เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 29, 2024, 09:55:53 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 4 5 6 [7] 8 9 10
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมปืน COLT ถึงอมตะคะ  (อ่าน 56780 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 9 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #90 เมื่อ: มีนาคม 13, 2007, 12:53:05 PM »

มาต่อกันครับ
...แน่นอน ในห้วง 1900 สหรัฐ ได้เข้าไปมีบทบาทในทวีปต่างๆ เช่นกัน มีการเข้าไปรบพุ่ง ปะทะกับชนเผ่าที่เป็นเจ้าของแผ่นดิน ซึ่งต้องรบอย่างถวายชีวิต ดังนั้น กระสุนหน้าตัดเล็กๆ เช่น .38 ไม่สามารถใช้งานได้ผล
ต้องเอาโคลท์ เอส เอ เอ กลับมารับใช้อยู่ระยะหนึ่ง
ก็เกิดความคิดอีกว่า โลกก้าวไปไกลแล้ว มีรีวอลเวอร์ ดับเบิ้ลแล้ว มี เซมิออโตแล้ว แล้วจะทำอย่างไร ให้ .45 สามารถยิงเป็นระบบออโตเมติกได้ เหมือน เอ็ม 1903 เอ็ม 1908 ในขณะที่ .45 ลองโคลท์ ปลอกกระสุนยาวมาก ไม่เหมาะที่จะนำมาทำเป็นปืนออโต เพราะกระสุน เป็นแบบปลอกยาว ที่ใช้กับปืนรีวอลเวอร์ ไม่สามารถนำมาผลิตเป็นปืนออโต้ได้
ในช่วงก่อนปี 1911 จอห์น เอ็ม บราวนิง แทบจะแยกตัวเอง ไม่ออกจากโคลท์เลยครับ มั่วกันไปหมด แบบปืนออโตที่จอห์นฯ คิดได้ ก็เสนอขายโคลท์ แทบทุกแบบ เพราะในขณะนั้น โคลท์ ครองอุตสาหกรรมปืนพกทางทหารแบบเบ็ดเสร็จ ตั้งแต่ 1836(รีวอลเวอร์ดินดำ)   1873 (รีวอลเวอร์ ซิงเกิ้ล พีชเมคเกอร์ ปืนผู้สร้างสันติ)   1892 (รีวอลเวอร์ดับเบิ้ลแอ็คชั่น ต้นแบบปืนในปัจจุบัน)   
...คิดดูแล้วกัน เจ้าโคลท์ แฮมเมอร์เลส  ( ไทยแปลว่า นกใน  หรือ นกซ่อนอยู่ในตัวปืน)  เอ็ม 1908  ขนาด .32 จอห์น เอ็ม บราวนนิง เป็นคนคิดกลไกและระบบ
ส่งแบบขายให้โคลท์ ในทวีปอเมริกา  โคลท์ ก็ตอกตราม้า คนก็เข้าใจว่า อ๋อ...ปืนโคลท์ นั่นเอง
แต่แบบปืนนี้ ได้นำไปผลิตที่ฟากทะเลหนึ่ง คือ ฝั่งทวีปยุโรป ในเบลเยี่ยม โดยโรงงาน เอฟเอ็น เขาให้ชื่อว่า ปืนบราวนนิง ......อ๋อ .....ที่แท้ก็คนออกแบบคนเดียวกัน แบบเดียวกัน แต่ทำกันคนละทวีป  คนละบริษัท นั่นเอง

