เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 28, 2024, 05:34:39 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 4539 4540 4541 [4542] 4543 4544 4545 ... 35779
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อนคอปืน...ด้ามขวาน  (อ่าน 25937594 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 244 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #68115 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2008, 03:47:32 PM »

สวัสดีครับ  วันนี้เกือบงานเข้าซะแล้ว   เจอแบงค์ 1,000 ปลอม

ดีที่รีบเอาไปเปลี่ยนกะลูกค้าทัน.......ฮาย ไงๆก็ระวังกันบ้างนะครับ.......

น้าหลวงทุกท่านครับ

ระบาดมาถึงใต้แล้วหรือครับเนี้ย  โดนชก โดนชก โดนชก
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #68116 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2008, 03:49:07 PM »



แล้วของผม ไฉนจึงผ่อนละครับ  คิก คิก



ผ่อนนี้นัก  วันนี้เลยเดินขึ้นอำเภอ  ไปยื่นเรื่องขอ ปืน ค.  ไว้ยิงหลังคาเรินมันอยู่ Grin



การเลิกจ้าง
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑
เรียบเรียงโดย นายสิงห์กลิ้ง

                จากภาวะเศรษฐกิจขาลงช่วงนี้ แถวยังมีวิกฤตการเมืองที่ยังไม่แน่นอนมั่นคง ยอดสั่งซื้อสินค้าจากประเทศไทยลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลทำให้เราได้ยินข่าวบ่อยๆว่าโรงงานนู้นปิด โรงงานนี้ลดคนงาน บริษัทนี้ปิดกิจการ ซึ่งส่งผลทำให้ผู้ใช้แรงงานตกงานกันเป็นแถว (ไม่นับที่จบมาใหม่แต่ไม่มีงานรองรับ ) วันนี้จึงเอากฎหมายเกี่ยวกับการเลิกจ้างงาน มาคุยกัน เผื่อเราหรือบุคคลที่เรารู้จักเจอสถานการณ์นี้โดยไม่คาดหมาย

๑.การเลิกจ้างหมายถึงอะไร ?
       การเลิกจ้าง หมายถึง การกระทำใดที่นายจ้างไม่ให้ลูกจ้างทำงานต่อไปและไม่จ่ายค่าจ้างให้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุสิ้นสุดสัญญาจ้างหรือเหตุอื่นใด และหมายความรวมถึงกรณีที่ลูกจ้างไม่ได้ทำงานและไม่ได้รับค่าจ้างเพราะเหตุที่นายจ้างไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไป ( มาตรา๑๑๘ วรรคสอง พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ )
ดังนั้นจากบทกฎหมายดังกล่าวเราสามารถแยกการเลิกจ้างออกได้ดังนี้

(๑) การกระทำใดๆที่นายจ้างไม่ให้ลูกจ้างทำงานต่อไปและไม่จ่ายค่าจ้างให้ ไม่ว่าเพราะเหตุสิ้นสุดสัญญาจ้างหรือเหตุอื่นใด เช่น ไล่ออก ปลดออก พักงานโดยไม่มีกำหนด ไม่รับเข้าทำงานเนื่องจากไม่ผ่านการทดลองงาน ทั้งนี้ข้อสำคัญก็คือนายจ้างจะต้องไม่จ่ายค่าจ้างให้ด้วย หากนายจ้างไม่ให้ลูกจ้างมาทำงาน แต่ยังคงจ่ายค่าจ้างตามเดิมหรือน้อยกว่าเดิม ไม่ถือเป็นการเลิกจ้างตามกฎหมาย

(๒) กรณีใดๆที่ลูกจ้างไม่ได้ทำงานและไม่ได้รับค่าจ้าง เพราะเหตุที่นายจ้างไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไป เช่น นายจ้างปิดกิจการ หรือกิจการของนายจ้างล้ม ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ทั้งนี้ข้อสำคัญก็คือนายจ้างจะต้องไม่จ่ายค่าจ้างให้ด้วย หากนายจ้างไม่สามารถเปิดกิจการได้เพราะ เจ้าของอาคารที่เช่าทำการปิด มีการเวนคืนอาคารสำนักงานเพื่อทำถนน แต่นายจ้างยังคงจ่ายค่าจ้างตามเดิมหรือน้อยกว่าเดิม ไม่ถือเป็นการเลิกจ้างตามกฎหมาย

