อยากให้อ่านข้อมูลเก่าๆ ช่วงปี 2544 ที่ศูนย์ข้อมูล มติชน รวบรวมสถิติไว้ได้ถึง 12ครั้ง ต่อไปนี้คือเหตุการณ์ที่ลูกชาย ร.ต.อ.เฉลิมทั้ง 3 คน เข้าไปพัวพันในช่วงเวลา นับจากปี 2540 ถึงปี 2544 ทำสถิติ4ปี-12คดี ซึ่งขณะนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ครับ
1) วันที่ 12 เมษายน 2540 เวลา 02.00 น.เศษ
ร.ต.ต.วันเฉลิม ซึ่งติดตาม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น ไปตรวจราชการที่ จ.ภูเก็ต และได้ไปเที่ยวเอเลี่ยนผับ กับพรรคพวกกลุ่มใหญ่ แล้วก็สร้างวีรกรรมมีเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่นเจ้าของพื้นที่ ปรากฏว่ามีคนถูกยิง 2 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ร.ต.ต.วันเฉลิมตกเป็นหนึ่งในจำเลยในเหตุการณ์นั้นด้วย
2) วันที่ 27 มีนาคม 2541 เวลา 01.45 น. (อีก16 วันครบ 1 ปี)
ร.ต.ต.วันเฉลิม กับพวก ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุทะเลาะกับกลุ่มวัยรุ่นของ น.ส.กาญจนา นุ่มน้ำมูล แฟนสาวของลูกชายนายสิทธิพร ขำอาจ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ และนายวินัย หรือปาน แซ่ตั้ง หัวคะแนนนายสิทธิพร ที่ฟิวเจอร์ผับ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค แต่เนื่องจากไม่มีพยานยืนยันว่า ร.ต.ต.วันเฉลิมร่วมลงมือ เมื่อเดือนกันยายน 2541 อัยการก็เลยสั่งไม่ฟ้อง
3) วันที่ 1 สิงหาคม 2541 เวลา 23.00 น. (4 เดือน 4 วัน)
ร.ต.ต.วันเฉลิมเจ้าเก่า ก็ถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกาย นายอัครเดช สุขรังสรรค์ บุตรชายนายประสาน สุขรังสรรค์ อดีตรองอธิบดีกรมการปกครอง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ในงานเลี้ยงของนายอัครเดช ที่ฉลองการจบจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ ทอรัสผับ
4) วันที่ 1 ตุลาคม 2541 เวลา 01.30 น. (2 เดือน)
เป็นคิวของพี่ชายคนโต เมื่อ ร.ต.ต.อาจหาญถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกาย น.ส.ปทิตตา พรรณโอรส นักศึกษามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญบริหารธุรกิจ(เอแบค) อดีตแฟนสาวที่นาซีซัสผับ
5) ย่างสู่ปี 2542
ร.ต.ต.อาจหาญ และ ร.ต.ต.วันเฉลิม ตกเป็นผู้ต้องหาอีก โดย 2 ศรีพี่น้องก็เจอข้อหาใช้ใบเกณฑ์ทหาร หรือ สด.43 ปลอม สมัครเข้ารับราชการตำรวจ ครั้นพอมาวันที่ 2 มีนาคม 2542 ทั้งสองประกาศขอลาออกจากราชการ แต่หลังจากนั้นอีกเพียง 2 วัน คือวันที่ 4 มีนาคม 2542 สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่อนุมัติให้ลาออก แต่มีคำสั่งให้ ร.ต.ต.อาจหาญ และ ร.ต.ต.วันเฉลิม ออกจากราชการแทน พร้อมกันนั้นยังดำเนินคดีอาญา ฐานปลอมแปลงเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม คดียังคงค้างคาอยู่จนถึงทุกวันนี้
