เพื่อนคอปืน...ด้ามขวาน

[Sig228-kolok]

โชคดีร่ำรวย
 

[Sig228-kolok]

โชคดีร่ำรวย
 

[PU45™]

                       เช้าแล้ว  .............  ทำการ             (อิจฉาพวกวันหยุดเยอะจังวุ้ย)

[PU45™]

ผมทายว่า .... คนซ้าย เพราะมีลักษณะของผู้ตอบ  เป็นเจ้าบ้าน

คนขวา มีลักษณะของผู้ถาม เจ้าบ้าน จะมีอะไรถามผู้มาเยือนล่ะครับ  มีแต่ผู้มาเยือนแหละ จะถามเจ้าบ้าน

เชอล็อค โฮม...มาเองเลยวุ๊ย...

ทายคนซ้ายเช่นกันแต่ผมดูจากรองเท้า เพราะถ้าเป็นผมคงไม่ใส่ผ้าใบอยู่บ้านครับ ... โชคดี่ร่ำรวย 

                                                         

                       บ๊ะ  .........  สร้างหุ่นขี้ผึ้งเหมือนจริงเลย       ฝีมือจริงๆ

[ลุงฮา]

  อรุณสวัสดิ์ ฟ้าใสวันนี้ 

[Sig228-kolok]

โชคดีร่ำรวย
 

[Sig228-kolok]

 

โชคดีร่ำรวย
 

[lex]

 

[Sig228-kolok]

ขายยาไว้ก่อน  ภาพจากสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง 

[lex]

สวยๆทั้งนั้นเลย    แต่ม้ายเบี้ย 

ftp://http://www.siamtakeang.com/webboard/index.php?topic=9454.0

[นายกระจง]

ขายยาไว้ก่อน  ภาพจากสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง 

พี่แพะครับ สรุปรายละเอียดการเดินทางให้หน่อยนะครับ จะได้วางแผนตามรอยพี่ๆได้ถูกครับ

สวัสดีตอนเช้าครับ ทำงานๆๆๆๆ หยุดทำไม

[Pandanus]

เสร็จตรู.... 

[Sig228-kolok]

ประมาณนี้ครับจง แต่ยังไม่ครบติดตามต่อแล้วกันครับ


วันที่ 21/11/53     เดินทางมารับผม ที่วัดใหญ่ชัยมงคล ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ประมาณเที่ยง จากนั้นเดินทางสู่   จ.ตาก เข้าถึง อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช โชคดีที่เป็นวันอาทิตย์ และเป็นวันลอยกระทง   ทำให้คนไม่มากนัก ไม่เหมือนวันเสาร์เมื่อวาน เจ้าหน้าที่บอกคนเยอะมาก  เลยทำให้พวกเรา    หาทำเลกางเต็นท์นอนพร้อมทำอาหารมื้อเย็นกันได้ถูกใจ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 14 องศา แต่   เนื่องจากเรากางเต็นท์ในที่โล่ง มีลมพัดตลอดเวลาทำให้รู้สึกหนาวเย็นขึ้นกว่าปกติ พวกเราเลือกทำเลกางเต็นท์ตรงที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า ด้านหน้าโปร่งโล่งมองเห็นขุนเขา
    ปล. ถ้าหากใครมาพักที่นี่แล้วถึงเร็ว ก็สามารถกางเต็นท์ แล้วขับรถไปเที่ยวที่ตลาดแม่สอดได้   