๒. การเลิกจ้างตามกฎหมาย มีวิธีการอย่างใด ?
        ตามกฎหมายแล้ว การเลิกจ้างงานนั้น นายจ้างจะบอกเลิกจ้างทันทีไม่ได้ ต้องบอกกล่าวว่าจะเลิกจ้างล่วงหน้าก่อนหนึ่งงวดค่าจ้าง กล่าวคือ หากท่านได้รับค่าจ้างเป็นเดือน นายจ้างจะต้องบอกเลิกจ้างล่วงหน้า ๑ งวดเงินเดือน หากได้รับค่าจ้างในอัตรา ๑๕ วันครั้ง นายจ้างก็ต้องบอกเลิกจ้างล่วงหน้า ๑๕ วันนั้นเอง เช่น
         ผมได้รับเงินเดือนในอัตรา ๒๐,๐๐๐ บาท ต่อเดือน โดยนายจ้างตกลงจ่ายเงินเดือนทุกวันที่ ๓๐ ของทุกเดือน ต่อมา เดือนสิงหาคม ๒๕๕๑ นายจ้างผมเผชิญวิกฤต ทำให้ต้องเลิกจ้างคนงานรวมถึงผมด้วย พอถึงวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๑ ซึ่งเป็นวันจ่ายเงินเดือนผม นายจ้างจะต้องแจ้งว่าจะเลิกจ้างผมในวันนี้ด้วย เมื่อถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๑ ผมก็รับเงินเดือนงวดสุดท้ายและถูกเลิกจ้างทันทีโดยอัตโนมัติ และไม่ต้องมาทำงานอีกต่อไป


๓. หากนายจ้างเลิกจ้างเราทันทีโดยไม่บอกกล่าว และเราไม่มีความผิดในการงานที่จ้าง ผลทางกฎหมายเป็นอย่างไร ?
       ในกรณีที่นายจ้างทำการบอกเลิกจ้างทันทีโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้าตามกฎหมาย และเหตุที่เลิกจ้างเรานั้นไม่ได้เกิดจากการกระทำผิดในการงานที่จ้างของเราแล้ว นายจ้างจะต้องจ่ายสินค่าจ้างแทนการบอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้าเท่ากับ ๑ งวดค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างด้วย
         จากข้อเท็จข้างต้น ปรากฏว่าในวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๑ นายจ้างผมทำการเลิกจ้างผมทันทีโดยไม่ได้บอกล่วงหน้าเลย และมอบซองขาวให้ผม ในซองขาวนั้นจะต้องมีเงินอยู่ในซองขาวของผมประกอบด้วย เงินเดือนประจำของผม ๒๐,๐๐๐ บาท และเงินค่าจ้างแทนการบอกกล่าว อีก ๒๐,๐๐๐ บาท ในซองนั้นด้วย

๔. นอกจากเงินเดือน และเงินค่าจ้างแทนการบอกกล่าวแล้ว ลูกจ้างซึ่งถูกนายจ้างเลิกจากจะได้รับเงินอื่นอีกหรือไม่ ? 
        นอกจากเงินเดือน และเงินค่าจ้างแทนการบอกกล่าวแล้ว ลูกจ้างซึ่งถูกนายจ้างเลิกจากจะได้รับเงินอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งกฎหมายได้กำหนดให้นายจ้างจะต้องจ่ายให้แก่ลูกจ้างซึ่งถูกเลิกจ้าง เรียกว่า “ค่าชดเชยการเลิกจ้างงาน” อีกด้วย ( พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๑๑๘ วรรคหนึ่ง )

