เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 29, 2024, 11:44:39 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 ... 10
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมปืน COLT ถึงอมตะคะ  (อ่าน 56823 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #60 เมื่อ: มีนาคม 07, 2007, 01:15:06 PM »

colt ใช้รูปโลโก้เป็นม้า ครับจึงเป็นอัมตะ และห้ามถามต่อว่าทำมัยโลโก้ม้าถึงเป็นอัมตะ เพราะผมก็มั่วตอบไป แฮ่ ๆ ไม่มีกับเขาซักตัวเลยไม่รู้ว่ามันอัมตะยังไง
ปล.ต้องม้าตัวเดียวนะครับ ถ้าม้าเกิน 1 ตัวนี่เกรด A
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #61 เมื่อ: มีนาคม 07, 2007, 01:17:11 PM »

แล้วปืนตราม้านิลมังกรล่ะคุณซีอุส?
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
YL 67
Jr. Member
**

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 81


« ตอบ #62 เมื่อ: มีนาคม 07, 2007, 01:36:01 PM »

ได้ความรู้มากครับ เป็นปืนที่มีแต่ตำนาน มีมนต์ขลังมากครับ COLT.....................
บันทึกการเข้า
STeelShoTS
Mossy Oak Duck Blind
Hero Member
*****

คะแนน 534
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6303


If you heard my shot. You were not the target.


« ตอบ #63 เมื่อ: มีนาคม 07, 2007, 01:39:38 PM »

เอ...นี่มันกระทู้ประวัติศาสตร์ของอเมริกานี่นา Cheesy
 มีคำกล่าวว่าคนอเมริกันสร้างชาติด้วยสาม G  หนึ่งในนั้นคือ Gun   ปืน Colt ก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้นก็เลยต้องเป็นตำนานมั้ง ?
บันทึกการเข้า

Natural resources is sufficient for human's need,but not for human's greed
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #64 เมื่อ: มีนาคม 07, 2007, 03:03:09 PM »

เอ...นี่มันกระทู้ประวัติศาสตร์ของอเมริกานี่นา Cheesy
 มีคำกล่าวว่าคนอเมริกันสร้างชาติด้วยสาม G หนึ่งในนั้นคือ Gun ปืน Colt ก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้นก็เลยต้องเป็นตำนานมั้ง ?
มันแยกกันไม่ค่อยออกจริงๆ ครับพี่ โมซิโน เลยต้องยำยำ มาม่า รวมๆ กันไปแบบนี้แหละพี่ ยังมีถึงพฤติกรรม การพัฒนาของอาวุธที่ไม่หยุดยั้งของชาวอเมริกันอีกด้วย จะค่อยๆ ลำดับขั้นตอนไปครับ ......
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #65 เมื่อ: มีนาคม 07, 2007, 03:08:10 PM »

ขอตอบครับ ...ปี 1836 ยังไม่มีคลองสุเอซครับ
อิอิ.................ถ้ายังไม่ได้ขุดละก็ อีตา แซมมวล ก็มีเวลาออกแบบปืนโคลท์อีกนานพอสมควรเลยครับ เพราะเรือต้องตีอ้อม ไม่รู้จะอ้อมทางไหนดีละครับ จะอ้อมสิงค์โปร์ หรืออ้อม อาฟริกาใต้ดีครับ กว่าจะถึงอเมริกา ก็นานเอาเรื่องเลยทีเดียว เพราะเรือเดินทะเล สมัยนั้น คงวิ่งไม่เร็วเหมือนเรือเดินสมุทรแบบทุกวันนี้ .....
บันทึกการเข้า
STeelShoTS
Mossy Oak Duck Blind
Hero Member
*****

คะแนน 534
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6303


If you heard my shot. You were not the target.


