รายงานบรรยากาศการไปขออนุญาตครับ
ไปมาเมื่อต้นเดือนพค.
การดำเนินเอกสารและการสอบปากคำพร้อมพิมพ์มือค่อนข้างรวดเร็วครับ
ผมไปได้คิวแรกของวัน
ไปตั้งแต่ยังไม่แปดโมงครึ่ง
เจ้าหน้าที่เขาก็รับทำเรื่องนะครับ ไม่ต้องรอแปดโมงครึ่งเป๋ง
ให้สำเนาบัตรประชาชน/ ทะเบียนบ้าน/ บัญชีเงินฝาก/ โฉนดที่ดิน/ ทะเบียนรถ (เจ้าหน้าที่เขาบอกของเมียไม่ต้อง ของผมคนเดียวก็พอ)
แล้วก็ให้ฟอร์มใบรับรองความประพฤติที่เซ็นโดยข้าราชการซี 6 ขึ้นไป
เผอิญผมได้เพื่อนเป็นหมอที่โรงพยาบาลตำรวจเซ็นให้
ฟอร์มรับรองความประพฤตินี่ที่ศูนย์บริการประชาชน (ชั่วคราว) ตรงนางเลิ้งมีไว้ให้ครับ
วันก่อนหน้านั้นผมไปเอาแบบฟอร์มแล้วก็เลยแวะไปให้เพื่อนกรอกข้อมูลส่วนตัวและลงลายมือชื่อ
แนบสำเนาบัตรข้าราชการ และทะเบียนบ้านของเพื่อนที่เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องไปด้วย
อีกอันคือหนังสือรับรองตำแหน่ง หน้าที่ และเงินเดือนเซ็นโดยกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทที่ทำงานด้วย (ชื่อคนเซ็นต้องเป็นไปตามที่ระบุในหนังสือรับรองบริษัท)
ผมแนบสำเนาหนังสือรับรองบริษัท และสำเนาบัตรประชาชนของกรรมการคนที่เซ็นไปด้วย
สลิบเงินเดือนตัวจริงไม่ได้แนบไปเพราะอยู่ในหนังสือรับรองตำแหน่งหน้าที่และเงินเดือนอยู่แล้ว
เอกสารชิ้นสุดท้ายคือหลักฐานผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน
ผมแนบสำเนาสด. 8 ที่ได้จากการเรียนรด.ไป และเขียนกำกับว่า "ให้เป็นหลักฐานว่าได้ผ่านหลักสูตรการยิงปืนสมัยเป็นนักศึกษาวิชาทหาร ของกรมการรักษาดินแดน"
เจ้าหน้าที่ก็มิได้ทักท้วงอย่างใดครับ
เรื่องหลักฐานการผ่านการฝึกอบรมอาวุธปืนนี่เจ้าหน้าที่บางคนบอกว่า ขอจุดสามแปดกระบอกแรกในชีวิตไม่ต้องใช้ก็ได้ ไม่ซีเรียส
แต่ผมก็แนบไปก่อนล่ะครับ กันช้วน
เรื่องรูปถ่ายหนึ่งนิ้วสองใบนี่เจ้าหน้าที่เขาไม่ขอนะครับ
บรรยากาศค่อนข้างสบายๆ คนน้อย
เจ้าหน้าที่ดูเป็นมิตรยิ้มแย้มแจ่มใสดีครับ
ผมยื่นเรื่อง 4 พค. ในใบนัดให้ไปฟังผลวันที่ 8 กค. ก็ประมาณสองเดือนเศษ
ตอนนี้ได้แต่สวดภาวนาว่าขอให้ผ่านเถิดจะได้ไปเอาเจ้าฟูลลัก M60 สามนิ้วมาเป็นสมบัติเสียที