        จำนวนเงินค่าชดเชยที่จะได้รับนั้น แต่ละคนจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ตนได้ทำงานในบริษัทหรือหน่วยงานนั้นๆ ซึ่งกฎหมายได้กำหนดไว้ดังต่อไปนี้
(๑) ทำงานติดต่อกันไม่น้อยกว่า ๑๒๐ วัน ( สี่เดือน ) แต่ไม่เกิน ๑ ปี ให้ได้รับค่าชดเชยการเลิกจ้างงาน เท่ากับค่าจ้างในอัตราสุดท้าย  ๑ เดือน
(๒) ทำงานติดต่อกันครบ ๑ ปี แต่ไม่เกิน ๓ ปี ให้ได้รับค่าชดเชยการเลิกจ้างงาน เท่ากับค่าจ้างในอัตราสุดท้าย ๓ เดือน
(๓) ทำงานติดต่อกันครบ ๓ ปี แต่ไม่เกิน ๖ ปี ให้ได้รับค่าชดเชยการเลิกจ้างงาน เท่ากับค่าจ้างในอัตราสุดท้าย ๖ เดือน
(๔) ทำงานติดต่อกันครบ ๖ ปี แต่ไม่เกิน ๑๐ ปี ให้ได้รับค่าชดเชยการเลิกจ้างงาน เท่ากับค่าจ้างในอัตราสุดท้าย ๘ เดือน
(๕) ทำงานติดต่อกันครบ ๑๐ ปี ขึ้นไป ให้ได้รับค่าชดเชยการเลิกจ้างงาน เท่ากับค่าจ้างในอัตราสุดท้าย ๑๐ เดือน

๕. กรณีใดบ้างที่นายจ้างไม่ต้องจ่ายเงิน “ค่าชดเชยการเลิกจ้างงาน” ?
        แม้โดยทั่วไปกฎหมายกำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชย ให้แก่ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างตามอัตราที่กำหนดก็ตาม แต่กฎหมายก็มีข้อยกเว้นที่ให้นายจ้าง ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างในกรณีดังต่อไปนี้

(๑) การเลิกจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้ในสัญญาจ้างแน่นอนและนายจ้างได้เลิกจ้างลูกจ้างตามกำหนดระยะเวลานั้น ( พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๑๑๘ วรรคสาม ) กล่าวคือ ในขณะที่ตกลงจ้างนั้น นายจ้างและลูกจ้างได้ตกลงกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอน ๑ ปี ๒ ปี หรือแล้วแต่ตกลง และพอครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวให้ถือว่าสัญญาว่าจ้างเป็นอันยกเลิกกัน ในกรณีนี้นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้าง เพราะถือว่าลูกจ้างรู้ตัวว่าตนเองต้องถูกเลิกจ้างตามกำหนดระยะเวลาล่วงหน้ามาก่อนแล้ว เนื่องจาก เงินค่าชดเชยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกจ้างซึ่งถูกเลิกจ้าง ( แน่นอนว่าไม่มีใครยินยอมตกงานแน่ ) ใช้เป็นทุนค่าใช้จ่ายในระหว่างหางานใหม่  ดังนั้นลูกจ้างซึ่งมีการตกลงเลิกจ้างไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงรู้อยู่แล้วว่าตนต้องถูกเลิกจ้างเมื่อครบกำหนดตามสัญญา จึงไม่ได้รับค่าชดเชยในส่วนนี้

       มีบางกรณี มีนายจ้างหัวใสเห็นว่าหากลูกจ้างซึ่งมีสัญญาจ้างแรงงานมีกำหนดระยะเวลาแน่นอน เมื่อเลิกจ้างนายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้าง จึงจับลูกจ้างทำสัญญาจ้างแรงงานมีกำหนดระยะเวลาและลูกจ้างเองก็ตกลงที่จะถูกเลิกจ้างเมื่อครบกำหนดระยะเวลาตามสัญญาด้วย  แต่พอถึงกำหนดตามสัญญา นายจ้างยังคงให้ลูกจ้างนั้นทำงานต่อไปอีก แล้วภายหลังทำการเลิกจ้างและไม่ยอมจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างโดยอ้างว่า เป็นลูกจ้างแบบมีกำหนดระยะเวลาทำงาน นายจ้างในกรณีแบบนี้จะต้องจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้างประเภทนี้หรือไม่ คำตอบคือต้องจ่าย เพราะกฎหมายได้ระบุไว้ชัดเจนว่า การเลิกจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้ในสัญญาจ้างแน่นอนและนายจ้างได้เลิกจ้างลูกจ้างตามกำหนดระยะเวลาเท่านั้น ที่ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย ดังนั้นในกรณีที่นายจ้างเลิกจ้างก่อนหรือหลังกำหนดที่ตกลงกันไว้ นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้างด้วย