วันที่ 22/11/53   ตื่นเช้าชมพระอาทิตย์ขึ้น เก็บเต็นท์ ต้มกาแฟดื่ม ทำภารกิจเสร็จ ประมาณ สิบโมงเช้าออกเดินทางมุ่งสู่ จ.แม่ฮ่องสอน  เราแวะกินก๋วยเตี๋ยวบริเวณดอยเต่า แล้วเดินทางต่อ แวะถ่ายรูปดอกบัวตองสองข้างทางบ้าง  เนื่องจากเส้นทางขึ้นเขาและคดโค้งทำให้ไปถึง อ.แม่สะเรียงประมาณสี่โมงเย็น เหลือระยะทางอีก ร้อยกว่ากิโล ซึ่งเป็นทางขึ้นเขาและคดโค้ง พวกเราเลยตัดสินใจ นอนค้างรีสอร์ทที่ อ.แม่สะเรียง ที่ได้มาแบบฟลุ๊คเพราะพี่ตุ้มไปที่ 7/11 แล้วทางรีสอร์ทโทรมาที่นี่พอดี เป็นรีสอร์ทที่สวย และบรรยากาศดี แถมอาหารอร่อย ทำให้ประทับใจไม่น้อย แม้ว่าพวกเราไม่ได้ตั้งใจแต่แรกว่าจะนอนที่นี่ก็ตาม อุณหภูมิยังคงประมาณเมื่อคืน แต่ไม่ค่อยมีลมทำให้หนาวเย็นไม่เท่าที่ตาก

วันที่ 23/11/53   พวกเราออกเดินทางเร็วขึ้นประมาณเก้าโมงเช้า  มุ่งหน้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จุดแรกเราแวะที่ดอยแม่อูคอ เพื่อชมทุ่งดอกบัวตอง ซึ่งที่จริงน่าจะเราเขาดอกบัวตองมากกว่า เพราะดอกบัวตองบานสะพรั่งทั่วทั้งขุนเขา หลังจากสายตาอิ่มเอมกับความสุขของธรรมชาติที่สร้างสรรค์ เหนือจินตนาการ ก็แวะอิ่มท้องที่ร้านอาหารตามสั่งบริเวณตลาดดอยแม่อูคอ  จากนั้นเดินทางไปถึง อ.เมือง แม่ฮ่องสอนช่วงบ่ายๆ คืนนี้พวกเราแวะพักที่ รีสอร์ทบ้านริมธาร อยู่ชานเมืองนิดๆ บรรยากาศดี รีสอร์ทสวย ยังใหม่และสงบ(จนพวกเราถึง อิๆ)  เย็นนั้นพวกเราขึ้นนมัสการ พระธาตุดอยกองมู ชมวิวเมืองแม่ฮ่องสอน และทิวเขา พอมืดหน่อยก็ไปปล่อยโคมยี่เป็งของทางวัด เพื่อขอพร ลอยเคราะห์ และความทุกข์โศก จากนั้นพวกเรา ก็มาเที่ยวที่ตลาดกลางคืนในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน และได้เข้านมัสการพระธาตุจอมกลาง และกินมื้อเย็นที่ร้านใบเฟิร์น  จากนั้นกลับที่พัก




วันที่ 24/11/53   ตื่นเช้าพวกเราไปกินโจ๊กร้านเสวย ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ของที่นี่ และแวะชมตลาดซื้อเสบียงเตรียมไว้สำหรับมื้อเย็น  จากนั้นออกจากที่พัก ไปศูนย์ศิลปะชีพ แม่ฮ่องสอนเพื่อขออนุญาตเข้าไปกางเต็นท์นอนที่ ปางอุ๋ง 2 คืน(หมู่บ้านรวมไทย)  จากนั้นเดินทางไปแวะชมถ้ำปลา และกินมื้อเที่ยงที่นั่น พออิ่มได้ที่พวกเราเดินไปภูโคลนเพื่อไปพอกโคลน  จากเดินทางไปถึงปางอุ๋ง ช่วงเย็นหาที่เหมาะๆ กางเต็นท์ และทำอาหารค่ำกินกันพร้อมกับเสบียงที่เตรียมมาจากแม่ฮ่องสอน คืนนั้นอุณหภูมิประมาณ 14 องศา ช่วงดึกๆจะหนาวเย็นขึ้นมากเพราะน้ำค้างลงหนัก


