ผมไม่ได้อ่านข้อความแรกของเจ้าของกระทู้ครับ มาถึงท่านก็ลบไปแล้ว แต่เดา ๆ เอาจากข้อความของท่านอื่น
เรื่องปืนสวัสดิการ ผมว่าเป็นสิ่งประจานความผิดพลาดในการบริหารครับ .... ไม่ได้ว่าใครเป็นพิเศษนะครับ ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ และปัจจัย ปะเหมาะเคราะห์ดี ขรก. เลยมีปืนสวัสดิการ ....
คือผมว่ามันเริ่มจากการพยายามควบคุมปืนของฝ่ายการเมืองครับ ปกครองคนย่อมยากกว่าเลี้ยงกระบือฉันใด
ฉันนั้น
เริ่มจากการกำหนดโควต้าการนำเข้า แรก ๆ ก็ดูดี เพราะเป็นการรับประกันจำนวนปืนที่เข้าประเทศ และบ้านเราก็ยังไม่มีโรงงานผลิตเองเป็นตัวเป็นตน ทำให้มองได้ว่าถ้าปล่อยอิสระ จะเสียดุลการค้ามากก็ได้
พอมีโควต้า แต่ขายหมด ขอใหม่ได้ ... มันยังไม่หนำใจร้านใหญ่สิครับ เพราะร้านเล็ก ขายถูก ขายหมดเร็ว ขายหมดก็สั่งใหม่ได้เลย ทำธุรกิจต่อไปได้ บางทีลูกค้าให้สั่งปืนให้ ก็ดำเนินการให้อย่างรวดเร็ว จนลูกค้าติดตรึม ... จำได้ว่ายุคหลังปฏิวัติยุคหนึ่ง จึงกำหนดให้ขอโควต้าซื้อปืนได้ปีละครั้ง ใครขายหมดก่อน ก็นอนกินแกลบไปจนครบปี ค่อยทำการค้ากันใหม่่ .... แบบนี้ร้านใหญ่ได้เปรียบ เพราะจำนวนโควต้ามาก มีปืนขายได้ทั้งปี
ยัง ... ยังไม่พอ ... (จำไม่ได้ยุคไหน) ยังมีการห้ามบุคคลสั่งปืนเข้าเองอีก ... .... เรียกว่าปิดทางกันทุกช่องทาง ....
ผลกรรมจึงมาตกแก่สุจริตชนทั้งหาย ที่ต้องซื้อปืนแพงกว่าราคาตลาด ๓-๔ เท่า (ภาษีร้อยละ ๖๐ ยังไม่ถึงเท่าตัวเลย) ... อีกทั้งนโยบายไม่อยากให้สุจริตชนมีอาวุธไว้ป้องกันตัวเอง ประมาณว่าราชการดูแลได้ พวกโจรกระจอกจัดการได้สบาย ....
(เล่าอดีตจบแล้ว) ...
ผมกรรมยังไม่หมดแค่นั้น .... ประเทศเรายังด้อยพัฒนา ขรก. เช่น ตำรวจ ได้รับการบรรจุแล้ว ปืนหลวง วิทยุสื่อสารหลวง มีไม่พอแจกจ่าย ต้องไปซื้อหามาเอง ... ไม่ซื้อก็ไม่ได้ เดี๋ยวนายเรียกไม่ได้ยิน เดี๋ยวไปล้อมจับยาบ้า จะโดนโจรมันยิงข้างเดียว ... จะ ขรก. ฝ่ายไหน เมื่อจำเป็นต้องใช้ปืน ก็ต้องกัดฟันจ่ายค่าปืน ๓ - ๔ เท่าเหมือนประชาชนทั่วไป ...... แล้วคนบรรจุใหม่ ๆ จะมีเงินเก็บพอหรือ .... (ขนาดผู้การมะขิ่นยังเคยเล่าว่า จบใหม่ ๆ ประจำชายแดนหลายเดือน ไม่ได้ใช้เงินเลย เก็บมาจะซื้อบราวนิ่ง Mk III พอเจอราคาร้านแขก ... รีบกลับบ้านแทบไม่ทัน
- ขออภัยที่อ้างอิง)
จะทำอย่างไรดี ....
ก็ต้องหาปืนในราคาสวัสดิการสิครับ .... คนที่มีสิทธิ์ บางโครงการก็ดูเหมาะสมดี บางโครงการก็ไม่น่าเหมาะสม (แต่ผมว่าก็หยวน ๆ ได้น่า...) .... แต่ก็อย่างว่า ประชาชนเต็มขั้น เขาก็ได้แต่อิจฉาคนที่มีสิทธิ์ครับ แม้แต่พนักงานราชการระดับล่าง ๆ ที่ไม่มีสิทธิ์ เข้าก็อิจฉาคนมีสิทธิ์เหมือนกันครับ
เล่ามานาน ใครรู้สึกเหมือนผมครับ .... ว่ามันเป็นวงจรอุบาทว์ ....
ก็แค่ยอมรับความจริง และควบคุมให้พอสมเหตุผลก็พอ .... บัญหาคือไม่เห็นมีใครเริ่ม (การเมือง , ขรก ฝ่ายทะเบียน , ขรก อื่น ๆ , ปชช) ....
ปล. อ่าน อวป. เล่มใหม่ เรื่องการเข้าพบ ผอ. ศูนย์บริการประชาชน แล้วเห็นว่าเป็นแนวทางที่ดี ขอให้ฝ่ายกรมการปกครองตั้งใจจริงในการตีวงจรอุบาทว์นี้ ค่อย ๆ แก้เงื่อนไปทีละเปราะ ปกครองให้ประชาชนมีความสุขเท่าเทียมกัน ครับ