(๒) เลิกจ้างเพราะสาเหตุที่ลูกจ้างทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง (พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๑๑๙ อนุ (๑) )

(๓) เลิกจ้างเพราะสาเหตุที่ลูกจ้างจงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหายแก่กาย ทรัพย์สินจิตใจ หรือชื่อเสียง (พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๑๑๙ อนุ (๒) )

(๔) เลิกจ้างเพราะสาเหตุที่ลูกจ้างกระทำโดยประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้นายจ้าง ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง (พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๑๑๙ อนุ (๓) )

(๕) เลิกจ้างเพราะสาเหตุที่ลูกจ้างฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน หรือระเบียบ หรือคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม และนายจ้างได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว เว้นแต่ในกรณีที่ร้ายแรง นายจ้างไม่จำเป็นต้องตักเตือนก่อนก็ได้ (พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๑๑๙ อนุ (๔) )

       ในกรณีที่ลูกจ้าง ได้กระทำการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน หรือระเบียบ หรือคำสั่งของนายจ้างที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมนั้น กฎหมายกำหนดให้นายจ้างต้องมีหนังสือตักเตือนก่อน หากลูกจ้างยังไม่ปฏิบัติตาม นายจ้างมีสิทธิบอกเลิกการจ้างงานและไม่จำต้องจ่ายค่าชดเชยให้ แต่อย่างไรก็ดี ในกรณีนี้กฎหมายได้กำหนดให้หนังสือตักเตือนดังกล่าวมีผลใช้บังคับได้ ไม่เกิน ๑ ปี นับแต่วันที่ลูกจ้างได้กระทำความผิด ดังนั้นหากลูกจ้างได้รับหนังสือตักเตือนแล้ว ปรับปรุงตัวตามหนังสือเตือน จนพ้น ๑ ปี นับแต่วันที่ลูกจ้างกระทำการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน หรือระเบียบ หรือคำสั่งของนายจ้างที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม แล้วต่อมากลับมากระทำการฝ่าฝืนอีก นายจ้างจะทำการเลิกจ้างทันทีไม่ได้ ต้องออกหนังสือตักเตือนใหม่ให้แก่ลูกจ้าง แต่ถ้าภายในหนึ่งปี นับได้ออกหนังสือตักเตือนฉบับแรก ลูกจ้างยังคงกระทำการฝ่าฝืนอีก นายจ้างก็มีสิทธิบอกเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้าง

(๖) เลิกจ้างเพราะสาเหตุที่ลูกจ้าง จงใจละทิ้งหน้าที่การงานเป็นเวลาสามวันติดต่อกันไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ก็ตามโดยไม่มีเหตุอันสมควร แต่เมื่อนับแล้วเท่ากับสามวันทำงานติดต่อกัน(พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๑๑๙ อนุ (๕) )

(๗) เลิกจ้างเพราะสาเหตุที่ลูกจ้าง ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้ กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ (พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๑๑๙ อนุ (๖) )

--------------------------------------------------------------------------------------

เอามาฝากพี่เข้มครับ  Grin Grin







บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #68117 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2008, 03:51:02 PM »



 คิก คิก คิก คิกอายจัง...555ไม่สวยเพียงครึ่ง...แต่...ตัวน้องเค้าไม่ได้ครึ่งของออยล์ต่างหากค่ะ

(  อย่าดูแต่หน้าตาสิ
...หนุ่ม )..ต้องดูที่ความจริงใจ....คับเจ้านาย.....ย กิ๊วก๊าว



พี่หลวงกาหลง คิดเหมือนผมไหมครับ คิก คิก Grin
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #68118 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2008, 03:52:01 PM »


babor, @SingCring, หลวงกาหลง, ชายเจษฎ์, ฅนต้นน้ำ, หรอย, Sig228-kolok, Pandanus, manithatyai, พจน์ กำลังดูหัวข้อนี้




ทำงาน ทำการ กันมั้งเหอพี่น้องเหอ
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #68119 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2008, 03:53:11 PM »

V
V
V
กิ๊กโผ๊ม

บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #68120 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2008, 03:54:01 PM »