วันที่ 25/11/53   เช้านี้ที่ปางอุ๋งลมไม่แรง ทำให้เห็นไอน้ำบริเวณผิวน้ำสวยงามมาก  หลังเสร็จภารกิจส่วนตัว พวกเราก็เดินทางไปยังหมู่บ้านรักไทย ซึ่งเป็นชาวจีนยูนนาน  เที่ยวชมตลาด ชิมชา และซื้อชาอู่หลงจนหนำใจแล้ว  ที่ขาดไม่ได้ที่มาถึงที่นี่แล้วคือ ต้องกิน ขาหมูหมั่นโถ และ หมูพันปี ขอบอกว่าอร่อยมากแถมไม่แพง พวกเรากินกันจนไม่มีพุงเก็บ แถมซื้อกลับไปมื้อค่ำอีกด้วย ออกจากหมู่บ้านรักไทยพวกเราก็กลับไปที่ปางอุ๋ง  เรานอนที่นี่เป็นคืนที่สอง เช่นเคยตกค่ำก็หุงข้าวจุดตะเกียง ซึ่ง มีเจ้า โคแมนร้อยปีของพี่ตุ้ม กับ แก๊สถังของพี่เล็ก ที่ทำให้บริเวณเต้นท์เราสว่างไสวและมีเสียงดังเป็นระยะๆ จนกว่าพวกเราจะเข้านอน  และแน่นอน มื้อค่ำเป็นขาหมู และหมูพันปีที่ตามมาอร่อยซ้ำสำหรับมื้อค่ำนี้ อิ่ม

วันที่ 26/11/53   ตื่นเช้าขึ้นมาพวกเราก็ชมความงามที่เหลือของปางอุ๋ง ก่อนเก็บเต้นท์และสัมภาระเพื่อเดินทางไป อ.ปาย  ซึ่งเป็นจุดหมายต่อไปของพวกเรา   มาถึง ปายก็ใกล้เที่ยงหลังจากหาที่พักได้แล้วซึ่งก็คือ ปาย ภูฟ้า รีสอร์ท  เป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก มีบ้านพักทั้งแบบเป็นหลังเดี่ยวและเป็นห้องแถวติดกัน ซึ่งทางโหน่ง(น้องเพื่อนพี่ตุ้มช่วยหาให้)  จากนั้นก็อาบน้ำอาบท่าพักผ่อนจนค่ำก็ไปเดินที่ถนนคนเดิน แต่ก่อนอื่นต้องแวะกินมื้อเย็นกันก่อน มื้อนั้นเราไม่กินข้าวครับ เราหม่ำสเต็กกันที่ร้านปายวิลเลจ  จากนั้นก็เดินเที่ยวที่ถนนคนเดิน และมาฟังเพลงที่ร้านโหน่ง ซึ่งเล่นแต่เพลงสากล  ที่ปาย เราคนไทยกลายเป็นกะเหรี่ยง เพราะว่ามองไปทางไหนก็เห็นแต่ฝรั่งหัวแดง ฟังเพลงดื่มเบียร์คนละขวด ก็กลับที่พัก เป็นอันจบสำหรับวันแรกทีปาย

วันที่ 27/11/53   เช้าวันที่แรกของปาย ถึงอากาศจะไม่หนาวนัก แต่เต็มไปด้วยหมอก ทำให้รู้สึกสดชื่นและดื่มด่ำกับธรรมชาติ ทางรีสอร์ทมีเลี้ยงอาหารเช้าให้ด้วย  พอเสร็จมื้อเช้า พวกเราก็ไปกันที่ Coffee In Love  แดดร้อนมากเพราะเป็นช่วงกลางวัน  แต่คนก็เยอะมาก เราถ่ายรูปกันสักระยะแล้วตั้งใจจะไปกินส้มตำร้านดัง แต่คนแน่น เลยไปเที่ยวที่วัดกลาง แล้วตามด้วยวัดน้ำฮู  ซึ่งเป็นวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของที่นี่มีคนมาสักการะเยอะมาก เพราะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แปลก คือ ที่พระโมรี ของพระพุทธรูปมีน้ำไหลขังอยู่ในนั้น หลังกราบไหว้ขอพรจากพระ  พวกเราก็ไปกินมื้อเที่ยง หมู่บ้านจีนยูนนานของปาย และก็ไม่พลาดที่จะสั่งขาหมูพันปีมากินกันอีก รสชาติแตกต่างจากที่ บ้านรักไทย แต่ก็อร่อยไปอีกแบบ จากนั้นเดินชมตลาดพอย่อยได้ที่ ก็เดินทางไปที่น้ำตกหมอแปง ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก พอได้เห็นน้ำตกสูดอากาศบริสุทธิ์แล้วก็กลับที่พัก ตอนค่ำพี่หนิงไปเดินที่ตลาดนัดคนเดินคนเดียว พี่ตุ้ม พี่เล็ก และผม นั่งพักผ่อนและมื้อนี้อาศัยอาหารทางรีสอร์ทกินไปดื่มไป ดูหนังพูดคุยจนได้เวลาสมควรก็แยกย้ายกันพักผ่อน