« ตอบ #66 เมื่อ: มีนาคม 07, 2007, 03:19:16 PM »

เอ...นี่มันกระทู้ประวัติศาสตร์ของอเมริกานี่นา Cheesy
 มีคำกล่าวว่าคนอเมริกันสร้างชาติด้วยสาม G หนึ่งในนั้นคือ Gun ปืน Colt ก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้นก็เลยต้องเป็นตำนานมั้ง ?
มันแยกกันไม่ค่อยออกจริงๆ ครับพี่ โมซิโน เลยต้องยำยำ มาม่า รวมๆ กันไปแบบนี้แหละพี่ ยังมีถึงพฤติกรรม การพัฒนาของอาวุธที่ไม่หยุดยั้งของชาวอเมริกันอีกด้วย จะค่อยๆ ลำดับขั้นตอนไปครับ ......
เราๆท่านๆ รู้จักปืนโคลท์ เพราะรุ่น 1911 มากกว่านะ  เพราะฉะนั้นความอมตะของโคลท์ต้องยกเครดิตให้ยอดอัจฉริยะบุคคลอย่าง จอห์น โมเสส บราวนิ่ง  จริงไหมพี่เต๋า  Wink
บันทึกการเข้า

Natural resources is sufficient for human's need,but not for human's greed
อ้วน 008 รักในหลวง
ปืนดี คือปืนที่อยู่ในมือคนดี
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 120
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2249



« ตอบ #67 เมื่อ: มีนาคม 07, 2007, 03:20:09 PM »

เพราะเป็นตำนาน เป็นสิ่งที่มีความสมบูรณ์ในตัว ในชิ้นส่วน ถ้าเป็นคนถือว่ามีความเป็นมาที่ไม่ธรรมดา ผมใช้ปืนยี่ห้ออื่นแต่นับถือในความเป็นโคลล์ครับ
บันทึกการเข้า

สนับสนุนการใช้ชีวิต ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง พอกิน พออยู่ พอใช้ พอที่จะแบ่งปัน
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #68 เมื่อ: มีนาคม 07, 2007, 04:04:55 PM »

เอ...นี่มันกระทู้ประวัติศาสตร์ของอเมริกานี่นา Cheesy
 มีคำกล่าวว่าคนอเมริกันสร้างชาติด้วยสาม G หนึ่งในนั้นคือ Gun ปืน Colt ก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้นก็เลยต้องเป็นตำนานมั้ง ?
มันแยกกันไม่ค่อยออกจริงๆ ครับพี่ โมซิโน เลยต้องยำยำ มาม่า รวมๆ กันไปแบบนี้แหละพี่ ยังมีถึงพฤติกรรม การพัฒนาของอาวุธที่ไม่หยุดยั้งของชาวอเมริกันอีกด้วย จะค่อยๆ ลำดับขั้นตอนไปครับ ......
เราๆท่านๆ รู้จักปืนโคลท์ เพราะรุ่น 1911 มากกว่านะ  เพราะฉะนั้นความอมตะของโคลท์ต้องยกเครดิตให้ยอดอัจฉริยะบุคคลอย่าง จอห์น โมเสส บราวนิ่ง  จริงไหมพี่เต๋า  Wink
.....จริงครับจริง.....ต้องยกให้หัวขมอง ของท่านปู่ทวด จอนห์ ฯ จริงๆ แหละครับ
แต่พอดี จะเล่าให้ฟังเชื่อมต่อประวัติศาสตร์ถึง ได้ยี่ห้อ ตราม้า เหยียบโลก ที่มันติดตา ติดใจ ทหารจีไอ นะซิครับ
คิดดู รุ่นปู่ทวด ก็ใช้ปืนตราม้า  ลูกโม่ ทั้งดินดำไม่มีปลอก และดินดำมีปลอก มารุ่นปู่ธรรมดา ก็ใช้ปืนพกตราม้า ....ปืนกลธอม์ปสัน  .45 ออโต้ บางรุ่นก็ตราม้า เอาไปใช้ในมหาสงครามเอเซียบูรพามากมาย
พอมารุ่นหลาน สงครามเวียตนาม ก็ เอ็ม 16 ตราม้าอีก ปืนพกก็ตราม้าอีก ......มันก็เลยอมตะนะครับพี่ ..........
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #69 เมื่อ: มีนาคม 08, 2007, 12:07:06 PM »

