เมื่อชีวิตของคน 2 ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกันนั้น ไม่มีใครคิดฝันว่าเมื่ออยู่กันไป
นานๆ แล้ว จะเกิดปัญหาตามมา ทุกคู่แทบไม่มีใครคิดถึงปัญหาล่วงหน้าต่าง
คิดถึงการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แต่ในความเป็นจริงของชีวิต มักจะไม่
เหมือนกับความคิดของเราเสมอไป
บางครั้งก็อาจจะมีความสุขมากกว่าที่คิด แต่ส่วนมากมักจะทุกข์มากกว่าที่คิด
ซะมากกว่า ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะ ไร เพราะช่วงเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่
ร่วมกัน เรามักจะฝันจะคิดถึง แต่เรื่องที่ประเทืองความสุข ไม่ค่อยคิดถึงเรื่อง
ความทุกข์ เมื่อมาใช้ชีวิตจริง ปกติธรรมดาแล้วพบเรื่องทุกข์บ้าง ก็ต้องถือ
เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตอย่าไปคิด อะไรมาก
ความยากลำบากของชีวิตคู่ที่อยู่ด้วยกัน จนผันเป็นความทุกข์อีกรูปแบบหนึ่ง
ของชีวิต คือ ความขัดแย้งกันระหว่างสามีภรรยา" ความขัดแย้งของสามี
ภรรยา ที่พบได้บ่อยๆ มากที่สุด จนอาจกล่าวได้ว่าแทบไม่มีคู่ไหนหลีกหนี
ปัญหาข้อนี้ไปได้พ้น คือ
"
ความขัดแย้งของการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในชีวิตประจำวัน" ที่เป็นเช่นนี้เพราะคนสองคนที่มาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ล้วนมีที่มาต่างกันไปแทบ
ทั้งสิ้น ตั้งแต่การอบรมเลี้ยงดู การศึกษา การคบหาสมาคมกับเพื่อน
แต่ละคนต่างมีที่มาต่างกัน เพราะฉะนั้นเมื่อมาอยู่ด้วยกัน ย่อมมีความแตกต่างกัน ใน
การใช้ชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน เช่นเรื่อง "อุปนิสัยส่วนตัว" บางคนมี
อุปนิสัยใจคอ เป็นคนใจร้อนใจเร็ว อยากได้อะไรต้องเอาให้ได้ดังใจทันที ถ้า
ช้านิดหน่อย จะโกรธ เป็นฟืนเป็นไฟ อุปนิสัยแบบนี้ ตอนที่จีบกันอยู่ อาจไม่
เคยหลุดออกมาให้ดูให้เห็น เพราะไม่มีโอกาสที่จะพบเหตุการณ์ ที่แสดงความ
ใจร้อนออกมา แต่พอมาอยู่เป็นคู่ชีวิตกันจริงๆ ทุกวันทุกคืน จะฝืนตัวเองยังไง
ไม่ให้ความใจร้อนหลุดออกมาบ้างเลยก็คงยาก
คนที่เป็นคู่ชีวิตอยู่ด้วย ก็คงช่วยทำให้เขาใจเย็นลงไม่ได้
เพราะมันเป็นอุปนิสัยใจคอที่เปลี่ยนแปลงยาก ความลำบากใจ จึงตกมากับ
คนที่อยู่ด้วย ถ้าทนความลำบากใจจากอุปนิสัยที่แตกต่างกันไม่ได้ ก็จะอยู่ไป
อย่างไม่มีความสุข ผลสุดท้ายอาจถึงขั้นแยกย้ายทางใครทางมันก็ได้
เรื่องนี้มีทางเดียว คือ
ต้องปรับจิตปรับใจของตัวเรา ให้ยอมรับเขาให้ได้ เมื่อพบเหตุการณ์ที่ทำให้
เขาใจร้อน เมื่อไหร่เราก็ควรใจเย็น และใช้คำพูดคำจาที่เปรียบเสมือนน้ำเย็น
เข้าลูบ คำพูดคำจาที่จะให้ออกมาต้องระมัดระวังให้ดี อย่าเป็นคำพูดที่เป็นเชื้อ
ไฟ ให้ความใจร้อนใจเร็วและความโกรธเป็นฟืนเป็นไฟโหมแรงขึ้นไปอีก ไม่
ควรเป็นคำพูดที่ตรงข้ามกับสิ่งที่เขาคิดเขาเชื่ออยู่ในขณะนั้น ควรจะพูดเออออ
ห่อหมกกับเขาไปก่อน พูดง่ายๆ คือ พูดอะไรก็ได้ที่จะทำให้ถูกใจเขาความใจ
ร้อนโมโหโกรธาของเขาจะได้ลดลง ช่วงนี้อย่าเพิ่งไปคำนึงถึงข้อเท็จจริงหรือ
เรื่องของเหตุเรื่องของผล หาทางทำให้คู่ของเราเย็นลงให้ได้ก่อนเป็นความ
จำเป็นเฉพาะหน้าพอใจร้อนใจเร็วซาลงแล้ว ค่อยมาพูดกันด้วยเหตุด้วยผล ก็
จะช่วยทำให้เกิดความเข้าใจกันได้มากขึ้น
ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ
อย่าใช้การพูดเล่นเป็นน้ำเย็นเข้าลูบ เวลาที่อีกฝ่ายใจร้อน โมโหโกรธานั้น
เขาไม่มีอารมณ์มาพูดเล่นพูดหัวกับใครหรือไม่มีกะจิตกะใจมาสนุกไปกับคำพูด
เล่นของใครได้ ถ้าเราขืนพูดเล่นเพื่อหวังให้เขาเย็นลง จงจำไว้เถิดว่า เป็นการ
เข้าใจผิดอย่างมหันต์ ถ้าขืนทำกันจริง จะเท่ากับยิ่งเหมือนกับเอาน้ำมันราด
ใส่กองไฟ ยังไงยังงั้น
ถ้ายังไม่รู้ว่าจะเอาน้ำเย็นเข้าลูบยังไงให้คู่ของเราเย็นลง
ก็คงมีอีกวิถีทางหนึ่ง คือ
"การเฟดตัวเองออกไปให้ไกลๆ สักระยะหนึ่ง" แต่ก็ไม่ต้องถึงกับออกนอกบ้าน
ไปไหน อยู่ในบ้านนั่นแหละ และคอยชำเลืองดูให้เขาอยู่ในสายตาตลอดเวลา
ก็พอ เมื่อคนๆ หนึ่งใจร้อนใจเร็วโมโหโกรธา เขาอาจจะระเบิดอารมณ์ออกมา
เต็มที่ ปล่อยให้เขาระเบิดออกมาให้เต็มที่ เพราะอีกไม่กี่สิบนาทีต่อมา มันจะ
ค่อยๆ ซาลง เย็นลงเรื่อยๆ เมื่อเห็นเขาเย็นลงเมื่อไหร่ เราค่อยเข้าไปเอาน้ำ
เย็นเข้าลูบ จะ สัมผัสด้วยการจูบ การโอบกันบ้างเพื่อสร้างความอบอุ่นก็ไม่
ผิดกติกาอันใด ชีวิตคู่ก็จะอยู่กันได้ต่อไป ถึงแม้อุปนิสัยใจคอจะแตกต่างกัน
ราวฟ้ากับดินก็ตาม
อย่าปล่อยให้ความแตกต่างกันเล็กๆ น้อยๆ มาคอยทำให้ชีวิตคู่หดหู่ ถ้าเรา
ปรับจิตปรับใจซะหน่อย ก็จะมีชีวิตคู่อยู่กันอย่างอร ่อยเหาะแน่นอน