เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 12, 2024, 09:22:59 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 4164 4165 4166 [4167] 4168 4169 4170 ... 35779
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อนคอปืน...ด้ามขวาน  (อ่าน 25821444 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 132 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #62490 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2008, 01:12:18 AM »

ไหว้ขอบคุณครับเบิ้ม พรุ่งนี้จะลองแลครับ แต่คงเปลี่ยนเป็นหมูครับ เพราะเนื้อคงสั่งไม่ทันแล้ว เสียดายอยากกินเนื้อมากกว่า  ทำแบบเบิ้มว่านี่แหละ หรอยแล้ว แต่เพิ่มงาอีกนิดหน่อยแหล่มเลย  อ้อ..จะใช้วิธีย่างครับ คริๆ เพิ่งกินเนื้อแดดเดียวย่างวันงานลูกเขือ หรอยหวาทอดจริงๆ คริๆๆ Grin


 ไหว้ พี่ปื๊ดลองหมักเนื้อติดมันแล้วย่างเลยสิครับ มันวัวอร่อยสุดยอด ทำน้ำจิ้มเผ็ดๆใส่ข้าวคั่วๆหน่อย จิ้มแกล้มเหล้า  น้ำลายหก

เนื้อหมูมันไม่อร่อยอ่ะคับ   Grin
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
pscn
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #62491 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2008, 01:19:38 AM »

ไหว้ขอบคุณครับเบิ้ม พรุ่งนี้จะลองแลครับ แต่คงเปลี่ยนเป็นหมูครับ เพราะเนื้อคงสั่งไม่ทันแล้ว เสียดายอยากกินเนื้อมากกว่า  ทำแบบเบิ้มว่านี่แหละ หรอยแล้ว แต่เพิ่มงาอีกนิดหน่อยแหล่มเลย  อ้อ..จะใช้วิธีย่างครับ คริๆ เพิ่งกินเนื้อแดดเดียวย่างวันงานลูกเขือ หรอยหวาทอดจริงๆ คริๆๆ Grin


 ไหว้ พี่ปื๊ดลองหมักเนื้อติดมันแล้วย่างเลยสิครับ มันวัวอร่อยสุดยอด ทำน้ำจิ้มเผ็ดๆใส่ข้าวคั่วๆหน่อย จิ้มแกล้มเหล้า  น้ำลายหก

เนื้อหมูมันไม่อร่อยอ่ะคับ   Grin
สงสัยว่าพรุ่งนี้คงหาเนื้อไม่ทันครับเบิ้ม  ที่อยู่นี่ไกลปืนเที่ยงครับ  มินิมาร์ทม่ายมี มีแต่ตลาดเล็กๆๆๆๆครับ
อยากกินเนื้อแดดเดียวติดมันย่างแกล้มเบียร์ที่ซู๊ดดด น้ำลายหก น้ำลายหก Grin
บันทึกการเข้า
pscn
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #62492 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2008, 01:28:29 AM »



จักรวาล..คิดว่าใหญ่ที่สุดแล้วสุดท้าย ยังแพ้น้ำมันครอบ...จักรวาล
ง่วงแร๊ะ ...

ราตรีสวัสดิ์ครับพี่น้องเบิ้มครับ    ไหว้ ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า
Padang
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 6061



« ตอบ #62493 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2008, 06:15:15 AM »

อรุณสวัสดิ์ครับ  Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า


พวกเราอยูได้ด้วยพระบารมีปกเกล้าฯ
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #62494 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2008, 06:20:50 AM »

เอารุปมาฝากพี่ปู บ้าง อิอิ ปืนสวยดีนะครับพี่ปู น้องต้อมรออยู่ อิอิ  Grin Grin Grin Grin







ยังรูป  ตอนที่ลุงปู  น้ำตาค้างหนวย  เพราะโดนพรรคพวกรวมหัวกันอำบ้างไหมต้อม ขำก๊าก
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #62495 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2008, 06:34:42 AM »

หลบหน่อยพระเอกมา  Grin Grin Shocked Shocked Shocked Shocked Shocked







เจมส์บอนภาคใหม่นี้ มาถ่ายที่เมืองไทยด้วยหรือครับ น้าต้อม




ทั้งท่านต้อมและท่านสิงห์  ปฎิบัติชอบ  เลื่อนเงินเดือนคนละสองขั้น จูบบบบ
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #62496 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2008, 06:37:41 AM »

