เรียนทุกท่านครับ ผมคิดว่าเป็นเพียงข้ออ้างนะครับ เพราะในพื้นที่ที่ผมอยู่ไม่เคยมีการตรวจสอบในเรื่องนี้กันเลย ผู้ขอซื้ออาวุธปืนที่ทีพฤติการณ์ดังว่าเป็นผู้มีอันจะกิน มีเงิน รู้จักกับพวกที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาต เลยของ่ายกว่าผู้ที่ไม่มีใครรู้จักครับ ขอบคุณครับ
กลไกการปกครองในอดีต แต่งตั้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เป็นมือเท้าให้ฝ่ายปกครอง
ให้เป็นผู้คัดกรอง รับรอง ลูกบ้านที่จะขอฯอาวุธปืน
ข้อดีคือเป็นผู้ใกล้ชิดรู้เห็นประวัติและพฤติกรรม ข้อเสียคือเป็นรากฐานของระบบอุปถัมภ์ อิทธิพลท้องถิ่น
ข้าราชการนั้นผิดอาญาร้ายแรงก็ต้องออกจากราชการ จึงอนุมานเอาว่าข้าราชการมีประวัติสะอาดโปร่งใส
ประชาชนกลับต้องศิโรราบ ให้กับผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ซึ่งใช่ว่าจะดีมีคุณธรรมไปเสียทุกคน มาให้การรับรอง
โลกเปลี่ยนไป ก้าวไป ... คุณสมบัติและประวัติของบุคคลถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันบนฐานข้อมูลของรัฐ
เมื่อเวลา และความจริงใจมาถึง .. และการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆของหน่วยงานรัฐเข้าด้วยกัน..สำเร็จ
เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ก็จะเป็นดรรชนี เข้าถึงทุกข้อมูล รวมทั้งประวัติอาชญากรรม
แล้วการขออนุญาตอาวุธปืน อาจต้องการเพียงเดินเข้าไปยื่นบัตรประจำตัวประชาชน ... เหมือนการออกหนังสือเดินทาง
ข้อเท็จจริงที่เห็นผ่านสื่อ คือ ขบวนการค้ายาเสพติด มีอาวุธปืนชั้นดี ..... มีได้อย่างไร
แสดงว่าการคัดกรองอนุญาตบุคคลฯ ในสายงานของกรมการปกครอง ยังมีช่องโหว่ให้อาชญากรมีอาวุธ
จึงต้องเพิ่มเติมการตรวจสอบ ไปใช้ฐานข้อมูลของกองทะเบียนประวัติอาชญากร สตช. ร่วมด้วย
ถ้าฐานข้อมูลมีความโปร่งใส เที่ยงตรง เพียงพอ ต่อไปก็ควรยกเลิกระบบการต้องมีหนังสือรับรองเสีย
ไม่ว่าจะเป็นโดยผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ผู้ปกครองท้องถิ่น ในภูมิภาค หรือกระทั่งข้าราชการระดับ๖ขึ้นไปในส่วนกลาง
ถ้าเลข 13 หลัก เชื่อมโยงบอกได้ว่า เป็นคนดี ไม่มีประวัติคดีอาญา มีอาชีพ-เสียภาษี-มีรายได้ มีภูมิลำเนาแน่นอน
คุณสมบัติครบถ้วนตามบัญญัติของกฎหมาย ก็ควรได้รับสิทธิและโอกาสโดยเท่าเทียมกัน