[Sig228-kolok]

ไปแระ มีงานขึันบ้านใหม่  ... โชคดีร่ำรวย 

[นายกระจง]

ประมาณนี้ครับจง แต่ยังไม่ครบติดตามต่อแล้วกันครับ


วันที่ 21/11/53     เดินทางมารับผม ที่วัดใหญ่ชัยมงคล ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ประมาณเที่ยง จากนั้นเดินทางสู่   จ.ตาก เข้าถึง อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช โชคดีที่เป็นวันอาทิตย์ และเป็นวันลอยกระทง   ทำให้คนไม่มากนัก ไม่เหมือนวันเสาร์เมื่อวาน เจ้าหน้าที่บอกคนเยอะมาก  เลยทำให้พวกเรา    หาทำเลกางเต็นท์นอนพร้อมทำอาหารมื้อเย็นกันได้ถูกใจ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 14 องศา แต่   เนื่องจากเรากางเต็นท์ในที่โล่ง มีลมพัดตลอดเวลาทำให้รู้สึกหนาวเย็นขึ้นกว่าปกติ พวกเราเลือกทำเลกางเต็นท์ตรงที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า ด้านหน้าโปร่งโล่งมองเห็นขุนเขา
    ปล. ถ้าหากใครมาพักที่นี่แล้วถึงเร็ว ก็สามารถกางเต็นท์ แล้วขับรถไปเที่ยวที่ตลาดแม่สอดได้   

วันที่ 22/11/53   ตื่นเช้าชมพระอาทิตย์ขึ้น เก็บเต็นท์ ต้มกาแฟดื่ม ทำภารกิจเสร็จ ประมาณ สิบโมงเช้าออกเดินทางมุ่งสู่ จ.แม่ฮ่องสอน  เราแวะกินก๋วยเตี๋ยวบริเวณดอยเต่า แล้วเดินทางต่อ แวะถ่ายรูปดอกบัวตองสองข้างทางบ้าง  เนื่องจากเส้นทางขึ้นเขาและคดโค้งทำให้ไปถึง อ.แม่สะเรียงประมาณสี่โมงเย็น เหลือระยะทางอีก ร้อยกว่ากิโล ซึ่งเป็นทางขึ้นเขาและคดโค้ง พวกเราเลยตัดสินใจ นอนค้างรีสอร์ทที่ อ.แม่สะเรียง ที่ได้มาแบบฟลุ๊คเพราะพี่ตุ้มไปที่ 7/11 แล้วทางรีสอร์ทโทรมาที่นี่พอดี เป็นรีสอร์ทที่สวย และบรรยากาศดี แถมอาหารอร่อย ทำให้ประทับใจไม่น้อย แม้ว่าพวกเราไม่ได้ตั้งใจแต่แรกว่าจะนอนที่นี่ก็ตาม อุณหภูมิยังคงประมาณเมื่อคืน แต่ไม่ค่อยมีลมทำให้หนาวเย็นไม่เท่าที่ตาก

