ติดตามอ่านต่อครับ
ขอโทษครับ ....สดุดตลอดเลย ...มีเรื่องด่วนเข้ามาเลยต้องแว็ปไปแป็บหนึ่ง
คูเปอร์ เป็นทหารสหรัฐในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาได้ถูกส่งในไปแนวรบภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก เพื่อรบกับญี่ปุ่น นักรบที่แสนทารุณโหดร้าย ไม่หล่อ ไม่น่ารัก สุภาพบุรุษ เหมือนโกโบริ ที่นักแต่งนิยายไทย จิตนาการไว้เลยซักนิด
ทั้งทารุณ ทั้งข่มขืน สารพัดละครับท่าน
....คูเปอร์ ในขณะก่อนไปรบ เขาก็คงจะเป็นคนชอบปืน เหมือนพวกเรานี่แหละ พอดี ไปรบ ก็เลยได้ใช้ปืนตามที่ใจรักพอดี
...ก่อนไปรบ เขาก็ยอมรับนับถือ บทความ แนวคิด ของนักเล่นปืนระดับอภิมหาอมตะนิรันดร์กาลแห่งสหรัฐ คือ เอเมอร์ คีธ
เอเมอร์ คีธ บอกว่า ปืนโคลท์ .45 ซิงเกิลแอ็คชั่น เป็นปืนทีสามารถยิงนัดแรกได้เร็วและแม่นยำที่สุด
เมื่อเวลาไปรบจริงในสมรภูมิเอเซียแปซิฟิก คูเปอร์ ก็เอาเจ้าซิงเกิ้ลแอ็คชั่นไปด้วย
.....แต่พอไปรบจริงๆ กับพวกญีปุ่น กลายเป็นความจริงปรากฎแก่คูเปอร์ว่า เจ้า เอ็ม 1911 ที่ทางการสหรัฐ แจกให้เป็นปืนหลวง ติดตัวในการรบ ทำการยิงได้ดีกว่า เจ้า โคลท์ คาวบอย ตามที่เอเมอร์ คีธ บอกไว้ คูเปอร์จึงยอมรับนับถือ เอ็ม 1911 ตั้งแต่นั้น เป็นต้นมา
......แต่เดิมก็เข้าใจว่า เขาเป็นแค่ทหารอเมริกันฯ ธรรมดาทั่วไปคนหนึ่ง แต่จากบทความของลูกสาวของคูเปอร์ เคยเขียนกล่าวถึงคุณพ่อของตน ได้เล่าความแตกออกมาว่า ที่แท้ คูเปอร์ เคยมาทำงานให้กับ ซีไอเอ ในพื้นที่สยามประเทศของเราเสียด้วย เห็นว่า ทางภาคเหนือของเรานี่แหละ (ในช่วงสงครามเย็นรัสเซีย-จีน) แถมเคยมายิงคนตายในภาคเหนือของเราเสียด้วย(คงยิงในภารกิจกระมั้ง เลยไม่เป็นเรื่อง)
......ภายหลังกลับไปมาตุภูมิ .....คูเปอร์ ได้นำประสบการณ์ชีวิตเกียวกับการใช้ปืนไปเปิดโรงเรียนสอนการยิงปืนแนวใหม่
?? เป็นอย่างไร การยิงปืน แนวใหม่
........การยิงปืนแนวเก่า ตามที่เราเห็นเห็น ทำ ๆ กันอยู่ทุกวันนี้ ก็คือ เดินเข้าสนาม เอากล่องปืนวาง เดินไปติดเป้า
เดินกลับมา เปิดกล่องปืน หยิบปืน ใส่กระสุน หลับตาซ้าย เล็งตาขวา ยืนนิ่งๆ โป้ง.......โป้ง.....โป้ง.........
