เรื่องสั้นรอบอ่าง
ผมหมายถึง อ่างเก็บน้ำ ที่อยู่ภายในบริเวณมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ (มอ. )
4 โมงเย็นผมกำลังเข้าในโลกอินเตอร์เนต ดูสาระความรู้ไปเพลินๆ สมศักดิ์ก็โทรฯมาชวนให้ไปวิ่ง ผมเคยไปวิ่งยามเย็นที่นั่น ทุกๆเย็นจะปรากฏกายในชุดกีฬา ควบอีดรีมแก่ๆร้ายๆไปยังริมอ่าง วอร์มร่างกายตามหลักพลานามัยที่เคยร่ำเรียนมาเมื่อครั้ง ม ปลาย ก่อนจะย่างเหยาะไปตามทางซีเมนต์ระยะทางประมาณกิโลกว่าๆ นับขึ้นไปอีกสัก 10 ปีที่ผ่าน เมื่อผมวิ่งได้สัก 3 รอบ ก็จะไปเตะบอลพลาสติคกับน้องๆนักศึกษา แต่วัยในขณะนี้ ผมยอมรับว่า การวิ่งให้ครบรอบสัก 2 รอบนั้น มันเหนื่อยล้ายิ่งนัก ยิ่งห่างการวิ่งมาเป็นระยะเวลานานๆ แม้สักรอบเดียวก็ดูเหมือนกิโลกว่าๆนั้น ช่างห่างไกลเหลือแสน ห่างไกลราวผมกับใครบางคนห่างไกลกันเหลือเกิน
สมศักดิ์ให้เหตุผลที่ดีในการเริ่มวิ่งครั้งใหม่นี้ว่า เราจะได้มีแรงซดเบียร์ได้นานๆ และสูบบุหรี่ได้อย่างปลอดภัยขึ้น ด้วยปอดได้ถูกขยายให้มีพื้นที่ในการรับออกซิเจนได้มาก นับเป็นเหตุผลที่เป็นวิทยาศาสตร์พอดู
ผมจึงออกจากเนต แล้วสวมชุดกีฬา ที่ปัจจุบันสวมใส่ชุดแบบนี้เมื่อไหร่ ผมก็ยังคงดูดีอยู่เมื่อนั้น ด้วยร่างที่สมส่วน และทรวดทรงอันเย้ายวนใจสาว
แนบบัตรประชาชนเพื่อผ่านประตูมหาวิทยาลัย และเอานิ้วคีบแบงก์ร้อยไปใบหนึ่ง เผื่อต้องเติมน้ำมันให้อีดรีมก็เป็นได้
ริมอ่างเดี๋ยวนี้ดูแปลกตา สาวๆที่มาวิ่งล้วนแล้วแต่ดูน่ารัก กระจุ๋มกระจิ๋ม สาปสาวยังคงร่ำอบอยู่กรุ่นๆ แรงจูงใจในการออกกำลังเป็นสิ่งสำคัญ การวิ่งไม่มี "เครื่องมือ" ใดใดที่จะทำให้เพลิดเพลินลืมเหนื่อย ฟุตบอลยังมีลูกฟุตบอลให้ไล่แย่ง บาสเก็ตบอลยังมีลูกบาสให้ช่วงชิง การวิ่งจึงจำเป็นต้องมีแรงจูงใจเป็นสำคัญ แหละผมรู้ว่า--สาปสาวที่ลอยล่องอยู่ในสายลมนั่นแหละ เป็นแรงจูงใจอันสำคัญนัก!!
ผ่านไป 1 รอบ สมศักดิ์ยังไม่มา ผมไม่รู้สึกหงุดหงิด ชีวิตนี้ผมเคยชินเสียแล้วกับการไปไหนมาไหนคนเดียว เหงื่อเริ่มโซมกาย พร้อมๆกับลำแข้งที่เริ่มจะอ่อนแรงของผม ลูกน่องฟ้องประสาททุกส่วนว่า กรุณาหยุดพักสักครู่ได้ไหมครับ? มันจะระเบิดอยู่แล้วโว้ยยยยยยยย !!
ไม่!! ผมหยุดไม่ได้ เบื้องหน้านั่นคือสาวรุ่นประมาณ 20 ต้นๆ สวยเสียด้วยสิ กลิ่นเหงื่อของหล่อนยังเจือจางอยู่ในแรงลมผ่าน หอม และคงจะหวานปานน้ำผึ้งเดือน 5 กลางป่าลึก!
