ตอนแรกผมก็ว่าจะพอแล้วนะแต่ขออธิบายนิดนึง ข้าราชการไม่ใช่ขี้ข้าประชาชน ข้าราชการคือข้าของพระราชาที่ทำงานต่างพระเนตรพระกรรณ์สนองนโยบายของรัฐบาล รับเงินเดือนหลวงไม่เคยรับเงินจากประชาชน มาอ้างเรื่องภาษีก็ไม่ถูกนักเพราะข้าราชการก็เสียภาษีเหมือนกัน แถมเสียจริงเสียเต็มโดยคำนวนจากเงินเดือน(ที่น้อยนิด) ไม่มีเม้มไม่แต่งบัญชี ไม่ทราบว่าคนที่มาด่าว่าข้าราชการนั่นเสียภาษีเท่าไหร่ แล้วเสียเต็มจำนวนไหม ผมก็ไม่ทราบว่าข้าราชการกลายเป็นขี้ข้าประชาชนไปแต่เมื่อไหร่ งานหลายๆอย่างก็เน้นไปในทางการบริการ แต่งานบางอย่างก็เน้นปกครองป้องกันปราบปราม ไม่เห็นมีงานไหนกำหนดให้ต้องรับใช้ ในมุมมองของผมนั้นคนหรือมนุษย์ต้องมีผู้ปกครองเนื่องจากโดยธรรมชาติกำหนดให้เกิดมาเพื่อทำเลว จากกิเลส ตัณหา ทุกๆอย่างจะพยายามเบียดบังประโยชน์เข้าสู่ตัวเอง ถ้าปล่อยให้ทุกคนมีสิทธิเสรีใครอยากทำอะไรก็ได้ ไม่ต้องมีระเบียบ-กฏหมาย สังคมจะตัดสินกันด้วยกำลังไม่ต่างกับสัตว์ และเป็นเรื่องจริงแท้แน่นอนที่ว่าหากผู้ปกครองไม่เข็มแข็ง(กว่า)แล้ว ย่อมปกครองไม่ได้ นำกฏหมายมาบังคับไม่ได้ สังคมจะวุ่นวายอย่างที่เห็นกลุ่มต่างๆเช่นในทุกวันนี้
ถูกต้องแล้วครับ เป็นมุมมองของท่านคนเดียวจริงๆ ช่างแตกต่าง ชนิดเปรียบกันมิได้ กับข้าราชการดีๆ ที่แสดงความเห็นในกระทู้นี้
ผมยอมรับว่า ผมตกใจมาก ทำไม.....
ข้าราชการบางคนอย่างท่าน ถึงคิดได้เพียงนี้
คนหรือมุนษย์ ต้องมีคนปกครอง..........
ธรรมชาติกำหนดให้เกิดมาเพื่อทำเลว จากกิเลส ตัณหา.............ผมเชื่อว่าเจ้าตัว คงไม่ได้เป็นข้าราชการหรอกครับ อาจจะอยู่ในภาวะเครียด หรือถูกบีบคั้นบางประการ จึงได้แสดงความเห็นสวนทางกับคำปฏิญาณตน ตลอดจนแนวทางปฏิบัติตนของข้าราชการฝ่ายต่าง ๆ ซึ่งเป็นเหตุที่อาจจะให้อภัยได้
ผมคงจะพูดแทนข้าราชการได้อยู่บ้าง เพราะตัวเอง ก็มีตราแผ่นดินครอบหัวมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๖ ในกระทู้นี้ คงจะเป็นคนที่มีอายุตัว และอายุราชการมากพอสมควร
ข้าราชการคือผู้รับใช้ประชาชน และจะต้องตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน ไม่ใช่วางอำนาจกับประชาชน
ที่จริงแล้ว ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง ประชาชนใช้อำนาจ ด้วยการเลือกผู้แทนที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนส่วนใหญ่ ผู้แทนนำความต้องการของประชาชน ไปเปลี่ยนเป็นกฎหมาย และนโยบายในการบริหารราชการแผ่นดิน สั่งการให้กับข้าราชการปฏิบัติต่อไป
การอ้างว่าข้าราชการเสียภาษีเหมือนกัน เป็นเรื่องที่ต้องถือว่าการ์ดตก เอามาก ๆ ถ้าเป็นนักมวยก็ยืนได้ไม่ครบยก
ข้าราชการมีจำนวนไม่ถึงสามล้านคน และยังเป็นกลุ่มที่มีรายได้ต่ำมาก ไม่อาจนำไปเปรียบเทียบกับภาษีที่เก็บจากประชาชนได้เลย และที่อ้างว่าเสียภาษีเต็มจำนวน ก็เป็นข้ออ้างที่ขาดความรู้ที่ถูกต้อง
ปัจจุบัน ข้าราชการยังไม่ได้เสียภาษีจากเงินรายได้พึงประเมินอีกหลายประเภท ยกตัวอย่างเช่นเงินเบี้ยเลี้ยงเดินทาง ที่ในปัจจุบันจะแจ้งเป็นรายได้ให้กรมสรรพากรเรียกเก็บเฉพาะข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ สามจังหวัดภาคใต้ ที่ได้รับเบี้ยเลี้ยงปีละ ๓๖๕ วันเท่านั้น
โปรดอย่าสับสนระหว่างข้าราชการประจำ กับข้าราชการในพระองค์
แม้แต่ข้าราชการในพระองค์ ก็ยังไม่กล้าแสดงความเห็นต่อสาธารณชน ให้กระทบกระเทือนไปถึงองค์เจ้าชีวิตเยี่ยงนี้ อยากให้ไปอ่านคำสอนของสมเด็จย่า ว่าพระองค์ท่านได้ถวายการอบรมพระบาทสมเด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ ในวัยเยาว์ ไว้อย่างไรบ้าง