^
^
^ พี่เขยเราหล่อมั่กๆ เหมาะสมแร้วว...ที่จะฝากตัวเป็นน้องเขย แผล๊บๆๆ  เยาะเย้ย



ปฎิบัติชอบ  เลื่อนขั้นเงินเดือนหนึ่งขั้น



ป.ล. ที่ไม่ให้สองขั้น  เพราะเดี๋ยวจะมาเป็นคู่แข่งแย่งตำแหน่ง แผล็บ แผล็บ  เหมือนกับลุงเข้มหล่าว    Grin
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #62497 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2008, 06:40:20 AM »

มีบุคคลอื่นใช้ Camfrog Pro code ของคุณ คุณจำเป็นต้องรอ 60 วินาทีเพื่อลงชื่อเข้าใช้ใหม่อีกครั้ง หรือยกเลิกโค๊ดโปรของคุณออก ถ้าคุณคือบุคคลที่ซื้อ Camfrog Pro นี้ กรุณาเข้าไปติดต่อที่เว็บไซน์เรา เราสามารถช่วยคุณได้

ไข่เบี้ยวทำไหรแล้วหล่าวนิ๊  บิ๊วส์อารมณ์แน่ๆเลย  อ๋อย อ๋อย Grin



 ตกใจ ตกใจ ตกใจ



เฮ้ย  งานนี้ไม่เกี่ยวกับผมนะครับพี่ปื๊ด  ตั้งแต่วันที่ผมให้โค๊ดไป  ผมก็ถอนโปรแกรมออกจากเครื่อง  แล้วก็ไม่โผล่เข้าไปในแคมฟร็อคอีกเลยครับพี่  แม้อยากจะย่องเข้าไปหยบแลก็ตาม อ๋อย



ลองวอสิบสามถามท่านชายเจษฎดูครับ  ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร  เผื่อจะมีวิธีแก้ไข Smiley
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 18, 2008, 07:08:49 AM โดย babor » บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #62498 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2008, 06:44:37 AM »

พี่ตุ้ม เหนี่ยวก่อนเลย   Grin Grin Grin..






ชุดนี้หรือเปล่าเอ่ย  ที่ได้ข่าวว่ายิงแล้วไม่ทู่  เยาะเย้ย




ป.ล. หมื่นห้า  ซื้อทั้งม้ายเบี้ยนี้แหละ Grin
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #62499 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2008, 06:48:42 AM »

พี่มานิตย์ครับ ผมสั่งมาสามตัว คำสั่งซื้อล่าสุด 30 2 32 1 ครับ คำสั่งก่อนนั้นยกเลิก คริๆ

ไม่เป็นไร ผมกำลังขายให้ อยู่ครับ 32 กับ 34



ตกลงเอว 36 ไม่มีใช่ไหมครับพี่



เดี๋ยวสิ้นเดือนนี้ผมไปหาดใหญ่  ถ้ายังขายไม่ได้ที เดี๋ยวผมไปลองใส่เอว 34 ดู  ถ้าใส่ได้เดี๋ยวผมค่อยเอาไว้เอง  แต่ถ้ามีใครจะเอาก่อนก็ให้เขาไปได้เลย ไม่ต้องรอครับพี่ Cheesy
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #62500 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2008, 06:50:05 AM »



      จะอะไรก็ไม่รู้แหละ ........ สงสารหนุ่มน้อยเสื้อสีตอง ....... โดดเดี่ยวไร้คู่อยู่เอกา ...... น่าฉงฉาน อิ อิ



รอบนี้ ยอมรับว่าลุงบุญของเรา สว. จริง ๆ เพราะนั่งเอนกที่เก้าอี้เกือบตลอดงาน คิก คิก
บันทึกการเข้า
Padang
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 6061



« ตอบ #62501 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2008, 06:56:26 AM »