6) วันที่ 29 พฤษภาคม 2542
ร.ต.ต.วันเฉลิมตกเป็นผู้ต้องหาอีก คราวนี้ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกาย น.ส.สวิดา อึงศรีสวัสดิ์ อายุ 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ(เอแบค) ในงานปาร์ตี้ที่จัดขึ้นที่โรงแรมรอยัลการ์เด้นท์ซีวิว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ท้องที่ สภ.อ.บางละมุง
7) วันที่ 11 กรกฎาคม 2542 เวลา 01.30 น. ( 1 เดือน 13 วัน )
กลุ่มของลูกของ ร.ต.อ.เฉลิมก่อเหตุอีก คราวนี้ไปทะเลาะวิวาทกันในผับ เรดบาร์ ย่านอาร์ซีเอ เขตห้วยขวาง กทม. คราวนี้ฉาวโฉ่ขึ้นเป็นสองเท่า เพราะเมื่อนักข่าวและช่างภาพไทยรัฐไปทำข่าว ร.ต.ต.วันเฉลิมกับพรรคพวกได้พากันยื้อแย่งเอากล้องและฟิล์มไป รวมทั้งแสดงอาการคุกคามด้วยการทุบรถของนักข่าวด้วย เลยถูกกองบรรณาธิการไทยรัฐแจ้งความดำเนินคดี ขณะที่สมาคมนักข่าวฯออกแถลงการณ์ประณามพฤติกรรมดังกล่าว แต่ที่สุด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้พ่อ ต้องแสดงบททำเพื่อลูกด้วยการรุดไปขอขมานักข่าวและช่างภาพถึงโรงพิมพ์ไทยรัฐ และขอไม่ให้เอาความ
วันที่ 26 กรกฎาคม 2542 (15 วัน )
ถึงคิวน้องคนสุดท้อง นายดวงเฉลิม ที่ขณะนั้นยังเรียนหนังสืออยู่ พาพวกไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับกลุ่มนักเที่ยว ที่หน้า สปาร์คผับ ชั้นใต้ดิน โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาฯ มีการยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด แต่โชคดีไม่มีพยานใดกล้ายืนยันหรือมาให้ปากคำซัดทอดถึง นายดวงเฉลิมเลยรอดตัวไป
9) วันที่ 26 กันยายน 2542 เวลา 03.15 น. ( 2 เดือน เป๊ะ)
นายดวงเฉลิมก่อเรื่องอีก คราวนี้ควบรถเก๋งกับเพื่อน 4-5 คน ไปกดออดที่บ้านของ น.ส.ภัทรวลัย อนันตศิริภัทร อายุ 21 ปี เพื่อนสาวที่ซอยศูนย์วิจัย 4 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ ห้วยขวาง เพื่อขอพบ น.ส.ภัทรวลัย ซึ่งเคยสนิทสนมกันมาก่อน แต่ปรากฏว่า น.ส.ภัทรวลัยไม่อยู่บ้าน นายดวงเฉลิมเข้าใจว่าสาวเจ้าหลบหน้า เลยอาละวาดกวาดกระถางต้นไม้วางอยู่ริมรั้วตกแตกเสียหาย แม่ของฝ่ายหญิงต้องโทรศัพท์แจ้งตำรวจเพราะกลัวนายดวงเฉลิมจะทำอะไรมากกว่านั้ น ร้อนถึงผู้เป็นพ่อ ร.ต.อ.เฉลิมอีกตามเคย ต้องโทรศัพท์มาเคลียร์ขอไม่ให้เอาเรื่องเด็ก
10) ย่างสู่ปี 2543 วันที่ 26 มกราคม 2543 ( 4 เดือน เป๊ะ)