.....เมื่อทางการทหาร สหรัฐ ต้องการ สเป็กปืนใหม่คือ
1.กระสุนหน้าตัดใหญ่ ขนาด .45  เพราะต้องการอานุภาพหยุดยั้ง
2.ทำการยิงแบบออโตเมติก  เพราะต้องการความได้เปรียบในเชิงยุทธวิธี คือ ยิงเร็ว บรรจุใหม่ได้เร็ว กว่า ปืนที่ใช้อยู่ในขณะนั้น ทุกรุ่น
3.บรรจุกระสุนได้คราวละมากๆ พกพากระสุนสำรอง ได้สะดวก
......เมื่อสเป็กซ์ของกองทัพคลอดออกมา  โคลท์ ในฐานะผุ้ครอบครอง สายการผลิตปืนพกทหารแบบเบ็ดเสร็จ
ก็ให้ จอห์น ฯ พัฒนาแบบปืน ตามสเป็คขึ้นมา เพื่อให้สนองความต้องการของกองทัพสหรัฐ
สิ่งที่จอห์นฯ คิดขึ้นได้ และนำมาแก้ไข ในปืนใหม่ ที่จะส่งเข้าประกวดแบบในการแข่งขันประมูลปืนพกประจำกองทัพสหรัฐ ฯดังนี้
1. จอห์นฯ ยกเลิกการใช้ลำกล้องหัวโต เพื่อฟิตกับสไลด์ ตามแบบเอ็ม 1903   และลำกล้องหัว โต เหลี่ยมเหลี่ยม แบบ เอ็ม 1908  มาใช้บูชปลายลำกล้อง
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #91 เมื่อ: มีนาคม 13, 2007, 01:19:34 PM »

2.จอห์นฯ ยกเลิกการใช้ ห่วงโตงเตง หน้าหลัง ของ เอ็ม 1903 มาใช้โตงเตง ท้ายลำกล้อง เพียงอย่างเดียว
3.การถอดสปริงโยนลำ ใช้ถอดด้วยปลั๊กครอบสปริง ออกทางด้านหน้า (ปัจจุบัน มีผู้แผลงการถอด ใช้ดึงสไลด์ถอยหลังแล้ว ถอดสลักเลย ....ก็ไม่ว่ากัน ครับ ทางใคร ทางมัน แต่คิดว่า จอห์นฯตั้งใจให้ถอดครอบปลั๊ก ออกทางด้านหน้าสไลด์เสียมากกว่า
4.จอห์นฯยกเลิกการปลดแม็กกาซีน จากส้นปืน มาเป็นปุ่มอยู่ด้านหลังโกร่งไก เพื่อให้สะดวกในการปลด
ทำให้เป็นรากฐานของปืนพกแบบนี้ มาถึงทุกวันนี้ แต่ไม่รู้ใครคิดก่อน เพราะ พาราเบลลั่ม พี 08 ก็เป็นปุ่มแบบนี้ เหมือนกัน แต่เอาเป็นว่า ถ้าปืนสไตล์นี้ ละก็ ปุ่มปลดแม็กแบบนี้ ทั้งเพ เลยครับ
มีเพียงซิก-ซาวเออร์ 220  รุ่น แรกๆ ที่ยังปลดตูดอยู่ได้ เชยชะมัดเลย .....แต่เดี๋ยวนี้ ไม่มีแล้ว) 
5. จอห์นฯ คิดเอาเซพปืนจาก เอ็ม 1908 มาดัดแปลงใส่ในเซฟปืนแบบใหม่ ที่เสนอเข้าประมูลกองทัพ ซึ่งในเอ็ม 1909 ขนาด .45 และ เอ็ม 1910 ขนาด .45 ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของ พระเอกของเรา ไม่มีเซฟนิ้วโป้งแฮะ
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #92 เมื่อ: มีนาคม 13, 2007, 01:37:38 PM »

......โอ๊ย...หมดแรงแล้ว....เอางี้ ใครอยากดู เอ็ม 1909 เอ็ม 1910 ไปเปิดเวปโคลท์ดูได้ สาธยาย ไม่หมดแล้ว
....อีกจุดหนึ่งที่ ละเลยไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยคือ
ระบบสลัดปลอกกระสุน ....อันนี้ เป็นการวิเคราะห์ในเชิงเทคนิค การผลิต
..เอ็ม 1903  จนถึง เอ็ม 1908 เท่าที่เคยเห็น จากท่านอาจารย์สุพินท์ แก้....เอ้ย.....(ขอโทษครับ...เผลอทุกที)
ถอด เอ็ม 1903 ให้ดู   และเคยย่อย เอ็ม 1908 ด้วยตนเอง ปรากฎว่า
การเริ่ม ปฏิบัติการเตะปลอกกระสุน จะกระทำในขณะที่ปลอกกระสุนที่ยิงแล้ว ถอยหลังมา ยังไม่พ้นแนวแม็กกาซีน ปลอกกระสุนจะเริ่มเงยหัวขึ้นแล้ว
...........แต่ในพระเอกของเรา ..........การเริ่มปฏิบัติการเตะปลอกกระสุน กระทำในขณะที่ปลอกกระสุนถอยมาพ้น แม็กกาซีนแล้ว 
ข้อดีของการเตะปลอกของ เอ็ม 1903 เอ็ม 1908 คือ กระสุนนัดที่อยู่แม็กกาซีน จะไม่ขึ้นมารบกวนการสลัดปลอก
ข้อเสียของการเตะปลอก ของ พระเอกของเรา ....คือ กรณี ที่กระสุนปืน แรงดันต่ำ หรือเผาไหม้ ไม่สมบูรณ์ แล้วทำให้สไลด์ถอยหลังช้า กระสุนนัดที่อยู่ในแม็กฯ จะขึ้นมารบกวนการสลัดปลอก ทำให้เกิดอาการ ปล่องรถไฟ

