ผมเปล่าตอบนะครับ ...เล่าให้ฟังเฉยๆ พี่โม เขาเอารูปมาประกอบให้ ก็พิจารณาดูประกอบไปด้วยก็ดีครับ
ท่านจะได้เข้าใจ ที่มา ที่ไปของเจ้า เอ็ม 1911 เอ1 แปลงกายมาเป็น ปืนที่ท่านมีอยู่ในครอบครองยังไงละครับ
..........................
.หมดมุขแล้วครับ เรื่องเทคนิค ขั้นตอนการพัฒนา เจ้าปืนอมตะกระบอกนี้
ทีนี้ มาว่ากันต่อเรื่องการเข้าประจำการ ในกองทัพสหรัฐ
....ในการประมูลแข่งขันเข้าประจำการในกองทัพ ห้วงระหว่างปี 1910-1911 โคลท์ได้ส่งแบบประมูลเข้าแข่งขัน
ก็คือ เจ้าเอ็ม 1911 ที่พัฒนาสูงสุดแล้วนี่แหละ
....คู่ต่อสู้ในการประมูล ถ้าจำไม่ผิด ก็เป็น ปืน ซาเวจ จำขนาดไม่ได้
ในการแข่งขัน ก็คงไม่ต้องพูด เอ็ม 1911 พระเอกของเรา ก็คงชนะขาด ทั้งในด้านปฏิบัติการ และอานุภาพหยุดยั้ง
และการถอดประกอบด้วยมือ ใช้เครื่องมือในการถอดน้อยที่สุด แม้ในปัจจุบัน บาเร็ตต้า 92 ที่ว่าแน่แน่ ถ้ามาถอดละเอียดแข่งกับ เอ็ม 1911 ละก็ 92 เอฟเอส แพ้ลุ้ยเลยแหละจะบอกให้
.....ถามต่อว่า แล้วเราจะมาถอดปืนอมตะกระบอกนี้ เล่นหาตะหวัก ตะบวยอะไร ก็ปืนมันดีๆ ของมันอยู่
....ขอโทษทีเถอะครับ ......การรบในสมัยนี้ ต่างจากการรบในสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง
การรบในสมัยนี้ เป็นยุคไฮเทค กดปุ่มทำลายกันอย่างเดียว จรวด ขีปนาวุธ ปืนกล ก็ล้วนบังคับด้วยระบบไฟฟ้าทั้งสิ้น
กว่าทหารราบจะได้ลงปะทะกันจริงๆ ลุยกันจริงๆ ก็แทบจะราบเป็นหน้ากลองไปหมดแล้ว
....แต่การรบสมัยก่อน เป็นการรบแบบประชิดตัว ทหารราบ ก็คือทหารราบ จริงๆ (ราบไปกับพื้นตลอดเลยมั้ง ไม่รู้ใครตั้งชื่อคำว่า ทหารราบ สนใจอยากรู้ที่มาเหมือนกัน คำว่าทหารราบเนี่ย ) การรบ ต้องมีการลุยน้ำ ลุยโคลน ลุยทราย สารพัด ดังนั้น ปืนพก ต้องติดตัวทหารไปตลอด ไม่งั้น จะได้เรียกว่า ปืนบรรทุก ดีไหมครับ ....