วันที่ 23/11/53   พวกเราออกเดินทางเร็วขึ้นประมาณเก้าโมงเช้า  มุ่งหน้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จุดแรกเราแวะที่ดอยแม่อูคอ เพื่อชมทุ่งดอกบัวตอง ซึ่งที่จริงน่าจะเราเขาดอกบัวตองมากกว่า เพราะดอกบัวตองบานสะพรั่งทั่วทั้งขุนเขา หลังจากสายตาอิ่มเอมกับความสุขของธรรมชาติที่สร้างสรรค์ เหนือจินตนาการ ก็แวะอิ่มท้องที่ร้านอาหารตามสั่งบริเวณตลาดดอยแม่อูคอ  จากนั้นเดินทางไปถึง อ.เมือง แม่ฮ่องสอนช่วงบ่ายๆ คืนนี้พวกเราแวะพักที่ รีสอร์ทบ้านริมธาร อยู่ชานเมืองนิดๆ บรรยากาศดี รีสอร์ทสวย ยังใหม่และสงบ(จนพวกเราถึง อิๆ)  เย็นนั้นพวกเราขึ้นนมัสการ พระธาตุดอยกองมู ชมวิวเมืองแม่ฮ่องสอน และทิวเขา พอมืดหน่อยก็ไปปล่อยโคมยี่เป็งของทางวัด เพื่อขอพร ลอยเคราะห์ และความทุกข์โศก จากนั้นพวกเรา ก็มาเที่ยวที่ตลาดกลางคืนในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน และได้เข้านมัสการพระธาตุจอมกลาง และกินมื้อเย็นที่ร้านใบเฟิร์น  จากนั้นกลับที่พัก




วันที่ 24/11/53   ตื่นเช้าพวกเราไปกินโจ๊กร้านเสวย ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ของที่นี่ และแวะชมตลาดซื้อเสบียงเตรียมไว้สำหรับมื้อเย็น  จากนั้นออกจากที่พัก ไปศูนย์ศิลปะชีพ แม่ฮ่องสอนเพื่อขออนุญาตเข้าไปกางเต็นท์นอนที่ ปางอุ๋ง 2 คืน(หมู่บ้านรวมไทย)  จากนั้นเดินทางไปแวะชมถ้ำปลา และกินมื้อเที่ยงที่นั่น พออิ่มได้ที่พวกเราเดินไปภูโคลนเพื่อไปพอกโคลน  จากเดินทางไปถึงปางอุ๋ง ช่วงเย็นหาที่เหมาะๆ กางเต็นท์ และทำอาหารค่ำกินกันพร้อมกับเสบียงที่เตรียมมาจากแม่ฮ่องสอน คืนนั้นอุณหภูมิประมาณ 14 องศา ช่วงดึกๆจะหนาวเย็นขึ้นมากเพราะน้ำค้างลงหนัก


วันที่ 25/11/53   เช้านี้ที่ปางอุ๋งลมไม่แรง ทำให้เห็นไอน้ำบริเวณผิวน้ำสวยงามมาก  หลังเสร็จภารกิจส่วนตัว พวกเราก็เดินทางไปยังหมู่บ้านรักไทย ซึ่งเป็นชาวจีนยูนนาน  เที่ยวชมตลาด ชิมชา และซื้อชาอู่หลงจนหนำใจแล้ว  ที่ขาดไม่ได้ที่มาถึงที่นี่แล้วคือ ต้องกิน ขาหมูหมั่นโถ และ หมูพันปี ขอบอกว่าอร่อยมากแถมไม่แพง พวกเรากินกันจนไม่มีพุงเก็บ แถมซื้อกลับไปมื้อค่ำอีกด้วย ออกจากหมู่บ้านรักไทยพวกเราก็กลับไปที่ปางอุ๋ง  เรานอนที่นี่เป็นคืนที่สอง เช่นเคยตกค่ำก็หุงข้าวจุดตะเกียง ซึ่ง มีเจ้า โคแมนร้อยปีของพี่ตุ้ม กับ แก๊สถังของพี่เล็ก ที่ทำให้บริเวณเต้นท์เราสว่างไสวและมีเสียงดังเป็นระยะๆ จนกว่าพวกเราจะเข้านอน  และแน่นอน มื้อค่ำเป็นขาหมู และหมูพันปีที่ตามมาอร่อยซ้ำสำหรับมื้อค่ำนี้ อิ่ม