หลบหน่อยพระเอกมา  Grin Grin Shocked Shocked Shocked Shocked Shocked



เจมส์บอนภาคใหม่นี้ มาถ่ายที่เมืองไทยด้วยหรือครับ น้าต้อม




ทั้งท่านต้อมและท่านสิงห์  ปฎิบัติชอบ  เลื่อนเงินเดือนคนละสองขั้น จูบบบบ

ฉ้อราษฎร์บังหลวงนี่หว่า เห็นแก่ได้ คอรัปชั่น ไก่ได้พลอย Grin Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า


พวกเราอยูได้ด้วยพระบารมีปกเกล้าฯ
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #62502 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2008, 07:00:52 AM »


ประโยชน์ที่ได้จากการใช้ OM (Outcome Mapping)
OM เป็น การวางแผนเพื่อใช้สำหรับติดตามและประเมินผล ในเรื่อง KM (Knowledge Management) หนึ่งในคำถามที่ถูกถามบ่อยมากก็คือ . . . ทำ KM แล้วได้อะไร? ถ้า “ถามผิด” ถามใหม่ได้นะครับ . . . ผมว่าจริงๆ แล้วน่าจะเปลี่ยนการตั้งคำถามใหม่เป็น . . . ท่านต้องการจะได้อะไร? ต้องการจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไร? . . . จากการใช้ KM

ระยะหลังๆ ผมค่อนข้างเชียร์ให้ผู้ที่คิดจะใช้ KM ทำ “Strategic KM” ก่อน โดยสอนให้นำเทคนิค OM (Outcome Mapping) ไปประยุกต์ใช้ในการวางแผน . . .

สำหรับผู้ที่ยังไม่มั่นใจ ไม่รู้ว่า OM จะมาช่วยอะไรได้ ผมจะขอให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า OM นั้นมีประโยชน์อย่างไรบ้าง เป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้ครับ:

1.    การนำ OM ไปใช้วางแผน จะทำให้ได้เห็นเป้าหมายที่ชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้นว่า . . . เรากำลังทำ KM นี้ไปเพื่ออะไร? อะไรคือสิ่งที่ต้องการจะได้? อะไรคือภาพ (อันพึงปรารถนา) ที่ต้องการจะเห็น?

2.    จากภาพที่มีอยู่ในใจ (วิสัยทัศน์) ในข้อ 1 นี้ กระบวนการ OM ทำให้เราต้องคิดต่อไปว่า . . . แล้วเราจะต้อง “ทำอะไร” เพื่อให้วิสัยทัศน์ที่ว่านี้เป็นจริงขึ้นมา อะไรคือสิ่งสำคัญหลักๆ ที่เราจะต้องทำ? อะไรคือ “พันธกิจ” ที่เราจะต้องทำให้สำเร็จ ?

3.    หากพันธกิจที่คิดไว้ในข้อ 2 เป็นสิ่งที่ต้องใช้พลังอันหลากหลาย ไม่สามารถทำคนเดียวได้ OM สอนให้เรามองหา “เพื่อนร่วมเดินทาง - Partners” ต้องหา Partners ที่พร้อมลุยไปกับเรา พร้อมที่จะเข้าคลุกวงใน ซึ่งผมมักจะใช้คำว่า “Direct Partners” อีกทั้งต้องหา  Partners ที่คอยส่งเสริมสนับสนุน คอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ช่วยวาง Strategy ที่ภาษา OM เรียกว่า “Strategic Partners”

4.    เมื่อได้ Direct Partners (DP) มาแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือการสร้าง “ความท้าทาย” ให้กับ Direct Partners ทั้งหลายเหล่านั้น ความท้าทายที่ว่านี้ถ้าจะให้ดีต้องเป็น “ผลลัพธ์” ที่ออกมาในเชิงพฤติกรรม เป็นพฤติกรรม เป็นศักยภาพที่พึงปรารถนา หรือจะเรียกว่าเป็นความสามารถของ DP ที่เราเห็นร่วมกันว่าเป็นสิ่งที่ “จำเป็น” ต่อการทำให้พันธกิจนั้นบรรลุความสำเร็จ ในภาษา OM เรียกสิ่งนี้ว่า “Outcome Challenges”

