เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 29, 2024, 12:54:49 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 16 17 18 [19] 20 21 22 ... 56
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หลักในการ..นำพาปืน ไปนอกบ้าน ที่ควรรู้ .และอาจจะไม่ถูกจับกุม หากปฏิบัติตาม.. ..  (อ่าน 508657 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 25 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
higrobiotech
Newbie
*

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 3


« ตอบ #270 เมื่อ: พฤษภาคม 09, 2008, 11:17:39 AM »

ยังงี้ก็แย่ถ้าผู้ร้ายเข้ามาจี้ก็อาจจะเสียเปรียบหรือไม่ก็อาจถึงกับชีวิตก็เป็นได้ ถึงเวลานั้นแล้วตำรวจช่วยอะไรเราได้ นอกจากจะช่วยเหลือตัวเอง แต่ตำรวจและกฎหมายมองพวกเราทำผิดทั้งไม่มีเจตนา คนดีก็ตกเป็นเหยื่อของโจรผู้ร้าย อ๋อย
บันทึกการเข้า
sakai_Club
Newbie
*

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 2



« ตอบ #271 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2008, 02:42:34 PM »

เป็นประโยนชน์ ดีครับ
บันทึกการเข้า
pui 26
Newbie
*

คะแนน 2
ออฟไลน์

กระทู้: 3


« ตอบ #272 เมื่อ: พฤษภาคม 12, 2008, 04:29:33 PM »

     จากหัวข้อนี้ก็ให้สงสารประชาชนตาดำๆที่เป็นสุจริตชนและมีจิตใจรักในอาวุธปืนครับ เมื่อมีอาวุธปืนไว้แล้วก็อยากจะใช้ในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินที่อุตสาห์หามาด้วยความยากลำบากแต่ก็ติดกับกฎหมายที่ห้ามไว้ว่าการพกพาอาวุธปืนต้องมีใบอนุญาตหรือไม่ก็ต้องมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนถึงจะสามารถพกพาไปได้ และในการขอใบอนุญาตพกพาอาวุธนั้นก็ยากเย็นเสียนี่กระไร
      ผมขอเรียนให้ทราบถึงวิธีการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบอย่างคร่าวๆก่อนนะครับ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่พวกเราพบอยู่บ่อยๆในการตั้งด่านแต่ละครั้งนั้นจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปรามเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะเป็นผู้ที่มีหน้าที่จับกุมผู้ที่กระทำความผิดทางอาญาและบบกฎหมายบ้านเราก็เป็นแบบระบบกล่าวหา ( ถ้าพบว่ามีการกระทำความผิดก็จะต้องถูกจับกุมไว้ก่อนแล้วค่อยไปสอบสวนทีหลังทั้งในชั้นสอบสวน อัยการ ศาล ) ดังนั้นเมื่อตรวจพบว่าผู้ที่พกพาอาวุธปืนมาในรถนั้นไม่มีใบอนุญาตพกพาก็ถือว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า