สาแก่ใจแล้ว .....กลับบ้าน นั่งล้างปืนด้วยความสุขใจ ......นอนหลับฝันดี ....อา.....วันนี้ ได้ไปที่ชอบที่ชอบ มาแล้ว
(ไปที่ชอบที่ชอบเสียก่อนตอนมีชีวิตอยู่ พอตายแล้ว ญาติมาเคาะโลงบอกไปที่ชอบที่ชอบ ก็ไปไม่ได้เสียแล้ว เพราะยิงปืนไม่ได้แล้ว ไปสนามไม่ได้แล้ว)
......การยิงปืนแนวใหม่ของคูเปอร์คือ วิ่งไปยิงไป นั่งไปยิงไป นอนไปยิงไป ตีลังกาไป ยิงไป ยิงมือเดียวบ้าง ยิงสองมือบ้าง กระโดดแล้วยิง โหนเชื่อกแล้วยิง (เป็นทาร์ซานหรือไง) ....เปล่า โม้ทั้งเพ ....หมายถึง การฝึกยิงปืนในสถานะการณ์ จริงๆ เหมือนในการรบ ไม่ใช่หลับตาซ้านเล็งตาขวา เหมือนในสนามแบบเก่า
....ทำไปทำมา การยิงปืนแบบของคูเปอร์ ก็วิวัฒนาการมาเป็น การแข่ง ไอพีเอสซี แบบในปัจจุบัน ด้วยประการละฉะนี้
....อ้าว.....เขียนมาตั้งนาน แล้วมันเกี่ยวกับอมตะของโคลท์ ตามที่เจ้าของกระทู้ท่านถามตรงไหนล่ะ
....ตอบ .....อ๋อ....ก็ปืนที่คุณปู่คูเปอร์ ใช้เป็นปืนที่ฝึกสอนในสถาบันของแกนะซิ แกก็ใช้ ปืน แนว เอ็ม 1911 ทั้งสิ้น
แก มีความสามารถแนะนำข้อดี ข้อเด่นให้กับนักเรียน ได้เห็นคุณค่าของเอ็ม 1911 ในขณะทำการฝึกกับแก
ดังนั้น เมื่อฝึกเสร็จ นักเรียน คงไปซื้อปืน สมิธฯ มาใช้กระมั้ง ..(ประชด) ....ก็ต้องซื้อ 1911 ซิครับ ......และแน่นอน ยี่ห้อ ที่เป็นโต้โผใหญ่ ก็โคลท์ ปืนตราม้านั่นแหละครับ
.....ดังนั้น คูเปอร์จึงถือว่าเป็นผู้หนึ่ง ที่สนับสนุน ให้ปืนโคลท์ เอ็ม 1911 เป็นปืนอมตะ เพราะจริงๆ เขาจะใช้ปืนอื่นในการฝึกก็ได้ แต่เมื่อเขาเลือกใช้ปืนเอ็ม 1911 ก็เท่ากับสนับสนุนให้โคลท์ เป็นปืนอมตะในช่วงนั้น เพราะไม่มีบริษัทไหน ผลิตเอ็ม 1911 ได้มากเท่ากับโคลท์ ในห้วงปี 1945-1985 ครับ
....ปืน ที่เป็น โมเดลออฟ 1911 พึ่งจะมาผลิตกันแพร่หลายเมื่อไม่ถึงสิบปีที่ผ่านมานี้เอง ดังนั้น ปืนแบบ 1911 ในอดีต
ร้อยทั้งร้อยเป็นปืนโคลท์ครับ .....เหลือส่วนแบ่งเป็นเรมิงตัน หรืออิธาก้า หรือยี่ห้ออื่นจำนวนไม่มากเลย
แนวทางของคูเปอร์ เป็นการทำให้โคลท์ เป็นอมตะในลักษณะของปืนใช้งาน สมบุกสมบัน แบบสไตล์ ไอพีเอสซี
....แล้วโอกาสหน้า จะมากล่าวถึง จิม คล้าค ในอีกแง่มุมหนึ่ง ที่ได้มีส่วนสนับสนุนให้โคลท์ เป็นอมตะ