.......อ้าว แล้ว อยู่ดีๆ ทำไม จอห์นฯ ออกแบบของดีอยู่แล้ว แล้วมาทำให้เสียในพระเอกของเราได้ไง Huh
ตอบ...น่าจะมีเหตุผลอย่างอื่น เช่น ทำช่องคายปลอกกระสุนให้อยู่ด้านบน แตกต่างไปจากเอ็ม 1903 และ เอ็ม 1908
เพื่อจุดประสงค์ ให้สไลด์ สามารถอมลำกล้อง ได้อยู่ในแนวเส้นผ่าศูนย์กลางของลำกล้อง เพื่อเวลาทดสอบการโยนบก ในการประมูลฯ ไม่มีทรายเข้าไปในช่วงใต้ลำกล้อง แล้วจะทำให้ปืนติดขัด
......เหตุผลสนับสนุน.....เอ็ม 1911 ปัจจุบันที่มีการปาดช่องคาย ให้ต่ำลงกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางลำกล้องแนวราบ
ท่านจะมองเห็นกลไกข้างล่างด้วย เพราะมีการเปลี่ยนเส้นทางการดีดปลอกให้ผิดแผกแตกต่างไปจากผู้ออกแบบเดิมคิด ดังนั้น เอ็ม 1911 แบบปาดช่องคายปลอก เพื่อเตะปลอกออกทางด้านข้าง จะมีช่องโหว่อยู่ใต้ลำกล้อง จอห์นฯจึงต้องออกแบบตัวเตะปลอกแบบใหม่ ไม่เหมือนใครด้วยประการฉะนี้
( เอ็ม 1911 ตัวเตะปลอกของเดิม ขนานแท้ ถือว่า ไม่เหมือนใครจริงๆ ในโลกครับ)
....ขอพอแค่นี้ก่อน ........อาจจะวิชาการไปหน่อย ในช่วงเทคนิคการสลัดปลอก แต่ถ้าท่านเข้าใจ ท่านจะสามารถวิเคราะห์อาการติดขัดของปืนของท่านได้ด้วยตนเองครับ ..........
บันทึกการเข้า
STeelShoTS
Mossy Oak Duck Blind
Hero Member
*****

คะแนน 534
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6303


If you heard my shot. You were not the target.


« ตอบ #93 เมื่อ: มีนาคม 13, 2007, 01:51:50 PM »

บทความของพี่เต๋ายอดเยี่ยมมาก ปรบมือให้เลย... ผมสนับสนุนบทความของพี่เต๋าด้วยเวบลิ้งนี้ครับ  www.coltautos.com 
 และมีรูปภาพประกอบให้ด้วยครับ  Wink

 Colt Model 1903 Pocket Hammer .38 ACP



Colt Model 1908 Pocket Hammerless .380 ACP



Colt Model 1905 Military .45 ACP



Colt Model 1909  .45 ACP



Colt Model 1910  .45 ACP



Colt Model 1911  .45 ACP



Colt 1911 Government Model  .45 ACP



Colt 1911A1 .45 ACP





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 13, 2007, 02:04:45 PM โดย mosino » บันทึกการเข้า

Natural resources is sufficient for human's need,but not for human's greed
natfd
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 9
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 420


« ตอบ #94 เมื่อ: มีนาคม 13, 2007, 02:12:43 PM »

สำหรับผมใช้มานานพกก็ดี ใช้ก็ดี เปลียนหลายกระบอกแล้ว ด้วยอำนาจทำลาย กับ ความบางเหมาะสม ด้วยปัจจัยหลายอย่างทำให้ชอบครับ
บันทึกการเข้า

ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับมือใหม่
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #95 เมื่อ: มีนาคม 13, 2007, 02:24:20 PM »

.....กราบขอบพระคุณ...พี่โม มากครับ.....พอเอามาเปรียบกันแบบนี้ มีหลายจุดเลย ที่พอจะสังเกตแล้วเอามาโม้ได้อีกเพียบ
......ระบบเข็มแทงชนวน อัจฉริยะ
...ในช่วง 1900-1908 เข็มแทงชนวน ไม่สามารถถอดออกมาเล่นได้ง่ายๆ ท่านจะต้องเคาะสลักล็อคเข็มแทงชนวนออกเสียก่อน เข็มถึงจะถอยหลังออกมาได้
 ....ตั้งแต่ เอ็ม 1909 เป็นต้นมา จอห์นฯออกแบบใหม่ ให้ใช้การกดเข็มแทงชนวนให้จมลง จากนั้น ออกแบบแผ่นปิดท้ายเข็มแทงชนวนเข้าล็อคเข็มเอาไว้ โดยอาศัยแรงดันสปริงเข็มแทงชนวน ให้ทำงานสองหน้าที่
หน้าที่ที่ 1 ไว้ดันเข็มย้อนกลับเวลาถูกนกตีตูด
หน้าที่ที่ 2 เอาไว้ดันย้อนกลับมาทางท้าย เพือยันแผ่นเหล็กปิดท้ายเข็มแทงชนวนไว้ ไม่ให้หลุด เว้นแต่จะให้มันหลุดโดยเจตนาถอดมันเท่านั้น ....(ไม่เหมือนผู้หญิงสมัยนี้ เจตนาให้มันหลุด โดยบอกว่า ไม่เจตนาอยู่เรื่อยเลย)

....ต่อไปเรื่องคันล็อคสไลด์ สัญญานเตือนภัยเมื่อกระสุนหมด....................
ใน เอ็ม 1903 ไม่ปรากฏว่า ยิงนัดสุดท้ายแล้ว  กระสุนหมด แล้วสไลด์จะค้าง เพราะสังเกตง่ายๆ ที่ขอบสไลด์ด้านซ้าย ไม่มีบากร่อง ล๊อค เหมือนในปัจจุบัน
เอ็ม 1905 สังเกตว่า มีร่องบากที่ขอบสไลด์แล้วครับ แถมมีปุ่มอะไรไม่รู้มาอยู่ที่ตำแหน่งค้างสไลด์ในปัจจุบัน แสดงว่า วิวัฒนาการของการค้างสไลด์ เริ่มที่ เอ็ม 1905 นี่เองครับ แต่คันค้างสไลด์ ยังทำหน้าที่เพียงหน้าที่เดียวโดยลำพังคือ มีหน้าที่แค่ค้างสไลด์เท่านั้น

ต่อมาท่านจะเห็นวิวัฒนาการของปืนก่อนที่จะมาเป็น เอ็ม 1911 ได้อย่างสนุกสนาน เหมือนเรียนวิชาประวัติศาสตร์ มนุษย์โครมันยอง ยุคหิน ยุคหินเก่า ยุคหินใหม่ ยุคสัมฤทธิ์ อะไรทำนองนั้นทีเดียว

....เจ้าคันค้างสไลด์ เคยทำงานเพียงหน้าที่เดียว คือ ค้างสไลด์ ในเอ็ม 1905
....แต่พอมาถึงเอ็ม 1909 เจ้าคันค้างสไลด์ ได้หน้าที่เพิ่มขึ้นมาอีก โดยมีหน้าที่
1...เป็นคันค้างสไลด์ เตือนเมื่อกระสุนหมด
2....ทำหน้าที่เป็นสลักล็อค ห่วงโตงเตงของลำกล้องไว้ด้วย
...เป็นการพัฒนาให้ใช้ ชิ้นส่วนเพียงหนึ่งเดียว แต่ทำหน้าที่ สองอย่างในเวลาเดียวกัน น่าทึ่งในอัจฉริยะภาพของจอห์นฯเป็นที่สุดเลยครับ