เจ้าหน้าทีตำรวจจึงจับกุมและจะต้องนำตัวผู้ถูกจับดังกล่าวมาส่งพนักงานสอบสวนซึ่งก็คือตำรวจนั่นแหละแต่มาทำหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวน( ร้อยเวรหรือพันเวรก็แล้วแต่ )ดำเนินการสอบสวนและเห็นควรสั่งฟ้องหรือเห็นควรสั่งไม่ฟ้องต่อพนักงานอัยการต่อไป ซึ่งระยะเวลาในการดำเนินการดังกล่าวกินเวลาเป็นเดือนและถึงแม้ว่าท้ายที่สุดอัยการจะสั่งไม่ฟ้องหรือศาลพิพากษายกฟ้องก็แล้วแต่ ก็จะทำให้สุจริตชนที่พกพาอาวุธปืนไปเพื่อป้องกันตนเองไม่ได้เอาไปเพื่อกระทำการอันมิดีมิร้ายแต่อย่างไรเสียเวลา เสียเงิน เสียความรู้สึกไปตามๆกัน
          ผมเป็นคนหนึ่งครับที่รับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม ในแต่ละครั้งที่ผมตั้งด่านตรวจผมก็พบบ่อยครับที่ประชาชนพกพา
อาวุธปืนมาในรถยนต์ และในมุมมองของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เรียนให้ทราบว่าเราไม่สามารถรู้ได้หรอกครับว่าคนที่พกพาอาวุธปืนมานั้นเป็นสุจริตชนหรือทรชน แต่ในวิธีการส่วนตัวของผมนั้น ( ขอเรียนก่อนนะครับว่าเป็นดุลยพินิจส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ) ผมจะสอบถามเจ้าของอาวุธปืนในเรื่องที่พักอาศัยว่ามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งหรือไม่ ประกอบอาชีพการงานใด และพกพาอาวุธปืนไปเพื่ออะไร ( บางทีคุยถูกคอเพราะผมเป็นคนชอบอาวุธปืนอยู่แล้วคุยกันยาวแลย)ถ้าผมเห็นว่าคนดังกล่าวมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีอาชีพการงานที่มั่นคงสามารถตรวจสอบได้ผมก็จะไม่ดำเนินการใดๆ แต่ถ้าพบว่ามีพิรุธน่าสงสัยก็จะยึดอาวุธปืนไว้ตรวจสอบหรือจับกุมไว้ก่อนแล้วแต่กรณี
       ดังนั้นจึงขอแนะนำผู้ที่พกพาอาวุธปืนไปกับรถยนต์ไว้ด้วยว่า กรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นและพบอาวุธปืนดังกล่าวนั้น ก็ขอให้แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยว่าตนเองเป็นสุจริตชน เช่นอาจจะแสดงบัตรประจำตัวพนักงานของบริษัทควบคู่ไปกับบัตรประจำตัวประชาชนหรือใบอนุญาตขับขี่รถยนต์และสิ่งสำคัญก็คือสำเนาใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธ ( ป.4)ไว้ด้วย  เพื่อแสดงให้เจ้าหน้าทีตำรวจเห็นว่าเรามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและมีอาชีพการงานนะที่พกหาอาวุธปืนก็เพราะมีไว้เพื่อป้องกันตัวเอง ไม่ได้พกพาปืนไปเพื่อกระทำผิดสิ่งใด อาจทำให้เรื่องต่างๆดีขึ้นครับ



