ขออภัยที่เห็นกระทูนี้ช้า เลยต้องขุดโดยไม่ได้ตั้งใจ ...
ความเห็นส่วนตัวของผม แต่ละระบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
๑. ระบบที่ผมสอบ - ไปสมัครที่ศาลาพระเกี้ยว เลือกคณะ ๕ หรือ ๖ อันดับ แล้วไปสอบตามวิชาที่คณะนั้น ๆ ใช้คิดคะแนน (๕-๖ วิชา) เสร็จแล้วรอประกาศผล .... ไม่มีการประกาศคะแนน (ยกเว้นตอนสัมภาษณ์แล้วกรรมการบอก หรือแอบเหล่ตาดูเอง) ไม่มีการเก็บคะแนนไว้ใช้ใหม่ ... ใครจะซิ่วก็ต้องสอบใหม่หมด
๒. ระบบที่ใช้ช่วง ๒๕๔๒ - ๒๕๔๘ - ในชีวิตเด็ก ม.๖ รุ่น ๆ หนึ่ง สอบได้สองครั้ง คือมีตอนเดือนตุลาคม และเดือนเมษายน ... เด็กต้องเลือกวิชาที่จะสอบเอง เพราะจะมีการสมัครเลือกคณะแยกต่างหาก ... ถ้าสอบไม่ตรงกับคณะที่เลือกต้องการ ก็จะตกเกณฑ์ ไม่มีการคิดคะแนนให้ ... คะแนนประกาศก่อนการเลือกคณะ และเก็บไว้ใช้ได้ ๓ ปี ภายหลังลดเหลือ ๒ ปี
๓. ระบบ Admissions - ชื่อระบบมาจากท่านผู้นำยุคหนึ่ง (ยุคที่เริ่มใช้) เพราะท่านฝันว่า เด็กไทยไม่ต้องสอบแล้ว ให้ยื่นสมัครที่คณะ แล้วคณะเลือกได้เลย ... ซึ่งก็เกือบ ๆ เข้าทางแบบที่ผู้เกี่ยวข้องที่กำลังหาผลสรุปในการปรับเปลี่ยนอยู่ (เนื่องจากหลักสูตร ม.ปลายจะเปลี่ยน จึงมีความคิดที่ต้องเปลี่ยนวิธีการคัดเลือก) .... ที่ว่าเกือบเข้าทาง เพราะไม่ได้ทำตามที่ท่านผู้นำพูดไว้ครับ
ระบบ Admissions ใช้คะแนนจากการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) และผลการเรียนเฉลี่ยในระดับ ม.ปลาย (GPAX/GPA กล่มสาระ) เป็นหลักในการคัดเลือกครับ แต่มีบางคณะที่เห็นว่าการทดสอบระดับชาตินี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการจำแนกคน จึงขอเพิ่มเติมการทดสอบระดับสูง (A-NET) เข้าไปอีก ... การสอบเหล่านี้สอบได้ปีละครั้ง .. เดิม ๆ แล้วจะไม่มีการเก็บคะแนนไว้ใช้ครับ O-NET สอบครั้งเดียว วิชาอื่น ๆ สอบแล้วทิ้ง ไม่เก็บไว้ใช้ .... แต่เพราะอะไรผมไม่บอก ทำให้ต้องมีการเก็บคะแนน A-NET ไว้ใช้ได้ ๓ ปีครับ แต่คนที่สอบปีนี้จะแค่ ๒ ปีครับ ... ระบบนี้จะประกาศคะแนนก่อนการสมัครเลือกคณะครับ ถ้าใครสอบไม่ครบตามที่คณะกำหนด ก็จะไม่คิดคะแนนให้เช่นกัน
ความเห็นส่วนตัวของผมเห็นว่าระบบ Admissions คิดคะแนนง่ายครับ เพราะเป็นการ "คูณขึ้น" อย่างเดียว ไม่ต้องไปเทียบบรรยัติไตรยางค์เหมือนระบบเก่า ..... ระบบเก่าเด็กคิดคะแนนไม่ตรงเยอะกว่าครับ จนได้โปรแกรมของ สกอ. ช่วยคิดคะแนนให้ ซึ่งก็ไม่ใช่คะแนนที่ตรงเป๊ะครับ .... ระบบใหม่คิดเองได้ง่าย ๆ ครับ แถมก็มีโปรแกรมช่วยคิดให้อีกเช่นกัน
เรื่องช่วงคะแนนที่ทำให้สอบติด โดยหลักไม่ต่างกัน เพราะไม่ว่าระบบไหน ก็ไม่ได้นำคะแนนต่ำสุดของครั้งเก่ามาใช้ครับ แต่จะดูจากคนที่เลือกคณะนั้นเท่านั้น การที่มีคนเก่ง ๆ คะแนนสูง เลือกคณะที่เดิมมีคะแนนช่วงปานกลาง ก็จะทำให้คณะนั้นมีคะแนนสูงได้ ... ทำให้เด็กที่มีคะแนนปานกลางผิดหวังกันเป็นแถว ... ในขณะที่คณะที่มีช่วงคะแนนเก่าสูง คนที่คะแนนไม่พอก็จะไม่เลือกครับ ทำให้ช่วงคะแนนไม่เปลี่ยนมากครับ
สองระบบนี้ต่างกันที่ "องค์ประกอบของการคัดเลือก" ครับ พูดง่าย ๆ คือคะแนนที่ใช้นั่นเอง ....
นี่ผมยังไม่มีรายละเอียดของการประชุมของ ทปอ. ที่ออกข่าวว่า ปี ๒๕๕๓ จะใช้การสอบความถนัดแทน A-NET ครับ .... ใครมีลูกหลานที่ต้องสอบรุ่นนั้น ต้องดูแลลูกหลานหน่อยครับ ....