ประชาธิปัตย์รอดตาย เฮกันลั่น มติศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องทุกข้อกล่าวหา ขณะที่ประชาธิปไตยก้าวหน้าชะตาขาดศาลสั่งยุบ พร้อมเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งกก.บริหาร 9 คนเป็นเวลา 5 ปี ส่วนทรท.ลุ้นระทึกรอขึ้นเขียงคิวต่อไป
วันนี้(30 พ.ค.) ที่ศาลรัฐธรรมนูญ เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้เริ่มอ่านคำพิพากษาในคดียุบพรรค โดยในช่วงแรกเป็นคำวินิจฉัยพรรคการเมืองกลุ่มที่ 2 คือพรรคประชาธิปัตย์(ผู้ถูกร้องที่ 1 ) และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า(ผู้ถูกร้องที่ 2) ตามที่อัยการสูงสุดยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ในความผิดตามมาตรา 66 (2) และ(3) ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง
ทั้งนี้ในความผิด 4 ประเด็นที่มีการยื่นคำร้องให้ยุบพรรคดังกล่าว คือ 1. ร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยล้มล้างรัฐบาล 2. จ้างบุคคลไปสมัครเข้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าเพื่อให้ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตพื้นที่ จ.ตรัง เพื่อใส่ร้ายพรรคไทยรักไทย 3. ขัดขวางการลงสมัครรับเลือกตั้งใน จ.สงขลา และ 4. จ้างพรรคชีวิตที่ดีกว่าใส่ร้ายพรรคไทยรักไทย
โดยก่อนการอ่านคำพิพากษา นายปัญญา ถนอมรอด ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ขอให้ประชาชนเคารพกฎหมาย และกติกาของบ้านเมืองเพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และย้ำว่า ตุลาการฯได้พิจารณาตามข้อเท็จจริง และกฎหมายด้วยความเป็นธรรม เป็นกลาง
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9500000062519 จากนั้นได้เริ่มอ่านคำพิพากษา โดยพิจารณารายละเอียดแห่งคดี นานเกือบ 4 ชั่วโมง โดยเริ่มจากคำร้องให้ยุบพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า และพรรคประชาธิปัตย์ และคำชี้แจงของผู้ถูกร้องโดยละเอียดแล้ว
ต่อมาศาลได้อ่านคำวินิจฉัยคดี เริ่มจากการพิจารณายืนยันถึงอำนาจของผู้ร้องว่ามีอำนาจตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ว่าด้วยพรบ.พรรคการเมือง พ.ศ. 2541 แม้ว่าจะถูกยกเลิกไปหลังการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 โดยพิจารณาตามประเพณีปฏิบัติ
ซึ่งศาลพิจารณาจากคำโต้แย้งของผู้ร้องที่ 1 (พรรคประชาธิปัตย์) ในประเด็นปราศรัยอันเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยหรือให้ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อล้มล้างรัฐบาลนั้นประเด็นนี้ศาลฟังขึ้น
ส่วนประเด็นที่ 2 เรื่องการว่าจ้างผู้สมัครพรรคเล็กเช่นว่าจ้างพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าเพื่อให้ร้ายพรรคไทยรักไทย จากคำโต้แย้งของผู้ถูกร้องที่ 2 นั้นฟังไม่ได้ว่านายสุเทพเข้าไปเกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องการว่าจ้างผู้สมัครพรรคชีวิตที่ดีกว่าลงสมัครที่จังหวัดนครราชสีมาเพื่อใส่ร้าย นายสุวัจน์ นั้นก็ฟังขึ้นอีก ฟังไม่ได้ว่าเป็นการว่าจ้างแต่เป็นการขอข้อมูลของ นายไทกร
สำหรับประเด็นการขัดขวางการรับสมัครเลือกตั้งที่ จ.สงขลานั้นการแก้ข้อกล่าวก็ฟังขึ้นเช่นเดียวกัน
จากนั้นได้พิจารณาในส่วนของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า คำร้องฟังขึ้น จึงสั่งให้ยุบพรรค เนื่องจากเห็นว่ากระทำผิดกฎหมาย เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง กระทบความมั่นคงแห่งรัฐ ตามพรบ.พรรคการเมือง กับให้เพิกถอนสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคของผู้ถูกร้องที่ จำนวน 9 คน และเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี
อีกสักครู่จะเป็นการชี้ชะตาพรรคไทยรักไทย