ขอถามครับ อย่างที่ผมเข้าใจนะครับคือการพกพาอาวุธปืนติดตัวที่ต้องรับโทษนั้น หมายถึงการพกหรือพาในสภาพที่เราสามารถหยิบมาใช้ได้ภายในทันที แต่ถ้าเราไม่สามารภหยิบมาใช้ได้ในทันทีเช่นต้องจอดรถก่อนเป็นต้น จะมีความผิดตามพรบอาวุธปืนหรือไม่ ตัวอย่างเช่นมีปืนลูกโม่พร้อมลูกในโม่เก็บไว้ในที่ท้าวแขนเบาะหลังหรือในเสื้อแจ็คเก็ตที่แขวนไว้ด้านหลังคนขับดดยไม่มีกระเป๋าหรือระหัสอะไรเลยเป็นต้น ขอบคุณครับ
ผมไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ครับ ต้องขอโทษด้วย เพราะไม่ใช่ผู้จับกุมจริงๆ
เพียงแต่บอกได้ว่า แนวทางตามเอกสารของตำรวจ + แนวคำวินิจฉัย
ของอัยการสูงสุดที่สั่งไม่ฟ้อง + แนวคำพิพากษาฎีกาดังกล่าวที่ลงให้ดู
เขาดูเจตนาของคนพาปืนมาเป็นหลักว่า จะเอาปืนไปทำอะไรที่ไม่ดีหรือเปล่า
ซึงหากใครนำพาอย่างแนวทางที่ว่ามา ตำรวจเขาก็อาจดูเป็นว่าไม่ได้มีเจตนาจะเอาไปก่อเหตุใดๆ
จึงพอจะอนุโลมให้ได้ ว่าไม่ผิด
แต่ถ้าใครนำพาไปในลักษณะอื่นๆ ที่แตกต่างจากแนวทางที่ว่ามานี้
ก็ต้องอยู่ที่ว่าตำรวจผู้จับเขาจะมองเจตนา และเชื่อในเจตนาของเรา
ว่าเป็นอย่างไรละครับ ผมจึงตอบไม่ได้ อาจจะรอด/หรือไม่รอด
ก็ต้องฝากไว้กับดุลพินิจเขาละครับ ..
ทั้งนี้ นอกจากจะขึ้นอยู่กับรูปแบบการนำพาของเราดังกล่าวแล้ว
ก็ยังขึ้นอยู่กับปิยวาจาด้วยครับ พกพาอย่างไร ถ้าคุยกับตำรวจให้เขาเข้าใจเสียแล้ว
ก็จบลงด้วยดีครับ .
ปล. ตามความเห็นส่วนตัวนะครับ คำว่าหยิบฉวยมาใช้ในทันทีทันใดไม่ได้
หากต้องการจะใช้ น่าจะมีความหมายว่า ไม่ว่าจะขับรถอยู่ / หรือจอดรถแล้วก็ตาม
เมื่อต้องการจะใช้ปืน ๑ . ไม่สามารถหยิบฉวยมาใช้ได้ในทันทีทันใดนั้น เพราะอยู่ไกลมือเอื้อม ประการหนึ่ง
๒. แม้จะหยิบฉวยมาได้ ก็เพียงกระเป๋า ต้องมาเปิดกระเป๋าที่ซ่อนปืนอยู่ก่อน
ประการหนึ่ง
๓. หรือแม้จะหยิบฉวยตัวปืนมาได้แล้วก็ตาม ก็ยังไม่สามารถ
ยกปืนขึ้นลำแล้วยิงได้ทันที ยังจะต้องเอาแมกกาซีนมาบรรจุใส่กระสุนก่อน
แล้วเสียบแมกฯ ขึ้นลำแล้วจึงยิง อีกประการหนึ่ง
๔. หรือได้ตัวปืนมาแล้วก็ยังจะต้องเอาแมกกาซีนซึ่งบรรจุกระสุนอยู่
มาเสียบใส่เข้าไปก่อน จึงจะยิงได้ อีกประการหนึ่ง
เหตุอุปสรรค ยากลำบากทุกอย่างเหล่านี้ประกอบๆกันครับ
เป็นเหตุให้ไม่อาจหยิบฉวยมาใช้ยิงได้ทันทีเมื่อต้องการจะยิง เรียกว่านำพาชนิดที่ให้อาวุธปืน
สิ้นสภาพที่จะใช้ได้อย่างอาวุธในขณะนั้นครับ ตำรวจเขาถึงจะเห็นใจเรา ว่าเรามีปืนมาก็จริง
แต่คงทำอะไรใครไม่ได้ในทันทีทันใดขณะนั้นแน่ๆ ตำรวจเขาเห็นก็คลายความระแวงสงสัยลงไปครับ
จึงได้ออกเป็นแนวทางดังกล่าวมาให้ไงครับ
นี่แหละครับเมืองไทย ...
อนิจจา ..