บันทึกการเข้า
MP 436
Hero Member
*****

คะแนน 186
ออฟไลน์

กระทู้: 1766



« ตอบ #273 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2008, 02:55:19 PM »

     จากหัวข้อนี้ก็ให้สงสารประชาชนตาดำๆที่เป็นสุจริตชนและมีจิตใจรักในอาวุธปืนครับ เมื่อมีอาวุธปืนไว้แล้วก็อยากจะใช้ในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินที่อุตสาห์หามาด้วยความยากลำบากแต่ก็ติดกับกฎหมายที่ห้ามไว้ว่าการพกพาอาวุธปืนต้องมีใบอนุญาตหรือไม่ก็ต้องมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนถึงจะสามารถพกพาไปได้ และในการขอใบอนุญาตพกพาอาวุธนั้นก็ยากเย็นเสียนี่กระไร
      ผมขอเรียนให้ทราบถึงวิธีการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบอย่างคร่าวๆก่อนนะครับ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่พวกเราพบอยู่บ่อยๆในการตั้งด่านแต่ละครั้งนั้นจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปรามเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะเป็นผู้ที่มีหน้าที่จับกุมผู้ที่กระทำความผิดทางอาญาและบบกฎหมายบ้านเราก็เป็นแบบระบบกล่าวหา ( ถ้าพบว่ามีการกระทำความผิดก็จะต้องถูกจับกุมไว้ก่อนแล้วค่อยไปสอบสวนทีหลังทั้งในชั้นสอบสวน อัยการ ศาล ) ดังนั้นเมื่อตรวจพบว่าผู้ที่พกพาอาวุธปืนมาในรถนั้นไม่มีใบอนุญาตพกพาก็ถือว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า เจ้าหน้าทีตำรวจจึงจับกุมและจะต้องนำตัวผู้ถูกจับดังกล่าวมาส่งพนักงานสอบสวนซึ่งก็คือตำรวจนั่นแหละแต่มาทำหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวน( ร้อยเวรหรือพันเวรก็แล้วแต่ )ดำเนินการสอบสวนและเห็นควรสั่งฟ้องหรือเห็นควรสั่งไม่ฟ้องต่อพนักงานอัยการต่อไป ซึ่งระยะเวลาในการดำเนินการดังกล่าวกินเวลาเป็นเดือนและถึงแม้ว่าท้ายที่สุดอัยการจะสั่งไม่ฟ้องหรือศาลพิพากษายกฟ้องก็แล้วแต่ ก็จะทำให้สุจริตชนที่พกพาอาวุธปืนไปเพื่อป้องกันตนเองไม่ได้เอาไปเพื่อกระทำการอันมิดีมิร้ายแต่อย่างไรเสียเวลา เสียเงิน เสียความรู้สึกไปตามๆกัน
          ผมเป็นคนหนึ่งครับที่รับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม ในแต่ละครั้งที่ผมตั้งด่านตรวจผมก็พบบ่อยครับที่ประชาชนพกพา
อาวุธปืนมาในรถยนต์ และในมุมมองของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เรียนให้ทราบว่าเราไม่สามารถรู้ได้หรอกครับว่าคนที่พกพาอาวุธปืนมานั้นเป็นสุจริตชนหรือทรชน แต่ในวิธีการส่วนตัวของผมนั้น ( ขอเรียนก่อนนะครับว่าเป็นดุลยพินิจส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ) ผมจะสอบถามเจ้าของอาวุธปืนในเรื่องที่พักอาศัยว่ามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งหรือไม่ ประกอบอาชีพการงานใด และพกพาอาวุธปืนไปเพื่ออะไร ( บางทีคุยถูกคอเพราะผมเป็นคนชอบอาวุธปืนอยู่แล้วคุยกันยาวแลย)ถ้าผมเห็นว่าคนดังกล่าวมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีอาชีพการงานที่มั่นคงสามารถตรวจสอบได้ผมก็จะไม่ดำเนินการใดๆ แต่ถ้าพบว่ามีพิรุธน่าสงสัยก็จะยึดอาวุธปืนไว้ตรวจสอบหรือจับกุมไว้ก่อนแล้วแต่กรณี
       ดังนั้นจึงขอแนะนำผู้ที่พกพาอาวุธปืนไปกับรถยนต์ไว้ด้วยว่า กรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นและพบอาวุธปืนดังกล่าวนั้น ก็ขอให้แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยว่าตนเองเป็นสุจริตชน เช่นอาจจะแสดงบัตรประจำตัวพนักงานของบริษัทควบคู่ไปกับบัตรประจำตัวประชาชนหรือใบอนุญาตขับขี่รถยนต์และสิ่งสำคัญก็คือสำเนาใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธ ( ป.4)ไว้ด้วย  เพื่อแสดงให้เจ้าหน้าทีตำรวจเห็นว่าเรามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและมีอาชีพการงานนะที่พกหาอาวุธปืนก็เพราะมีไว้เพื่อป้องกันตัวเอง ไม่ได้พกพาปืนไปเพื่อกระทำผิดสิ่งใด อาจทำให้เรื่องต่างๆดีขึ้นครับ





-ขอบพระคุณมากๆครับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฎิบัติหน้าที่มาตอบเองเลย... หลงรัก หลงรัก
ตำรวจที่ดี..ที่เข้าใจประชาชนยังมีอยู่แน่นอนครับ  อย่างท่านนี้แหละเป็นต้น... หลงรัก หลงรัก เยี่ยม
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #274 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2008, 03:20:36 PM »