....พอคันล็อคสไลด์ เกิดขึ้นในเอ็ม 1909 ท่านก็จะเห็น เจ้าครึ่งวงพระจันทร์ เกิดขึ้นที่ขอบสไลด์ของเอ็ม 1909  ด้านหลังช่องบากล็อคสไลด์ ที่ขอบสไลด์   ในขณะที่เอ็ม 1905 ไม่มีครึ่งวงพระจันทร์  ......โอ้โห พระแม่เจ้า เห็นไหมครับว่า เจ้าครึ่งวงพระจันทร์ ที่ไว้เลื่อนให้ตรง เวลาจะร้อย สลักล็อคห่วงโตงเตง นั้น กำเนิดขึ้นตั้งแต่ เอ็ม 1909 โน่นแน่ ......น่าตื่นเต้นจริง (คนเดียวหรือเปล่านะเนี่ย เรา.....บ้าอยู่คนเดียว)
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #96 เมื่อ: มีนาคม 13, 2007, 02:35:54 PM »

ต่อไป..........เรื่ององศาของด้ามปืน ................................
เอ็ม 1900- จนถึง เอ็ม 1908 องศาด้ามจะเป็นแนวตั้ง เพื่อสะดวกในการป้อนกระสุน แต่มีข้อเสีย คือ ต้องต้องคอน ข้อมือในการยิง นิดหนึ่ง ไม่งั้น กระสุนลงดินหมด
พอมาถึงเอ็ม 1909 องศาด้ามอัจฉริยะนี้ ได้กำเนิดขึ้น เป็นการชี้ ปืนไปที่เป้าหมายแล้ว เหมือนจะยิงได้เลย ไม่ต้องเล็ง  เป็นการปรับองศาด้ามใหม่ให้ยิงได้ดีขึ้นกว่าเดิม ก็ไม่น่าเชื่อว่าปืนบางยี่ห้อที่เพิ่งผลิตเมื่อเร็วๆนี้ หลายยี่ห้อ  ในปัจจุบัน กลับออกแบบองศาด้ามปืน ย้อนยุค ไปถึง ก่อน เอ็ม 1909 เสียด้วยซ้ำ
....มีปืนดาวรุ่ง ยี่ห้อหนี่ง ลอกองศาด้ามของ เอ็ม 1909-1911 ไปใช้ ทายซิ ยี่ห้ออะไรเอ่ย ...........
บันทึกการเข้า
neo1
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 159
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2694



« ตอบ #97 เมื่อ: มีนาคม 13, 2007, 02:42:26 PM »

รอท่านอาจารย์ตอบอย่างเดียวครับ Grin Grinกระผมมันสมองไม่ได้เรื่องขอเอาไว้รับอย่างเดียวดีกว่า Grin Grin
บันทึกการเข้า

นักะติ๊ Club
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #98 เมื่อ: มีนาคม 13, 2007, 03:32:35 PM »

รอท่านอาจารย์ตอบอย่างเดียวครับ Grin Grinกระผมมันสมองไม่ได้เรื่องขอเอาไว้รับอย่างเดียวดีกว่า Grin Grin
ผมเปล่าตอบนะครับ ...เล่าให้ฟังเฉยๆ พี่โม เขาเอารูปมาประกอบให้ ก็พิจารณาดูประกอบไปด้วยก็ดีครับ
ท่านจะได้เข้าใจ ที่มา ที่ไปของเจ้า เอ็ม 1911 เอ1 แปลงกายมาเป็น ปืนที่ท่านมีอยู่ในครอบครองยังไงละครับ
..........................
.หมดมุขแล้วครับ เรื่องเทคนิค ขั้นตอนการพัฒนา เจ้าปืนอมตะกระบอกนี้
ทีนี้ มาว่ากันต่อเรื่องการเข้าประจำการ ในกองทัพสหรัฐ
....ในการประมูลแข่งขันเข้าประจำการในกองทัพ ห้วงระหว่างปี 1910-1911 โคลท์ได้ส่งแบบประมูลเข้าแข่งขัน
ก็คือ เจ้าเอ็ม 1911 ที่พัฒนาสูงสุดแล้วนี่แหละ
....คู่ต่อสู้ในการประมูล ถ้าจำไม่ผิด ก็เป็น ปืน ซาเวจ จำขนาดไม่ได้
ในการแข่งขัน ก็คงไม่ต้องพูด เอ็ม 1911 พระเอกของเรา ก็คงชนะขาด ทั้งในด้านปฏิบัติการ และอานุภาพหยุดยั้ง
และการถอดประกอบด้วยมือ ใช้เครื่องมือในการถอดน้อยที่สุด แม้ในปัจจุบัน บาเร็ตต้า 92 ที่ว่าแน่แน่ ถ้ามาถอดละเอียดแข่งกับ เอ็ม 1911 ละก็  92 เอฟเอส แพ้ลุ้ยเลยแหละจะบอกให้
.....ถามต่อว่า แล้วเราจะมาถอดปืนอมตะกระบอกนี้ เล่นหาตะหวัก ตะบวยอะไร ก็ปืนมันดีๆ ของมันอยู่