5.    แต่กระบวนการ OM ก็ไม่ได้หยุดแค่นั้น ยังคิดต่อไปอีกด้วยว่าถ้าจะให้ได้ Outcome ตามที่ว่า (ในข้อ 4) นั้น ตัวเรา และ Strategic Partners ของเราจะมี  Strategy อะไรบ้าง? อีกทั้งยังมีการตั้งคำถามต่อไปว่า . . .  ถ้าจะให้เกิด Strategy เหล่านี้ดำเนินไปได้องค์กรจะต้องมี OP (Organizational Practices) คือจะต้องมีแนวปฏิบัติในองค์กรอย่างไรจึงจะก่อให้เกิดการเสริมหนุน Strategy เหล่านั้น

6.    จากข้อ 1-5 ที่ผ่านมา บางท่านอาจคิดว่านั่นคือ “หัวใจ” ของ OM . . . ซึ่งต้องขอบอกว่ายังไม่ถูกต้องนัก เพราะหลักของ OM คือการวางแผนเพื่อใช้สำหรับติดตามและประเมินผล (Monitoring & Evaluation) ที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า M&E แต่ OM เป็นการทำ M&E ที่เน้นการเรียนรู้และการพัฒนางาน ไม่ใช่การทำ M&E ที่ต้องการบอกเพียงว่า “Pass หรือ Fail”


ผมหวังว่าประโยชน์ทั้ง 6 ข้อข้างต้น คงจะเพียงพอที่จะทำให้หลายคนหันมาสนใจเรื่องการใช้ OM นะครับ








เหมือนกับการวางแผน วาดเส้นสายลายแทง แจกแจงสิ่งที่จะได้รับ ให้เห็นลักษณะก่อนดำเนินการ  เช่นเดียวกับการทำมายแม็พเพื่อสอนหนังสือหรือเปล่า  เพราะเมื่อก่อนเรื่องมายแม็พจะดังมาก ๆ ในสายงานการศึกษา แล้วหลัง ๆ ก็เริ่มได้ยินจากวงสายงานอื่น ๆ



ป.ล.๑   กระทรวงฯ เราถนัดอยู่แล้วเรื่องการสร้างภาพ  เมคหลักฐาน  จนทุกวันนี้ไม่รู้ว่ามันให้เราสอนหนังสือนักเรียน หรือ ให้เราทำเอกสารไว้ให้พวกมันตรวจโดยที่มันก็รู้ว่าหลอก บู่


ป.ล.๒   ว่าแต่ น่าถีบจัง คนที่เขียนประโยคนี้   ไทยมั้งหรั่งมั้ง  สงสัยมันจะอธิบายให้คนเข้าใจโดยใช้ภาษาไทยทั้งหมดไม่เป็น  เลยไทยมั้งหรั่งมั้งเพื่อให้คนเวียนหัว Grin
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #62503 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2008, 07:02:28 AM »


ประโยชน์ที่ได้จากการใช้ OM (Outcome Mapping)
OM เป็น การวางแผนเพื่อใช้สำหรับติดตามและประเมินผล ในเรื่อง KM (Knowledge Management) หนึ่งในคำถามที่ถูกถามบ่อยมากก็คือ . . . ทำ KM แล้วได้อะไร? ถ้า “ถามผิด” ถามใหม่ได้นะครับ . . . ผมว่าจริงๆ แล้วน่าจะเปลี่ยนการตั้งคำถามใหม่เป็น . . . ท่านต้องการจะได้อะไร? ต้องการจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไร? . . . จากการใช้ KM

ระยะหลังๆ ผมค่อนข้างเชียร์ให้ผู้ที่คิดจะใช้ KM ทำ “Strategic KM” ก่อน โดยสอนให้นำเทคนิค OM (Outcome Mapping) ไปประยุกต์ใช้ในการวางแผน . . .

สำหรับผู้ที่ยังไม่มั่นใจ ไม่รู้ว่า OM จะมาช่วยอะไรได้ ผมจะขอให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า OM นั้นมีประโยชน์อย่างไรบ้าง เป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้ครับ:

1.    การนำ OM ไปใช้วางแผน จะทำให้ได้เห็นเป้าหมายที่ชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้นว่า . . . เรากำลังทำ KM นี้ไปเพื่ออะไร? อะไรคือสิ่งที่ต้องการจะได้? อะไรคือภาพ (อันพึงปรารถนา) ที่ต้องการจะเห็น?