     จากหัวข้อนี้ก็ให้สงสารประชาชนตาดำๆที่เป็นสุจริตชนและมีจิตใจรักในอาวุธปืนครับ เมื่อมีอาวุธปืนไว้แล้วก็อยากจะใช้ในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินที่อุตสาห์หามาด้วยความยากลำบาก
แต่ก็ติดกับกฎหมายที่ห้ามไว้ว่าการพกพาอาวุธปืนต้องมีใบอนุญาตหรือไม่ก็ต้องมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน
ถึงจะสามารถพกพาไปได้ และในการขอใบอนุญาตพกพาอาวุธนั้นก็ยากเย็นเสียนี่กระไร
      ผมขอเรียนให้ทราบถึงวิธีการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบอย่างคร่าวๆก่อนนะครับ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่พวกเราพบอยู่บ่อยๆในการตั้งด่านแต่ละครั้งนั้นจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกัน
ปราบปรามเสียเป็นส่วนใหญ่ซึ่งจะเป็นผู้ที่มีหน้าที่จับกุมผู้ที่กระทำความผิดทางอาญาและบบกฎหมาย
บ้านเราก็เป็นแบบระบบกล่าวหา(ถ้าพบว่ามีการกระทำความผิดก็จะต้องถูกจับกุมไว้ก่อนแล้วค่อยไป
สอบสวนทีหลังทั้งในชั้นสอบสวน อัยการ ศาล )
ดังนั้นเมื่อตรวจพบว่าผู้ที่พกพาอาวุธปืนมาในรถนั้นไม่มีใบอนุญาตพกพาก็ถือว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า เจ้าหน้าทีตำรวจจึงจับกุมและจะต้องนำตัวผู้ถูกจับดังกล่าวมาส่งพนักงานสอบสวนซึ่งก็คือตำรวจ
นั่นแหละแต่มาทำหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวน( ร้อยเวรหรือพันเวรก็แล้วแต่ )ดำเนินการสอบสวนและเห็นควรสั่งฟ้องหรือเห็นควรสั่งไม่ฟ้องต่อพนักงานอัยการต่อไป ซึ่งระยะเวลาในการดำเนินการดังกล่าวกินเวลาเป็นเดือนและถึงแม้ว่าท้ายที่สุดอัยการจะ
สั่งไม่ฟ้องหรือศาลพิพากษายกฟ้องก็แล้วแต่ ก็จะทำให้สุจริตชนที่พกพาอาวุธปืนไปเพื่อป้องกันตนเองไม่ได้เอาไปเพื่อกระทำการอัน
มิดีมิร้ายแต่อย่างไรเสียเวลา เสียเงิน เสียความรู้สึกไปตามๆกัน
          ผมเป็นคนหนึ่งครับที่รับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม ในแต่ละครั้งที่ผมตั้งด่านตรวจผมก็พบบ่อยครับที่ประชาชนพกพา
อาวุธปืนมาในรถยนต์ และในมุมมองของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เรียนให้ทราบว่าเราไม่สามารถรู้ได้หรอกครับ
ว่าคนที่พกพาอาวุธปืนมานั้นเป็นสุจริตชนหรือทรชน แต่ในวิธีการส่วนตัวของผมนั้น
( ขอเรียนก่อนนะครับว่าเป็นดุลยพินิจส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ) ผมจะสอบถามเจ้าของอาวุธปืนในเรื่องที่พักอาศัยว่ามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งหรือไม่ ประกอบอาชีพการงานใด และพกพาอาวุธปืนไปเพื่ออะไร ( บางทีคุยถูกคอเพราะผมเป็นคนชอบอาวุธปืนอยู่แล้วคุยกันยาวแลย)ถ้าผมเห็นว่า
คนดังกล่าวมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีอาชีพการงานที่มั่นคงสามารถตรวจสอบได้ผมก็จะไม่ดำเนินการใดๆ แต่ถ้าพบว่ามีพิรุธน่าสงสัยก็จะยึดอาวุธปืนไว้ตรวจสอบหรือจับกุมไว้ก่อนแล้วแต่กรณี
       ดังนั้นจึงขอแนะนำผู้ที่พกพาอาวุธปืนไปกับรถยนต์ไว้ด้วยว่า กรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นและพบอาวุธปืนดังกล่าวนั้นก็ขอให้แสดงความบริสุทธิ์ใจ
ด้วยว่าตนเองเป็นสุจริตชนเช่นอาจจะแสดงบัตรประจำตัวพนักงานของบริษัทควบคู่ไปกับ
บัตรประจำตัวประชาชน หรือใบอนุญาตขับขี่รถยนต์และสิ่งสำคัญก็คือสำเนา
ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธ (ป.4)ไว้ด้วย เพื่อแสดงให้เจ้าหน้าทีตำรวจเห็นว่าเรามีที่อยู
่เป็นหลักแหล่ง และมีอาชีพการงานนะที่พกพา อาวุธปืนก็เพราะมีไว้เพื่อป้องกันตัวเอง
ไม่ได้พกพาปืนไปเพื่อกระทำผิดสิ่งใด อาจทำให้เรื่องต่างๆดีขึ้นครับ