....ขอโทษทีเถอะครับ ......การรบในสมัยนี้ ต่างจากการรบในสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง
การรบในสมัยนี้ เป็นยุคไฮเทค กดปุ่มทำลายกันอย่างเดียว จรวด ขีปนาวุธ ปืนกล ก็ล้วนบังคับด้วยระบบไฟฟ้าทั้งสิ้น
กว่าทหารราบจะได้ลงปะทะกันจริงๆ ลุยกันจริงๆ ก็แทบจะราบเป็นหน้ากลองไปหมดแล้ว

....แต่การรบสมัยก่อน เป็นการรบแบบประชิดตัว ทหารราบ ก็คือทหารราบ จริงๆ (ราบไปกับพื้นตลอดเลยมั้ง  ไม่รู้ใครตั้งชื่อคำว่า ทหารราบ  สนใจอยากรู้ที่มาเหมือนกัน คำว่าทหารราบเนี่ย ) การรบ ต้องมีการลุยน้ำ ลุยโคลน ลุยทราย สารพัด ดังนั้น ปืนพก ต้องติดตัวทหารไปตลอด ไม่งั้น จะได้เรียกว่า ปืนบรรทุก ดีไหมครับ ....
ปืนพก ต้องติดตัวทหาร ในการรบจริง ไม่ใช่ค่อยๆ เดินนวยนาด เหมือนรำละครเสียเมื่อไหร่
ต้องกลิ้ง ต้องหมอบ ต้องคลาน หกคะเมน ตีลังกา กลิ้งไป กลิ้งมา อยู่เป็นนิจ   ฝุ่น ทราย น้ำ ย่อมมีโอกาส เข้าไปในปืนพกของทหารราบอย่างแน่นอน
.....แล้วถ้าปืนพก ถอดทำความสะอาดแบบละเอียดด้วยเครื่องมือ ยากๆ แบบ บาเร็ตต้า .....จะทันกินไหม ในสนามรบ
....เอ็ม 1911 เป็นปืนที่สามารถถอดละเอียดได้ในสนามฯ โดยความรวดเร็ว โดยแทบไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไรเลย แถมยังเป็นปืนชนิดเดียว ที่สามารถใช้เครื่องใน เครื่องกลไกของตัวเอง ถอดตัวเองได้อีก น่าทึ่งเป็นที่สุด
คุณสมบัติอันนี้ ยังถือว่าเป็นอมตะที่สุด และอมตะยาวนานจาก ปี 1911 มาจนถึง ปี 2007 ชนิดไม่มีใครมาเทียบได้
(ยกเว้น กล็อค ถือว่า สูสีกัน แต่กล็อคก็ลอกเทคนิคมาหลายอย่าง เช่น ระบบเข็มแทง ระบบขอรั้ง )

พอประมูลกองทัพได้ ชื่อว่า เอ็ม 1911  แต่เข้าประจำการ หรือ เคลื่อนย้ายจากโรงงาน เข้าสู่สารบบของกองทัพสหรัฐ ก็ปาเข้าไป ปี 1912 แล้ว  มีกล่าวอ้างไว้ในปืน เอ็ม 1911 กระบอกที่ 53 ล็อตที่ 2 ลงใน อวป. ไว้เป็นความรู้แก่พวกเรา
.....พอประจำการกองทัพสหรัฐ ได้แค่แป๊ปเดียวเอง มหาสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็บังเกิดขึ้นที่ทวีปยุโรป

