักเป็นชื่อให้กับคนรักเลยก็ได้
รับรองคนรับต้องปลื้มจนยิ้มไม่หุบเลย คนให้ก็คงภูมิใจไม่น้อยเลยทีเดียวหละคะ

คำแนะนำ หากทำด้วยมือก็จะประทับใจคนที่รับเป็นพิเศษ
และหากรู้ใจคนที่ให้ว่าเขาชอบอะไร ถ้าทำลวดลายนั้นเขาก็ยิ่งประทับใจไปอีก

มื้อค่ำ ขาดไม่ได้เลยสำหรับมื้อพิเศษในวันแห่งความรัก
ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แบบไหน ในบ้าน ร้านอาหาร หรือริมทะเล
แต่ขอให้มีแต่คุณและคนรักไปกันสองคนก็แล้วกัน

ที่มา http://www.catholic.or.th/spiritual/articl...ntine/va05.html
และ http://www.zabzaa.com/event/valentine.htm
บันทึกการเข้า
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2007, 03:53:28 PM »

 Wink ขอบคุณครับ งั้นผมเอาดอกไม้สวยๆมาให้ หนุ่มๆสาวๆ ชาว อวป.แล้วกัน (ขออนุญาตคุณ.quickด้วยนะครับ)















 Cheesy เยอะมากโพสไม่ไหวครับ เอาไปโหลดเองแล้วกันครับ ที่นี่ครับ http://download.yousendit.com/79D3B4B346062B4D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 10, 2007, 04:08:10 PM โดย Watt » บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
^-^ภูพาน~รักพ่อหลวง^-^
มีภัย มีเรา biw199
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 224
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3412



« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2007, 04:00:19 PM »

สวยมากครับ หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า





พายุยิ่งพัดอื้อ....................ราวป่าหรือราบทั้งแดน
อิศานนับแสนแสน..............สิจะพ่ายผู้ใดเหนอ?
NatthaphoN_
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13071

https://lh5.googleusercontent.com/-3fxkffwgtBc/AAA


« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2007, 06:03:22 PM »

มันเป็นอย่างงี้นี้เอง Cheesy
บันทึกการเข้า
โป้ง*กันบอย - รักในหลวง
YOU'LL NEVER WALK ALONE
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1629
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16886


คนฮัก เต้าผืนหนัง........คนจัง เต้าผืนสาด


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2007, 06:22:51 PM »

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล

วันนี้(14กพ.)เมื่อหลายปีมาแล้วคือวันที่ผมบอกแฟนของผม ว่าผมชอบเธอนะ^^

นึกๆแล้วไม่น่าเลย.............555(ล้อเล่นครับ)

บันทึกการเข้า


ARTWORK
สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
Hero Member
*****

คะแนน 5
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1182


« ตอบ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2007, 08:48:35 PM »

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับพี่ Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า

สองขาข้าเที่ยวท่อง สองตาจ้องข้าจดจำ หนึ่งชีวิตลิขิตนำ ตามเส้นทางข้าเลือกเอง
Virus
Hero Member
*****

คะแนน 6
ออฟไลน์

กระทู้: 1759



« ตอบ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2007, 08:58:16 PM »

ขอบคุงค่ะ  ขออนุญาติก็อบไปลงในไดอารี่ส่วนตัวนะค่ะ
บันทึกการเข้า

จะดี จะชั่ว อยู่ที่ตัวทำ
จะสูง จะต่ำ อยู่ที่เราทำตัว
sigsax
Hero Member
*****

คะแนน 206
ออฟไลน์

กระทู้: 1778


ขึ้นลำแล้วลดนก


« ตอบ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2007, 09:10:10 PM »

วันวาเลนไทน์  ก็ต้องฟังเพลง  14 อีกครั้ง  ของ เสก โลโซ

อันนี้เป็นมิวสิค   วีดีโอ   http://www.youtube.com/watch?v=2VDMQJ5k3WE

อันนี้เป็นเสียงเพลงอย่างเดียว  http://eduonline.udru.ac.th/forum/mp3/mp3ss7.htm
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.093 วินาที กับ 21 คำสั่ง