ขอบคุณมากครับ คุณ pui 26 .. สังคมจะน่าอยู่มากขึ้น.. ก็ด้วยความเข้าใจ
ปฎิบัติดีต่อกัน.. และได้ให้โอกาส เช่นท่าน . นับถือครับ. คุณ pui 26   เยี่ยม   
บันทึกการเข้า

mooyai13
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 8
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 103


« ตอบ #275 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2008, 04:47:48 PM »

ขอบคุณครับสำหรับสิ่งดีๆ ขออนุญาตปริ้นเก็บไว้นะครับ ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
p@rinya
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 26
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1225



« ตอบ #276 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2008, 05:47:44 PM »

เห็นด้วยอย่างยิ่งสำหรับหลักปฏิบัติของคุณ pui26 ที่ไม่ทำให้สุจริตชนจริงๆไม่เดือดร้อน หลักการนี้น่านับถือมากครับ Grin
บันทึกการเข้า
w_tharveechaikan
Newbie
*

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 2


« ตอบ #277 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2008, 05:24:40 PM »

ขอบคุณคราบมากๆๆคราบ   เวรกรรมกว่าจะขอ ป 4 มาได้เลือดตาแทบกระเด็น ราคาปืนก็เกือบแสน พกก็ไม่ได้เก็บไว้แต่ที่บ้าน  โจรมันซื้อกระบอกไม่ถึงหมื่นพกได้ทั่วประเทศเห็นด่านมันก็โยนทิ้ง   พระเจ้าจอซจะทำไงดีเนื่ย 
บันทึกการเข้า
shongsiri
Full Member
***

คะแนน 5
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 116


« ตอบ #278 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2008, 07:52:12 PM »

ขออนุญาตนำท่าน pui 26 ไปทำโคลนนิ่ง  แล้วบรรจุแต่งตั้งไว้ทุกโรงพัก  ครับผมมมมมม
บันทึกการเข้า

ผู้ใดทำใจให้ถึงความเป็นกลางได้  ผู้นั้นจะพ้นจากทุกข์ท้งปวง  (พระราชนิโรธรังสี)
Prinya T
Sr. Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

กระทู้: 918


« ตอบ #279 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2008, 09:38:33 AM »

ถ้าตำรวจทุกท่านมีหลักในการจับกุมเรื่องพกพาแบบคุณpui 26 คนสุจริตจะได้สบายใจขึ้น ทั้งนี้ก็เป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติละครับ
บันทึกการเข้า
kreingkrai
Newbie
*

คะแนน 1
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10


คิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี ไปสถานที่ๆดี


« ตอบ #280 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2008, 11:53:02 AM »

ได้ความรู้จริงๆครับ ขอบคุณครับ มีอะไรนำมาฝากอีกนะครับ
บันทึกการเข้า
big__jod - รักในหลวง
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 43
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 266



« ตอบ #281 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2008, 02:54:39 PM »

คุณ pui 26

 หลงรัก หลงรัก เยี่ยม เยี่ยม ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า
ovn
Jr. Member
**

คะแนน 2
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 58



« ตอบ #282 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2008, 05:49:43 PM »

ถ้าเราขับรถยนต์ไปส่งพี่ชายในตัวเมือง..ซึ่งรถเป็นของพี่ชายเรา...และขากลับได้เจอด่านตรวจค้นพบอาวุธปืนพร้อมใบป4ฉบับจริงซึ่งเก็บอยู่ในเก๊ะเก็บของหน้ารถ...แต่เราไม่ทราบว่าพี่ชายลืมปืนทิ้งไว้ในรถ...กรณีนี้เราจะถูกดำเนินคดีอย่างไรครับ...และจะเสียค่าปรับเท่าไร....ขอเรียนถามผู้รู้ครับ....
บันทึกการเข้า

helicopter 5
boon8868
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #283 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2008, 02:50:58 PM »

พกพาปืนไปไร่ นา ไป(ขออภัยพี่น้องกรุงเทพฯอาจนึกภาพไร่นาในชนบทไม่ออก) แต่ผมทราบว่าพกพาไปป่าไม่ผิด นี่จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ขอความกระจ่างด้วย
บันทึกการเข้า
vvv_v
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #284 เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2008, 05:30:46 PM »

thank you verymuch   หลงรัก
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 16 17 18 [19] 20 21 22 ... 56
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.369 วินาที กับ 20 คำสั่ง