ต่อจากตอนที่แล้ว..............
เมื่อสมิธฯ คิดปืนลูกโม่ที่ ลูกโม่ ทะลุถึงกันทั้งหน้าและหลังได้ เป็นลูกโม่ที่ใช้ปลอกกระสุนโลหะ ทำให้โคลท์ ก็ต้องอดรนทนเจ็บช้ำไว้ เนื่องจากฝรั่งเขามีการจดสิทธิบัตรกันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 แล้วครับ ................ของไทย เพิ่งมามีกฎหมายสิทธิบัตรเมื่อ รัชกาลที่ 9 นี่เอง
.....โคลท์อดใจรอมาจดถึง ปี 1873 โคลท์ก็ดังเป็นพลุแตก อีกครั้งหนึ่ง ด้วยการออกปืนลูกโม่ ซิงเกิลแอ็คชั่น เลียนแบบสมิธฯ ในด้านลักษณะการออกแบบคือ โคลท์ เจาะลูกโม่ของตน ทะลุหน้าหลัง เหมือน สมิธแบบสโคลฟิลล์ แต่ปืนของโคลท์ ไม่หักลำใส่ลูกปลอดโลหะ แต่ใช้เปิดฝาเล็กๆ ข้างนกด้านขวา แล้วค่อยๆ หยอดลูกปืนลงไป
....ปืนรุ่นนี้ ก็คือ เจ้าโคลท์ เอส เอ เอ เหมือนที่พี่มะขิ่นกล่าว นั่นเอง ...........ชื่อเสียงของปืนโคลท์รุ่นนี่โด่งดังมากๆ เป็นอมมะตะหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่เห็นทุกวันนี้ ยังมีผลิตเป็นที่ระลึกออกมาเป็นช่วงๆ แถมยังมีปืนเลียนแบบจากค่ายของอิตาลี  เช่น บริษัท อูเบอร์ตี้ ผลิตมาให้พวกแข่งยิงปืน คาวบอย ใช้ในการแข่งขัน คาวบอย ซู้สติ้ง ในอเมริกามากมายเลยครับ สำหรับ เจ้า โคลท์ เอส เอ เอ ตัวนี้
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #70 เมื่อ: มีนาคม 08, 2007, 12:46:42 PM »

หลังจาก โมเดล 1873 ออกสู่ตลาดปืน ยูเอสเอ มีตำนานเล่ากันถึงการต่อสู้กันระหว่าง สมิธฯ กับโคลท์เอาไว้ว่า
ในการประมูลแข่งขันกันเข้าเป็นปืนพกประจำกองทัพสหรัฐในช่วงนั้น โคลท์ ส่ง โมเดล 1873 เข้าแข่งขัน
ส่วนสมิธฯ ส่ง ปืนแบบ สโคลฟิลล์ หักลำกล้อง เข้าแข่งขัน
ในการแข่งขันภาคพื้นดิน ทำการยิงบนพื้นดิน โดยบุคคล สมิธกินขาด เพราะ สามารถยิงได้เร็วพอๆ กับโคลท์ แต่พอถึงตอนบรรจุกระสุน ชุดใหม่ สมิธฯ สามารถหักลำกล้อง ปลอกกระสุนที่ยิงแล้ว พุ่งออกมา จากนั้น ทหารบรรจุกระสุนใหม่ หักลำกล้องปิด ใช้เวลาเพียงเล็กน้อย .....ในขณะที่โคลท์ เมื่อยิงเสร็จ ต้องใช้แส้เหล็ก ที่ติดอยู่ใต้ลำกล้องกระทุ้งปลอกที่ยิงแล้ว ออกมาทางด้านท้าย ทีละปลอก ทีละปลอก เสร็จแล้ว ค่อยบรรจง     บรรจุ กระสุนปลอกโลหะเข้าไป ทีละนัด ทีละนัด จนกว่าจะครบ 6 นัด สมิธ ยิงชุดที่ 2-3 จบไปแล้ว
......ต่อไป เป็นการแข่งขันกันในภาค ยิงบนหลังม้า เพราะทหารสหรัฐ ในตอนนั้น ไม่มีรถถัง ยังคงต้องใช้ม้า เป็นพาหนะในการขี่ม้าเข้าโจมตีข้าศึก
.......ในการแข่งขันทดสอบสมรรถณะบนหลังม้า ปรากฎว่า ปืนสมิธฯแบบสโคลฟิลล์ หักลำกล้อง มีกลไกหักลำกล้อง อยู่บริเวณใกล้ๆ นกปืน เมื่อทหารม้าที่ไม่ค่อยมีความชำนาญ ชักปืนอย่างเร็วบนหลังม้าขณะม้ากำลัง ฮ่อ เต็มที่ ปรากฎว่า นิ้วของทหาร ไปโดนกระเดื่องหักลำกล้อง เสียบ่อย ทำให้ เวลาชักปืนออกจากซอง ปืนก็หักลำเรียบร้อย กระสุนที่ไม่ได้ยิง ก็กระเด้งออกหมด เหลือแต่ปืนเปล่า หักลำ เท่านั้นเอง
....แต่สำหรับโคลท์ ในการทดสอบภาคหลังม้า ....โคลท์สามารถยิงได้อย่างเร็ว และแม่นยำ เนื่องจากองศาด้ามของโคลท์ มีลักษระเหมือนเมื่อยื่นมือเข้าหาเป้าหมาย ทำให้ทหารม้ารู้สึกเหมือน ใช้นิ้วชี้เป้า แทบไม่ต้องเล็ง กระสุนก็เข้าเป้าได้ในขณะม้าฮ่อ เต็มที่ เวลาชักเร็ว ก็ไม่มีอุปสรรคเหมือนสมิธ ฯ สามารถยิงนัดแรกได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งการใส่กระสุนทีละนัดบนหลังม้า กลับทำได้สะดวกกว่า การใส่กระสุนทั้งหมดที่เดียวแบบสมิธ ...
โคลท์ 1873 เอส เอ เอ..จึงชนะสมิธฯ ด้วยประการฉะนี้แล.........
บันทึกการเข้า
sunhnu
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #71 เมื่อ: มีนาคม 08, 2007, 12:51:40 PM »

 Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #72 เมื่อ: มีนาคม 08, 2007, 12:56:02 PM »

ภายหลังจากโคลท์ ชนะการประมูลเข้าประจำการกองทัพสหรัฐ ในรอบที่ สอง หลังจากปืนดินดำ บรรจุหน้าลูกโม่ เคยได้รับการอุดหนุนอย่างดี จาก ยูเอส อาร์มมี่ , เท็กซัส เรนเจอร์   
โคลท์ ก็นำปืนของตนเข้าบรรจุในกองทัพสหรัฐ รุ่นลำกล้อง 6 นิ้ว สำหรับ ทหารม้า (คาร์วารี่) ซึ่งลำกล้อง ยาวเอาเรื่อง แต่ทหารม้าพกปืนขี่ม้า พกปืนแล้วปากกระบอก ห้อยลงข้างตัวม้า ต่อให้ ลำกล้อง 8 นิ้ว ก็ บ่ หยั่น
....แต่กองทัพสหรัฐไม่ได้มีหน่วยเดียว มีอีกหลายหน่วย ต้องการ โคลท์ เอส เอ เอ เหมือนกัน จึงต้องผลิต ความยาวลำกล้องออกมาให้เหมาะสมกับหน่วย จนกระทั่ง โคลท์ ผลิต เอ็ม 1873 ความยาวลำกล้อง 4 นิ้ว ฝักคัดปลอกกระสุนยาวเสมอปลายลำกล้อง  ......เท่านั้นแหละครับ พ่อเจ้าประคุณ ได้ขนาด 4 นิ้ว เนี่ย มันช่างพอดิบพอดี กับการพกพาของชาวอเมริกันสมัยนั้น พอดี ชักก็ง่ายกว่า 6 นิ้ว ความแม่น ไม่ต้องไปยิงในทะเลทรายก็ได้ แบบไกลๆ เอาแค่ 30 หลา ลงมาก็เหลือเกินแล้ว....ดังนั้น โคลท์ 1873 ลำกล้อง 4 นิ้ว ฝักคัดปลอกยาวเสมอปากลำกล้อง จึงดังมาก....................
......สมิธฯ ก็ใช่ย่อย แม้ตีตลาดปืนทหาร อเมริกัน ไม่ได้ แต่ก็ตีตลาดประชาชนได้พอสมควร มีประวัติว่า จอมโจรต่างๆ ในอเมริกาในสมัยนั้น ใช้สโคลฟิลล์กับเพียบ แถมยังมีข่าวว่า ขายให้รัสเซียอีกต่างหาก  ส่วนโคลท์แค่รับตลาดปืนทหารในบ้านตัวเอง ก็ไม่ต้องไปขายต่างประเทศแล้วครับ ....รวยไม่รู้เรื่อง
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #73 เมื่อ: มีนาคม 08, 2007, 01:25:40 PM »