โน่นแน่ะ สมศักดิ์เดินมาตัวโยน เราคุยกันอยู่สักครู่ แล้วก็ออกวิ่งไปตามทางเดิมที่ผมเพิ่งจะผ่านมา
รอบนี้ผมไม่รู้สึกเหนื่อยเหมือนรอบแรก ด้วยร่างกายและกล้ามเนื้อได้รับการกระตุ้นให้ตื่นตัวเต็มที่ ปอดและหัวใจได้รับการอากาศเพียงพอ จุดดำที่เกิดจากคราบบุหรี่ ทั้งรอยช้ำในหัวใจที่เกิดจากน้ำมือใครบางคน มันคงจะพอทุเลาลงได้บ้าง
ขาผมเบาหวิวราวเดินอยู่บนฟองคลื่น นำหน้าสมศักดิ์ไปไกลโข เจอเพื่อนที่พาลูกมานั่งดูปลาในอ่าง เจอเพื่อนที่มาวิ่ง เจอคนไม่รู้จักที่อยากรู้จักเหลือเกิน เจอใครต่อใคร และเจอ "เข็ม"
"เข็ม" สาวสวยเมื่อครั้งเราเรียนที่มหาวชิราวุธ หล่อนอยู่ห้อง 1 ห้องเดียวกับสมศักดิ์ ผมอยู่ห้อง 12 ช่วงปีนั้นผมเคยมองเข็มด้วยดวงตาแห่งความหวัง รอคอย และปารถนาเหลือเกินที่จะได้เดินไปไหนมาไหนด้วยกัน ก็นั่นแหละ---ผมเห่าหอนอยู่เพียงลำพังเท่านั้น ดวงตาซื่อใสมิอาจทะลุทะลวงหัวใจหญิงผู้รู้ตัวว่ามีความงามมิน้อยหน้าใคร
เราทักกัน หมายถึงผมกับเข็ม ผมมองดูร่างที่อวบอ้วนขึ้นตามกาลเวลาของหล่อน มองดูร่องรอยชีวิตที่เกรียมดวงตาสีเข้ม มองดูรอยยิ้มที่ยังงดงามอยู่เสมอ หล่อนยิ้มรับ การพูดคุยช่างแสนสั้น พอๆกับระยะก้าวย่างวิ่งของผม เข็มถามผมว่ามีลูกกี่คนแล้ว? ผมตอบยังไม่มีเมียเลย อา---การโกหกคำโต การตอแหลอย่างไร้ชั้นเชิงที่สุด
พอแล้ว---การวิ่งสำหรับวันนี้เพียงพอแล้ว ผมเหนื่อยและหมดแรงขา ผมคงไม่ต่างจาก "คิง" นักชกชราในเรื่องสั้น "ยกสุดท้าย" ของ "แจ๊ค ลอนดอน"
ผมปล่อยให้สมศักดิ์กับเข็มวิ่งไปด้วยกัน เวลา 6 โมงเย็นกว่า ๆ รอบอ่างยังมีนักวิ่งอยู่จำนวนไม่น้อย ลมเย็นโชยมาชื่นฉ่ำ น้ำในอ่างกระเพื่อมผิวด้วยแรงลม ดวงอาทิตย์กำลังอัสดงคต
ผมแลกบัตรออกประตู กลับถึงบ้านด้วยความเหน็ดเหนื่อย พอเอามือล้วงกระเป๋าก็ใจหายวาบ! เงิน 100 ที่ใส่ไว้กันผีอันตรธานหาย! ในใจก็คิดว่าโชคยังดีที่ไม่ได้แวะจิบเบียร์คลายเหนื่อย มิเช่นนั้นคงได้อายเจ้าของร้านเป็นแน่แท้
เออแน่ะ-โลกยามแดดอัสดง สวยงาม และมีหนหลังให้รำลึกได้ร้อยแปด การวิ่งไปเบื้องหน้านั้นย่อมเหนื่อย เราไม่สามารถหยุดชีวิตเอาไว้เพียงแค่ปัจจุบัน แต่การได้ครุ่นคิดถึงสิ่งสวยงามนี่สิ ที่เป็นแรงจูงใจชีวิตให้วิ่งต่อไป วิ่งและวิ่ง เพื่อสักวันความแข็งแรงที่สุด เราจะเป็นเจ้าของมัน!