ฝรั่งเศส ถือเป็นมหามิตรของสหรัฐมาตั้งแต่กำเนิดประเทศ เพราะฝรั่งเศส ชอบจุ้นเรื่องการเมืองของชาวบ้านเขาอยู่แล้ว ตอนสหรัฐ รวมตัวกันต่อสู้กับอังกฤษ เพื่อประกาศเอกราช ก็มีฝรั่งเศสนี่แหละ ที่ยืนอยู่ข้างสหรัฐ ขนาดนักปฏิวัติของไทย คิดจะปฏิวัติประเทศ ในปี 2475 มีบางสาย ยังไปคบคิดตกลงวางแผนกันในฝรั่งเศสเลย

ของขวัญครบ 100 ปี ในการก่อตั้งสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ยังอุตส่าห์ ผลิตแล้วส่งไปเป็นของกำนัลในโอกาสครบรอบ เลย แสดงให้เห็นสายสัมพันธ์อันลึกซึ้ง ระหว่าง ฝรั่งเศส กับ สหรัฐ ........เทพีเสรีภาพ ไงละครับท่าน ที่เป็นของขวัญที่ว่า......

ฝรั่งเศส เป็นสมรภูมิรบ ยุโรป   ( คุณทวด ของพวกเรา ก็ไปรบกับเขาเหมือนกันนะครับ ไม่ใช่ย่อย สยามประเทศเนี่ย อนุสาวรีย์ของคุณทวด   อยู่แถวๆ สนามหลวง ถ้าจำไม่ผิด )   ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 มีการรบแบบประชิดตัว ตามสนามเพลาะ  สหรัฐ ได้มีโอกาสส่งทหารไปช่วยรบ การรบ ประชิด ปืนพก มีความสำคัญมาก เอ็ม 1911 ก็เป็นพระเอก ตามเคย
มีการเล่าขานถึงอานุภาพการหยุดยั้งของมัน เป็นนิทาน นิยาย ทหารฝรั่ง หลายเรื่อง

พอดี วีรบุรุษ สงครามโลกครั้งที่ 1 ไม่ได้มีชีวิตมาถึง ปัจจุบัน เลยไม่มีตัวเป็นๆ  มาเล่าให้ฟังถึงอานุภาพ ของปืนอมตะ
เอ็ม 1911 ตัวนี้

....แต่ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 บังเกิดขึ้น ปี 1942-1945  ยังพอมี วีรบุรุษ(ฝรั่ง)  บางท่าน ยังพอมีชีวิต อยู่ พอที่จะมาสาธยายถึงคุณสมบัติที่วิเศษ ของเอ็ม 1911  และ เอ็ม 1911 เอ1 ให้พวกเรา ฟัง

วีรบุรุษ ในสงครามภาคพื้นยุโรป  (ฝรั่งรบฝรั่ง) ไม่เคยเห็นซักราย ผมอาจ อ่านไม่ทั่วถึงก็ได้ ขออภัย
แต่วีรบุรุษ (ฝรั่ง) แปซิฟิค หรือ  สงคราม ฝรั่ง รบ โออิชิ....เอ้ย ..... ญี่ปุ่น  เนี่ย มีชีวิตอยู่ 2 คน พอจะเล่าเรื่องให้เราฟังได้ เกี่ยวกับ เอ็ม 1911 เรียงลำดับดังนี้ 
1. เจฟ  คูเปอร์ ...ถ้าออกเสียงผิด ขออภัย
2.จิม คล้าค......คิดว่าออกเสียงไม่ผิด
.......โอ๊ย ตาลายไปหมดแล้ว  ไว้มาต่อให้อีกซัก สัปดาห์หน้านะครับ ...หลังจากนี้ อีก 5 วัน ไม่ว่างแน่นอน 
บันทึกการเข้า
CAPTAINKID-รักในหลวงที่สุด
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2474


สบู่สมุนไพรบ้านสุทธิกานต์ อาบสะอาดหอมสดชื่นแบบไทยๆ


« ตอบ #99 เมื่อ: มีนาคม 13, 2007, 08:13:25 PM »

ผมยกย่องคุณบราวนิงมากกว่าที่เป็นผู้สร้าง 1911 ขึ้นมา โคลท์เป็นแค่ยี่ห้อแรกที่ผลิต 1911 ขึ้นมา
บันทึกการเข้า