หลังจากปี 1873 เป็นต้นมา โคลท์ ก็แทบจะเป็นอมตะ ในสายตาของมือปืนสหรัฐ ด้วยสโลแกน ง่ายๆ (เหมือนบาเร็ตต้า 92 เอฟเอส ใช้เมื่อปี 1986 นั่นแหละครับ "ปืนของเราคือปืนที่กองทัพสหรัฐ .....มอบความไว้วางใจให้ " )
ใครๆ ก็พยายามที่จะใช้ปืนที่เหมือนกับกองทัพทั้งนั้น (ยกเว้น สยาม เพราะยังไม่รู้เรื่องในสมัยนั้น ไม่มีอินเตอร์เน็ท เลยไม่รู้ว่าอีกซีกโลกหนึ่ง เขาไปกันถึงไหนๆ แล้ว )
.......โคลท์พัฒนา ศักยภาพเกี่ยวกับเทคนิค การออกแบบมากมาย
.......อย่างเช่น หลังจากปี 1873 ปืนโคลท์ เอส เอ เอ ยอดฮิตกระบอกนี้ ถึงจะแจ๋วอย่างไร ก็ตาม
เวลาชักออกจากซอง คนยิง ต้องทำสองขั้นตอน ก่อนปล่อยกระสุนออกไป คือ 1.นกปืนต้องง้าง ด้วยกำลังของคนยิง  2. เหนี่ยวไกปืน ซึ่งก็ยังถือว่า ต้องใช้เวลาเหมือนกัน คิดเป็นวินาที .....................
คำถาม?Huh?............แล้วจะเป็นไปได้ไหม ที่จะพัฒนาปืนลูกโม่ ให้ชักออกมาแล้วยิงได้เลย HuhHuh?
วิศวะกร ก็คิดกันว่า แต่เดิม การหมุนของโม่ ตามแบบที่โคลท์คิดไว้ ให้การง้างนก ไปบังคับการหมุนโม่
ทำให้ต้องทั้งง้างนก และเหนี่ยวไก เป็น 2 ขั้นตอน ......
แล้วถ้าเราจะลดขั้นตอนล่ะ Huh? ให้เหลือขั้นตอนเดียว คือ เหนี่ยวไก แล้วปืนยิงได้ จะต้องทำอย่างไร Huh??
วิศวะกร ในสมัยนั้น จึงออกแบบ ให้ใช้การเคลื่อนไหวของไกปืน โดยเพิ่มพื้นที่ ระยะทางในการเดินไก ....เหนี่ยวไก ยาวกว่าปืน ซิงเกิ้ลแอ็คชั่น  ให้ ไปบังคับการหมุนโม่ด้วย การง้างนก  และการลั่นไกในคราวเดียวกัน .......ก็จะได้ปืนที่ยิงเร็วที่สุดในโลกออกมาอย่างแน่แท้.............เมื่อคิดได้ดังนั้น

....ปี 1877 โคลท์ นิวส์ ดับเบิ้ล แอ็คชั่น ก็อุบัติ ขึ้นในโลก เป็นการพัฒนาเครื่องมือสังหาร ที่ทันสมัยที่สุด สามารถชักออกมาปุ๊บ ไม่ต้องง้างนก เหนี่ยวไกยิงได้เลย 6 ศพ .....เห็นไหมครับ ....ตำนานการเกิดปืนดับเบิ้ลแอ็คชั่น ก็เกิดขึ้นที่โคลท์ นี่เอง  แต่ลูกโม่ ยังเปิดข้างไม่ได้ ยังใช้การใส่กระสุนด้านท้ายลูกโม่เหมือนเดิม โดยลูกโม่ยังติดอยู่ในตัวปืน โม่ยังออกไม่ได้ .........................