2.    จากภาพที่มีอยู่ในใจ (วิสัยทัศน์) ในข้อ 1 นี้ กระบวนการ OM ทำให้เราต้องคิดต่อไปว่า . . . แล้วเราจะต้อง “ทำอะไร” เพื่อให้วิสัยทัศน์ที่ว่านี้เป็นจริงขึ้นมา อะไรคือสิ่งสำคัญหลักๆ ที่เราจะต้องทำ? อะไรคือ “พันธกิจ” ที่เราจะต้องทำให้สำเร็จ ?

3.    หากพันธกิจที่คิดไว้ในข้อ 2 เป็นสิ่งที่ต้องใช้พลังอันหลากหลาย ไม่สามารถทำคนเดียวได้ OM สอนให้เรามองหา “เพื่อนร่วมเดินทาง - Partners” ต้องหา Partners ที่พร้อมลุยไปกับเรา พร้อมที่จะเข้าคลุกวงใน ซึ่งผมมักจะใช้คำว่า “Direct Partners” อีกทั้งต้องหา  Partners ที่คอยส่งเสริมสนับสนุน คอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ช่วยวาง Strategy ที่ภาษา OM เรียกว่า “Strategic Partners”

4.    เมื่อได้ Direct Partners (DP) มาแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือการสร้าง “ความท้าทาย” ให้กับ Direct Partners ทั้งหลายเหล่านั้น ความท้าทายที่ว่านี้ถ้าจะให้ดีต้องเป็น “ผลลัพธ์” ที่ออกมาในเชิงพฤติกรรม เป็นพฤติกรรม เป็นศักยภาพที่พึงปรารถนา หรือจะเรียกว่าเป็นความสามารถของ DP ที่เราเห็นร่วมกันว่าเป็นสิ่งที่ “จำเป็น” ต่อการทำให้พันธกิจนั้นบรรลุความสำเร็จ ในภาษา OM เรียกสิ่งนี้ว่า “Outcome Challenges”

5.    แต่กระบวนการ OM ก็ไม่ได้หยุดแค่นั้น ยังคิดต่อไปอีกด้วยว่าถ้าจะให้ได้ Outcome ตามที่ว่า (ในข้อ 4) นั้น ตัวเรา และ Strategic Partners ของเราจะมี  Strategy อะไรบ้าง? อีกทั้งยังมีการตั้งคำถามต่อไปว่า . . .  ถ้าจะให้เกิด Strategy เหล่านี้ดำเนินไปได้องค์กรจะต้องมี OP (Organizational Practices) คือจะต้องมีแนวปฏิบัติในองค์กรอย่างไรจึงจะก่อให้เกิดการเสริมหนุน Strategy เหล่านั้น

6.    จากข้อ 1-5 ที่ผ่านมา บางท่านอาจคิดว่านั่นคือ “หัวใจ” ของ OM . . . ซึ่งต้องขอบอกว่ายังไม่ถูกต้องนัก เพราะหลักของ OM คือการวางแผนเพื่อใช้สำหรับติดตามและประเมินผล (Monitoring & Evaluation) ที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า M&E แต่ OM เป็นการทำ M&E ที่เน้นการเรียนรู้และการพัฒนางาน ไม่ใช่การทำ M&E ที่ต้องการบอกเพียงว่า “Pass หรือ Fail”


ผมหวังว่าประโยชน์ทั้ง 6 ข้อข้างต้น คงจะเพียงพอที่จะทำให้หลายคนหันมาสนใจเรื่องการใช้ OM นะครับ






พวกขายฝัน แพงน๊ะนั่น




แพงเท่าไร ไม่ต้องกลัวครับท่านเบิ้ม.....   เซ็นพุ่ง ไม่จ่ายสด ยิ้มีเลศนัย
บันทึกการเข้า
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #62504 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2008, 07:04:03 AM »

พี่เข้มครับ

เสื้อที่ส่งมาให้ ได้รับแล้วครับ ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณครับ

ปล. ตอนนี้ทางเหนือเริ่มหนาวแล้วนะครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
หน้า: 1 ... 4164 4165 4166 [4167] 4168 4169 4170 ... 35779
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.096 วินาที กับ 22 คำสั่ง