สบู่สมุนไพรบ้านสุทธิกานต์ ใช้เนื้อสบู่ที่มีคุณภาพ ไม่มีไขมันสัตว์ ผสมสมุนไพรจีนและไทยกว่า 10 ชนิด ตามสูตรโบราณ ให้กลิ่นหอมแบบไทยๆ ฟองมาก อาบสะอาด ช่วยขจัดคราบไคล แก้ปัญหากลิ่นกาย โรคผิวหนัง สิวฝ้า และจุดด่างดำต่างๆ ได้ดี

หาซื้อได้ที่โฮมเฟรชมาร์ท ใน เดอะมอลล์ ทุกสาขา
neo1
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 159
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2694



« ตอบ #100 เมื่อ: มีนาคม 14, 2007, 10:59:36 AM »

ขอขอบคุณครับท่านอาจารย์เต๋า Cheesyแล้วผมจะรออ่านตอนต่อไปนะครับ Cheesy
บันทึกการเข้า

นักะติ๊ Club
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #101 เมื่อ: มีนาคม 14, 2007, 11:23:04 AM »

Cheesy.. ผม. คนคอ Colt คนหนึ่ง .   
       ขอขอบคุณเพื่อนคอปืน ทุกท่านที่มาให้ความรู้.
       และขอขอบคุณ tao bangkhaen .อย่างมาก. ที่มาช่วยเติมให้ แบบ.
       สื่อความจาก ต้นแหล่ง.. ให้ทราบกัน.อีก. Cheesy

       คงไม่ต้องบอกว่า ผมได้เซฟ กระทู้นี้ไว้ เรียบร้อยทุกหน้าแล้วครับ..  Grin
บันทึกการเข้า

ozero++รักในหลวงมากค่ะ++
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1287
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 25366


มารยาท...มีให้รักษา


« ตอบ #102 เมื่อ: มีนาคม 20, 2007, 12:28:03 PM »

ชื่นใจจังเลยค่ะ ที่กระทู้ของโอสามารถงอกเงยความรู้ออกมาเพียบเลย
ขอบคุณทุกๆท่านที่ให้ความรู้นะคะ หลงรัก
บันทึกการเข้า

เข้ามากด like กันได้นะคะ http://www.facebook.com/OAroi
และ https://www.facebook.com/SiaAke
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #103 เมื่อ: มีนาคม 20, 2007, 02:05:14 PM »

Cheesy.. ผม. คนคอ Colt คนหนึ่ง .
 ขอขอบคุณเพื่อนคอปืน ทุกท่านที่มาให้ความรู้.
 และขอขอบคุณ tao bangkhaen .อย่างมาก. ที่มาช่วยเติมให้ แบบ.
 สื่อความจาก ต้นแหล่ง.. ให้ทราบกัน.อีก. Cheesy

 คงไม่ต้องบอกว่า ผมได้เซฟ กระทู้นี้ไว้ เรียบร้อยทุกหน้าแล้วครับ.. Grin

ยินดีรับใช้ ....เซฟเอาไปอ่านเล่นๆ ก็ได้ เป็นนิยายอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ปืนของโลกใบนี้เลยทีเดียว
โคลท์ ถือเป็นหนึ่งในส่วนประกอบของประวัติศาสตร์ปืนบนโลกใบนี้ อย่างมากทีเดียว (คิดเปอร์เซนต์ กะไม่ถูกแฮะ)
พอดีช่วงนี้ งานโครตยุ่งเลย เลยไม่ได้มาต่อให้ขออภัยด้วยครับ ว่างเมื่อไหร่ จะรีบประทับทรงทันทีเลย
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #104 เมื่อ: มีนาคม 20, 2007, 02:07:14 PM »

ชื่นใจจังเลยค่ะ ที่กระทู้ของโอสามารถงอกเงยความรู้ออกมาเพียบเลย
ขอบคุณทุกๆท่านที่ให้ความรู้นะคะ หลงรัก
ขอบคุณเจ้าขอบกระทู้ที่ให้โอกาส ผมเข้ามาโลดแล่นอยู่ในกระทู้ที่ท่านได้ตั้งเอาไว้ คำถามของท่านเด็ดมาก ตอบอีกเท่าไหร่ก็ไม่หมดครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 6 [7] 8 9 10
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.122 วินาที กับ 22 คำสั่ง