วันที่ 26/11/53   ตื่นเช้าขึ้นมาพวกเราก็ชมความงามที่เหลือของปางอุ๋ง ก่อนเก็บเต้นท์และสัมภาระเพื่อเดินทางไป อ.ปาย  ซึ่งเป็นจุดหมายต่อไปของพวกเรา   มาถึง ปายก็ใกล้เที่ยงหลังจากหาที่พักได้แล้วซึ่งก็คือ ปาย ภูฟ้า รีสอร์ท  เป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก มีบ้านพักทั้งแบบเป็นหลังเดี่ยวและเป็นห้องแถวติดกัน ซึ่งทางโหน่ง(น้องเพื่อนพี่ตุ้มช่วยหาให้)  จากนั้นก็อาบน้ำอาบท่าพักผ่อนจนค่ำก็ไปเดินที่ถนนคนเดิน แต่ก่อนอื่นต้องแวะกินมื้อเย็นกันก่อน มื้อนั้นเราไม่กินข้าวครับ เราหม่ำสเต็กกันที่ร้านปายวิลเลจ  จากนั้นก็เดินเที่ยวที่ถนนคนเดิน และมาฟังเพลงที่ร้านโหน่ง ซึ่งเล่นแต่เพลงสากล  ที่ปาย เราคนไทยกลายเป็นกะเหรี่ยง เพราะว่ามองไปทางไหนก็เห็นแต่ฝรั่งหัวแดง ฟังเพลงดื่มเบียร์คนละขวด ก็กลับที่พัก เป็นอันจบสำหรับวันแรกทีปาย

วันที่ 27/11/53   เช้าวันที่แรกของปาย ถึงอากาศจะไม่หนาวนัก แต่เต็มไปด้วยหมอก ทำให้รู้สึกสดชื่นและดื่มด่ำกับธรรมชาติ ทางรีสอร์ทมีเลี้ยงอาหารเช้าให้ด้วย  พอเสร็จมื้อเช้า พวกเราก็ไปกันที่ Coffee In Love  แดดร้อนมากเพราะเป็นช่วงกลางวัน  แต่คนก็เยอะมาก เราถ่ายรูปกันสักระยะแล้วตั้งใจจะไปกินส้มตำร้านดัง แต่คนแน่น เลยไปเที่ยวที่วัดกลาง แล้วตามด้วยวัดน้ำฮู  ซึ่งเป็นวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของที่นี่มีคนมาสักการะเยอะมาก เพราะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แปลก คือ ที่พระโมรี ของพระพุทธรูปมีน้ำไหลขังอยู่ในนั้น หลังกราบไหว้ขอพรจากพระ  พวกเราก็ไปกินมื้อเที่ยง หมู่บ้านจีนยูนนานของปาย และก็ไม่พลาดที่จะสั่งขาหมูพันปีมากินกันอีก รสชาติแตกต่างจากที่ บ้านรักไทย แต่ก็อร่อยไปอีกแบบ จากนั้นเดินชมตลาดพอย่อยได้ที่ ก็เดินทางไปที่น้ำตกหมอแปง ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก พอได้เห็นน้ำตกสูดอากาศบริสุทธิ์แล้วก็กลับที่พัก ตอนค่ำพี่หนิงไปเดินที่ตลาดนัดคนเดินคนเดียว พี่ตุ้ม พี่เล็ก และผม นั่งพักผ่อนและมื้อนี้อาศัยอาหารทางรีสอร์ทกินไปดื่มไป ดูหนังพูดคุยจนได้เวลาสมควรก็แยกย้ายกันพักผ่อน

ขอบคุณครับพี่แพะ จะรอคอยติดตามต่อไปครับ