ปืนพก ต้องติดตัวทหาร ในการรบจริง ไม่ใช่ค่อยๆ เดินนวยนาด เหมือนรำละครเสียเมื่อไหร่
ต้องกลิ้ง ต้องหมอบ ต้องคลาน หกคะเมน ตีลังกา กลิ้งไป กลิ้งมา อยู่เป็นนิจ ฝุ่น ทราย น้ำ ย่อมมีโอกาส เข้าไปในปืนพกของทหารราบอย่างแน่นอน
.....แล้วถ้าปืนพก ถอดทำความสะอาดแบบละเอียดด้วยเครื่องมือ ยากๆ แบบ บาเร็ตต้า .....จะทันกินไหม ในสนามรบ
....เอ็ม 1911 เป็นปืนที่สามารถถอดละเอียดได้ในสนามฯ โดยความรวดเร็ว โดยแทบไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไรเลย แถมยังเป็นปืนชนิดเดียว ที่สามารถใช้เครื่องใน เครื่องกลไกของตัวเอง ถอดตัวเองได้อีก น่าทึ่งเป็นที่สุด
คุณสมบัติอันนี้ ยังถือว่าเป็นอมตะที่สุด และอมตะยาวนานจาก ปี 1911 มาจนถึง ปี 2007 ชนิดไม่มีใครมาเทียบได้
(ยกเว้น กล็อค ถือว่า สูสีกัน แต่กล็อคก็ลอกเทคนิคมาหลายอย่าง เช่น ระบบเข็มแทง ระบบขอรั้ง )
พอประมูลกองทัพได้ ชื่อว่า เอ็ม 1911 แต่เข้าประจำการ หรือ เคลื่อนย้ายจากโรงงาน เข้าสู่สารบบของกองทัพสหรัฐ ก็ปาเข้าไป ปี 1912 แล้ว มีกล่าวอ้างไว้ในปืน เอ็ม 1911 กระบอกที่ 53 ล็อตที่ 2 ลงใน อวป. ไว้เป็นความรู้แก่พวกเรา
.....พอประจำการกองทัพสหรัฐ ได้แค่แป๊ปเดียวเอง มหาสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็บังเกิดขึ้นที่ทวีปยุโรป
ฝรั่งเศส ถือเป็นมหามิตรของสหรัฐมาตั้งแต่กำเนิดประเทศ เพราะฝรั่งเศส ชอบจุ้นเรื่องการเมืองของชาวบ้านเขาอยู่แล้ว ตอนสหรัฐ รวมตัวกันต่อสู้กับอังกฤษ เพื่อประกาศเอกราช ก็มีฝรั่งเศสนี่แหละ ที่ยืนอยู่ข้างสหรัฐ ขนาดนักปฏิวัติของไทย คิดจะปฏิวัติประเทศ ในปี 2475 มีบางสาย ยังไปคบคิดตกลงวางแผนกันในฝรั่งเศสเลย
ของขวัญครบ 100 ปี ในการก่อตั้งสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ยังอุตส่าห์ ผลิตแล้วส่งไปเป็นของกำนัลในโอกาสครบรอบ เลย แสดงให้เห็นสายสัมพันธ์อันลึกซึ้ง ระหว่าง ฝรั่งเศส กับ สหรัฐ ........เทพีเสรีภาพ ไงละครับท่าน ที่เป็นของขวัญที่ว่า......
ฝรั่งเศส เป็นสมรภูมิรบ ยุโรป ( คุณทวด ของพวกเรา ก็ไปรบกับเขาเหมือนกันนะครับ ไม่ใช่ย่อย สยามประเทศเนี่ย อนุสาวรีย์ของคุณทวด อยู่แถวๆ สนามหลวง ถ้าจำไม่ผิด ) ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 มีการรบแบบประชิดตัว ตามสนามเพลาะ สหรัฐ ได้มีโอกาสส่งทหารไปช่วยรบ การรบ ประชิด ปืนพก มีความสำคัญมาก เอ็ม 1911 ก็เป็นพระเอก ตามเคย
มีการเล่าขานถึงอานุภาพการหยุดยั้งของมัน เป็นนิทาน นิยาย ทหารฝรั่ง หลายเรื่อง
พอดี วีรบุรุษ สงครามโลกครั้งที่ 1 ไม่ได้มีชีวิตมาถึง ปัจจุบัน เลยไม่มีตัวเป็นๆ มาเล่าให้ฟังถึงอานุภาพ ของปืนอมตะ
เอ็ม 1911 ตัวนี้
....แต่ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 บังเกิดขึ้น ปี 1942-1945 ยังพอมี วีรบุรุษ(ฝรั่ง) บางท่าน ยังพอมีชีวิต อยู่ พอที่จะมาสาธยายถึงคุณสมบัติที่วิเศษ ของเอ็ม 1911 และ เอ็ม 1911 เอ1 ให้พวกเรา ฟัง
วีรบุรุษ ในสงครามภาคพื้นยุโรป (ฝรั่งรบฝรั่ง) ไม่เคยเห็นซักราย ผมอาจ อ่านไม่ทั่วถึงก็ได้ ขออภัย
แต่วีรบุรุษ (ฝรั่ง) แปซิฟิค หรือ สงคราม ฝรั่ง รบ โออิชิ....เอ้ย ..... ญี่ปุ่น เนี่ย มีชีวิตอยู่ 2 คน พอจะเล่าเรื่องให้เราฟังได้ เกี่ยวกับ เอ็ม 1911 เรียงลำดับดังนี้
1. เจฟ คูเปอร์ ...ถ้าออกเสียงผิด ขออภัย
2.จิม คล้าค......คิดว่าออกเสียงไม่ผิด
.......โอ๊ย ตาลายไปหมดแล้ว ไว้มาต่อให้อีกซัก สัปดาห์หน้านะครับ ...หลังจากนี้ อีก 5 วัน ไม่ว่างแน่นอน