....ขึ้นชื่อว่า มนุษย์ แล้วละก็ ไม่เคยมีคำว่า พอเพียง เหมือนพระเจ้าอยู่หัวบอกเลยซักที
เรื่องปืน ก็เหมือนกัน อุตส่าห์ ออกแบบยิงเร็วแบบดับเบิ้ล แอ็คชั่นแล้ว ก็ยังไม่พอใจ .....ถึงมันจะยิงเร็วราวกับสายฟ้า
แต่ว่า มันก็ใส่ลูกช้าอยู่ดี จะทำหักลำเลียนแบบสมิธ ก็เสียฟอร์ม หรือละเมิดสิทธิ์บัตร
......วิวัฒนาการ การใส่ลูกเร็วของโคลท์ จึงบังเกิดขึ้นในโลก
......โคลท์ ออกแบบ การเอาลูกโม่ ไปติดบานพับ แล้วเปิดออกทางด้านซ้ายของปืน โดยมีปุ่มล็อค
....เท่านั้น แหละ วิวัฒนาการปืนลูกโม่ก็สิ้นสุนในปี 1892 ............................
เมื่อโคลท์ ออกปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .38 ดับเบิ้ลแอ็คชั่น โมเดล 1892 ออกสู่ตลาด และนำเข้ากองทัพสหรัฐโดยปริยาย .............ปืน เอ็ม 1892 ได้ไปรับใช้กองทัพสหรัฐ ทั้งในการยุติกบฎนักมวย ในจีนแผ่นดินใหญ่ สมัย พระนางซูสีไทเฮา กรณีพิพาทแบ่งแยกดินแดนต่างๆ ในประเทศแถบตะวันออกกลาง ยาวตลอดไปถึงการปราบกบฎ โมโร มุสลิม ผู้หวงแผ่นดิน บนดินแดนชาวตากาล็อค อีกด้วย  ก่อนปี 1910 ...............ถือเป็นการสิ้นสุดตำนานอมตะปืนโคลท์ ในกองทัพสหรัฐ............................
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #74 เมื่อ: มีนาคม 08, 2007, 02:05:12 PM »

ก่อนจะต่อในช่วงเด็ด ช่วงปี 1910 เป็นต้นมา ขอกล่าวเรื่องปืนอมตะ ตามที่ท่านเจ้าของกระทู้ ได้กล่าวไว้
ความหมายของอมตะ ตามแนวที่ผมเข้าใจคือ
"ปืนที่ไม่มีวันตาย แบบปืนที่ไม่มีวันตาย เหมือนคนที่เกิดเมื่อ 100 -200 ปีที่แล้ว แต่ไม่เคยตาย หรือตายไปแป็บหนึ่งเดี๋ยวก็ฟื้น กลับมาดังกว่าเดิมอีก "
....เช่น โคลท์ 1836 ก็ยังมีแบบ ยังมีการผลิตเลียนแบบ ออกมาถึงทุกวันนี้
....เช่น โคลท์ 1873 เอส เอ เอ  ก็ยังมีการผลิต ทั้งจริง ทั้งเลียนแบบ จากโคลท์ จาก อิตาลี่ ออกมาถึงทุกวันนี้
.....เช่น รีวอลเวอร์ แบบดับเบิ้ล แอ็คชั่น ทุกวันนี้ หลายบริษัท ก็ยังผลิตอยู่อย่างเป็นล่ำเป็นสัน ก็ได้แบบมาจาก เอ็ม 1892 ของโคลท์ ทั้งนั้น ยังไม่มีใครคิดเปิดลูกโม่ออกทางอื่นเลย นอกจากด้านซ้าย ตามแบบของโคลท์
.....เช่นพระเอกของเรา เอ็ม 1911 .....ดังมาตั้งแต่ออกโรง   มาตกม้าขาหัก เอาตอนชราภาพ อายุประมาณ 80 ปี
บาเร็ตต้า เบียดตกม้า ตอนปี 1986 ทีแรก มีนักพยากรณ์ หลายท่าน พยากรณ์ว่า อีกไม่เกิน 10 ปี แบบปืน เอ็ม 1911
ซึ่งเป็นปืนซิงเกิ้ลแอ็คชั่น ออโต้ ชนิดนี้ จะค่อยๆ เหี่ยว เฉา ลงไปเหมือนคนแก่ชราภาพ และเสียชีวิตไปในที่สุด ด้วยเหตุผลเพียงว่า เป็นตาแก่ อายุเยอะ ยิงได้ช้า  ต้องง้างนกก่อน ถ้าลดนกไว้ บรรจุได้น้อย     อ้วน    น้ำหนักตัว   เยอะเกินไป แบบเก่า ผลิตไม่ได้ในแบบอุตสาหกรรมสมัยใหม่
.................แต่ทว่า  อนิจจัง ธรรมมัง ในโลกนี้ อะไรอะไร ล้วนไม่เที่ยงทั้งสิ้น เหตุการณ์โลกนี้ ผันแปร
1. อเมริกัน ออกกฎหมาย จำกัดกระสุนให้..........พอดีมีงานด่วน ขอออกก่อน ..... 
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 ... 10
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.067 วินาที กับ 22 คำสั่ง