ร.ต.ต.วันเฉลิมกับพวกก่อเหตุอีก ด้วยการไปรุมทำร้าย นายเสริมชัย วัฒนเสนีย์ธรรม ลูกชายเจ้าของโรงแรมเรสซิเดนท์ เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ เหตุเกิดที่ บริท 99 คลับ ภายในสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ จนบาดเจ็บสาหัส หลังจากเขม่นกันเรื่องสาว หลังเกิดเหตุคราวนั้น ร.ต.อ.เฉลิมบอกว่า ต่อไปนี้จะสั่งห้ามลูกชายเที่ยวผับและมีเรื่องอีกเด็ดขาด เพราะลูกชายทั้ง 2 คน จะเตรียมตัวลงสมัคร ส.ส. มีเรื่องอื้อฉาวอะไรเกิดขึ้นอีกเดี๋ยวประชาชนจะไม่ยอมรับ สุดท้ายคดีศาลพิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2544 เนื่องจากหลักฐานฝ่ายโจทก์อ่อน หลังจากนั้นมา เรื่องของลูกชายเลยซาๆ ลงไป เนื่องจาก ร.ต.ต.อาจหาญ และ ร.ต.ต.วันเฉลิม สร้างภาพใหม่ด้วยการลงพื้นที่หาเสียงในเขตฝั่งธนฯ อย่างไรก็ตาม แต่กลับปรากฏว่าเกิดข่าวลือที่แพร่ไปตามเว็บไซต์ต่างๆ ว่า ลูกชายของ ร.ต.อ.เฉลิมต้องเดินทางไกลเพื่อไปคุมประพฤติอย่างกะทันหัน เป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ที่สนุกสนานที่สุดในปีนี้ แม้ ร.ต.อ.เฉลิมจะออกมาชี้แจงทั้งโดยตรงและโดยอ้อมว่า ไม่จริงว่าที่ลูกชายหายไป เพราะ 2 คนแรก คือ ร.ต.ต.อาจหาญ และ ร.ต.ต.วันเฉลิม กำลังเก็บตัวเพื่อลง ส.ส. ขณะที่นายดวงเฉลิมอยู่ระหว่างการเรียนปริญญาโทอย่างคร่ำเคร่ง กระนั้นก็ดูเหมือนจะไม่สามารถขจัด ข่าวลือ ที่ว่านั้นไปได้
11) จนเมื่อ 12 ตุลาคม 2543 ( 8 เดือน 17 วัน )
นายดวงเฉลิมก็ก่อเหตุทะเลาะวิวาทอีกครั้งกับนักศึกษาเอแบค ที่ คาเฟ่เรคคอร์ด ซึ่งคราวนี้ดูจะอื้อฉาวกว่าทุกครั้ง เพราะผู้เป็นพ่อกระโดดเข้าร่วมวงถล่มตำรวจ ด้วยการยืนด่ากราดตำรวจ สน.ทองหล่อ และนักข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ด้วยใบหน้าแดงก่ำ เป็นการร่วมวงด้วยอาการ เบรกแตก เลยพลอยตกเป็นจำเลยไปกับลูก ฐานหมิ่นประมาทตำรวจ และเป็นจำเลยสังคมฐานเกรี้ยวกราด หยาบคายเกินเหตุ ช่วงปลายปีต่อเนื่องถึงต้นปี 2544 ไม่มีข่าวฉาวของบรรดาบุตรชายสุดที่รักของ ร.ต.อ.เฉลิมเลย เพราะ ร.ต.ต.อาจหาญ กับ ร.ต.ต.วันเฉลิม ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. หลังการเลือกตั้งแม้ทั้งสองจะไม่ได้รับเลือก แต่ ร.ต.ต.วันเฉลิมก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา นายบุญชง วีสมหมาย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ในเดือนเมษายน ส่วนนายดวงเฉลิมได้บวชเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2544 โดยมี ลุงจิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สะพายบาตรนำส่งเข้าโบสถ์ด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน พล.อ.ชวลิตก็ได้ลงนามอนุมัติให้นายดวงเฉลิมเข้าเป็นนายทหารสังกัดสำนักงานเลข า นุการ รมว.กลาโหม ของ พล.ต.ศรชัย มนตริวัต เลขานุการ รมว.กลาโหม และในวันที่ 8 มิถุนายน ก็ได้รับการประดับยศ ร้อยตรี