คือในชีวิตจริงๆ อ่ะนะ ตั้งแต่ เกิด เรียน โต ในภาคใต้เนี่ยผมเจอคนที่พูดคำด่าเหยดแม่คำ เนี่ยไม่มาก
ส่วนมากก็เป็นคนแก่ๆ (ไอ้เอกชัยนักร้องนี่อีกตัว ที่พูดไปด่า เหยดแม่ไป ดุคลิปตอนมันเล่นหนังลุงคู่กะหนังน้องเดียวแลตะ)
ส่วนมากคนแบบนี้พูดทั่วไป กะใครๆ ก็แล้วไปถ้าไม่มองหน้าฝ่ายตรงข้ามแบบตั้งใจด่าก็คงแล้วไป
แต่ถ้าพูดไปมองหน้าคู่สนมนาไปแบบจริงจังผมว่า...เอิ่ม..คงไม่นาน
เพราะคงไม่มีใครมาทนคุยกะคนที่ด่าแม่อยู่ได้
ในชีวิตผมเจอสองคน ทั้งสองผมเตือนแล้วว่าเวลาพูดกะผมอย่าด่าแม่ไปด้วย.....ไม่ฟัง.....ผมกระทืบลงไปจุกแอ่กๆ คาตีนผมทั้งสองคน
คนแรก ยังเด็กๆ ไม่เกิน ป3-ป4.
คนที่สอง อยู่ ม2. หรือ ม3. ไม่แน่ใจ เคยเล่าให้ฟังแล้ว
คือคำด่าติดปากคำนี้ว่าๆไปมันก็อันตรายนะ อย่าติดปากเพลิน คนคอนพูดกะคนคอนพอได้
แต่คนชุมพร ไม่ชอบใจคำติดปากนี้อย่างแรง เชื่อเถอะ อย่าติดปากคำนี้เลยดีกว่า
นึกว่าผมคนเดียว แล้วจะเล่าให้ฟังมั่ง
สมัยทำงานป่าไม้ พื้นที่กิ่งวิภาฯ สุราษฎร์ฯ คนในหมู่บ้านที่ตั้งหน่วยเป็นคนนครฯหมดเลย
มาจากต่างอำเภอกันมั่ง วันหนึ่งผมไปซื้อว้อดก้าตรารวงข้าว ที่สหกรณ์หมู่บ้าน
ตามตำรา จะไปไหนมาไหน ต้องไปคู่เป็นบัดดี้ เลยชวนเพื่อนรุ่นน้องที่ทำงานอนุรักษ์ไปกันคนหนึ่ง
ไปถึง มีโต๊ะที่ชาวบ้านนั่งถองเหล้ากันอยู่ เราก็ยิ้มให้ แล้วเดินไปหาแม่ค้าไม่รีรอรีบซื้อทันที
เพราะคุยเล่นมากไปเดี๋ยวผิดเหลี่ยมหาว่าไปจีบหล่าว
ระหว่างรอเงินทอน มีคนเดินเข้ามาหนึ่งคน เข้ามาก็ทักทายด้วยคำ เหยดแหม่ กับคนที่นั่งโต๊ะ ผมสะดุดกึก
รู้ว่าไม่ได้หมายถึงเราแต่ก็ระวังตัว หันไปมอง
เขาก็โขมงโฉงเฉงหันหน้าไปทางโต๊ะ มีคำเหยดแหม่ตามหลังมาอีก4-5คำ แล้วก็มีตรีนจากในโต๊ะสวน
กลับมาล้มผลึ่ีง หงายหลัง จากนั้นเจ้าของตรีนก็ขึ้นคร่อม หวดไม่ยั้งชุลมุน
ที่ลงมือก่อนเด็นเด็กรุ่นหลังนะ อายุเพิ่งพ้นทหาร เป็นเด็กร่อนพิบูลย์ แต่ที่เหยดแหม่นั้น อายุราวๆผมตอนนี้
มาจากฝั่งเชียรเขา
ทั้งสหกรณ์เงียบกรุบไปสอง-สามวินาที พอเด็กมันชักไอ้เชียงจากเอว พวกที่อยู่ในโต๊ะก็ฮือเข้าห้าม
ห้ามเป็นครับ ครุบไว้ทั้งสองคน ไม่ใช่ครุบไว้คนเดียวให้อีกฝ่ายตั้งตัวได้
เรื่องยาวเพราะดันมีป่าไม้สองคนอยู่ในเหตุการณ์ ทั้งผู้ใหญ่ทั้ง ตชด. ทั้งนายหัวเราเองสอบกันน่าดูว่าเรื่องเป็นไง
ท้ายสุดผู้ใหญ่ไกล่เกลี่ยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะฝ่ายที่เหยดแหม่นั้น เป็นที่เอือมระอาของคนทั่วไป