ไหว้สวัสดีค่ะ...พี่@SingCringwut+พี่แพะ+พี่ปื๊ด+พี่มานิต(ถูกป่าวค่ะ)555


ทำไรกันอยู่ค่ะ..พี่ๆ.......ทานข้าวยัง....นู๋ออยล์ยังไม่ทานเลย(อ้วนเป็นหมูแล้ว)

 
ดูแลตัวเองบ้างนะค่ะและคนที่พี่ๆรักด้วยค่ะ  อย่ามัวแต่จีบสาวๆอยู่นะ(คนที่บ้านจะโกรธ)5555.. คิก คิก ไหว้ ไหว้


หวัดดีครับ....จริง ๆ แล้วอยากดูเป้า.......ปืน....โชว์มั่งต๊ะ น้ำลายหก น้ำลายหก

 น้ำลายหก น้ำลายหก

 ไหว้พี่มานิตค่ะ...มันเป็นสิ่งที่ไม่น่าดูอย่าง...แลงเลย เศร้าขอฝึกหลายๆครั้งก่อนแล้วจะเอาไปโชว์ เยี่ยม

แล้วฝึกยิงที่ไหน.....ว่าง ๆ เข้ามาสนามหาดใหญ่มั่งตะ....ตอนนี้สนามโล่ง....มาโชว์ฝีมือได้เลย...ครับ ยิ้มีเลศนัย ยิ้มีเลศนัย ยิ้มีเลศนัย



อย่ามาแย่งขนมน้องหล่าวต้า บู่
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #68121 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2008, 03:55:03 PM »

บอกเขาไปสิ  ว่า เนี่ย  เป้าลูกซอง ยิ้มีเลศนัย
ขออภัย เบิ่ง ครับฉ็อง

น้องออยล์ อธิบายด้วยครับ เยี่ยม










ถ้าลองได้ยิง USPC รับรอง จะติดใจ น้ำลายหก Grin
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #68122 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2008, 03:56:28 PM »

สวัสดีครับ  วันนี้เกือบงานเข้าซะแล้ว   เจอแบงค์ 1,000 ปลอม

ดีที่รีบเอาไปเปลี่ยนกะลูกค้าทัน.......ฮาย ไงๆก็ระวังกันบ้างนะครับ.......

น้าหลวงทุกท่านครับ



โชคดีครับที่พี่หรอยดูทัน เยี่ยม





ว่าแต่  ใครรู้บ้างว่าแบงค์ปลอมเขาขายที่ไหน   ผมจะเอาไปซื้อของกับพี่ปื๊ดซะหน่อย คิก คิก
บันทึกการเข้า
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #68123 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2008, 03:57:14 PM »



วิธีดูธนบัตรปลอม สังเกตธนบัตรปลอม ด้วยการสัมผัส - เพื่อสัมผัส ตรวจสอบคุณสมบัติของกระดาษและลวดลายเส้นนูน

กระดาษธนบัตร

ธนบัตร รัฐบาลทำจากกระดาษที่มีใยฝ้ายเป็นส่วนประกอบหลัก จึงมีความแกร่ง ทนทาน และไม่ยุ่ยง่าย เมื่อจับสัมผัสจะให้ความรู้สึกแตกต่างจากกระดาษทั่วไป ธนบัตรปลอมทำจากกระดาษคุณภาพต่ำ เมื่อถูกใช้เปลี่ยนมือเพียงไม่กี่ครั้งเนื้อกระดาษก็จะนิ่มเป็นขุยและยุ่ย ง่าย

" border="0 " border="0 " border="0
ดอกฝ้าย : วัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตกระดาษธนบัตร

" border="0 " border="0
เมื่อจับสัมผัสจะรู้สึกถึงความแกร่งของเนื้อกระดาษ

   
ลวดลายเส้นนูน

          เกิดจากการพิมพ์เส้นนูนโดยใช้แม่พิมพ์ที่มีร่องหมึกลึกและใช้แรงกดพิมพ์สูงหมึก พิมพ์จึงนูนขึ้นมาจากเนื้อกระดาษ อีกทั้งภาพและลายเส้นที่ได้จะมีรายละเอียดคมชัด เหมาะสำหรับการพิมพ์ภาพประธาน เช่น พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ หรือส่วนที่ต้องการเน้นให้เด่นชัด  ลวดลายเส้นนูนสามารถสัมผัสและรู้สึกได้ที่ตัวเลขแจ้งชนิดราคามุมขวาบน ตัวอักษรคำว่า รัฐบาลไทย ตัว อักษรและตัวเลขไทยแจ้งชนิดราคาด้านหน้าธนบัตร เมื่อใช้ปลายนิ้วมือลูบสัมผัสบริเวณดังกล่าว จะรู้สึกถึงการนูนของหมึกพิมพ์มากกว่าบริเวณอื่น
 
" border="0
พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ที่เกิดจากการพิมพ์เส้นนูน
จะมีลายเส้นละเอียดคมชัด

" border="0
ภาพขยายลวดลายเส้นนูน

" border="0
เมื่อสัมผัสด้วยปลายนิ้วมือจะรู้สึกถึงการนูนของหมึกพิมพ์

ที่มา: <a href="http://www.bot.or.th/Thai/Banknotes/production_and_security/Pages/1_method.aspx" target="_blank">ธนาคารแห่งประเทศไทย[/url]

วิธีดูธนบัตรปลอม สังเกตธนบัตรปลอม ด้วยการยกส่อง - เพื่อสังเกตสิ่งที่อยู่ในเนื้อกระดาษและลวดลายซ้อนทับ

ลายน้ำ
เมื่อ ยกธนบัตรรัฐบาลขึ้นส่องดูกับแสงสว่าง จะเห็นลายน้ำพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างชัดเจน ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ภาพลายน้ำนี้เกิดขึ้นในขั้นตอนการผลิตกระดาษที่ทำให้เนื้อกระดาษมีความหนา แน่นไม่เท่ากัน จึงทำให้เห็นเป็นภาพที่มีการไล่ระดับของแสงเงาอ่อนแก่คล้ายภาพสามมิติ ไม่ใช่ภาพแบนราบเหมือนธนบัตรปลอมที่เลียนแบบด้วยการพิมพ์ภาพลงบนผิวกระดาษ นอกจากลายน้ำพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้วยังมีลาย น้ำรูปลายไทยที่มีความโปร่งแสงเป็นพิเศษประดับควบคู่ไว้อีกด้วย

" border="0

" border="0
การยกธนบัตรส่องกับแสงสว่าง&nbsp; และภาพที่ปรากฎเมื่อยกธนบัตรชนิดราคา ๕๐๐ บาท ส่องกับแสงสว่าง

&nbsp; &nbsp;
แถบสีโลหะในเนื้อกระดาษ
&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; ธนบัตรรัฐบาลทุกชนิดราคามีแถบสีโลหะฝัง ในเนื้อกระดาษตามแนวตั้งบนแถบมีตัวเลขและตัวอักษรโปร่งแสงขนาดเล็กแจ้งชนิด ราคาธนบัตรสามารถมองเห็นและอ่านได้ทั้งสองด้านเมื่อยกธนบัตรส่องดูกับแสง สว่าง

" border="0
&nbsp;
&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; สำหรับธนบัตรชนิดราคา ๕๐๐ บาท และ ๑๐๐๐ บาท จะมีบางส่วนของแถบสีโลหะปรากฎให้เห็นเป็นระยะ ๆ ที่ด้านหลังของธนบัตร เมื่อยกขึ้นส่องดูกับแสงสว่างจะเห็นเป็นเส้นต่อเนื่อง มีตัวเลขและอักษรโปร่งแสงขนาดเล็กแจ้งชนิดราคาธนบัตรเช่นเดียวกัน

" border="0
ภาพขยายตัวเลขและอักษรโปร่งแสงบนแถบสีโลหะในเนื้อกระดาษธนบัตรชนิดราคา ๕๐๐ บาท และ ๑๐๐๐ บาท
&nbsp; &nbsp; &nbsp;
ภาพซ้อนทับ
&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; เกิดจากการพิมพ์สีพื้น ด้วยเครื่องพิมพ์ที่สามารถพิมพ์ภาพได้ทั้งสองด้านในเวลาเดียวกัน ทำให้ส่วนของลวดลายที่ออกแบบไว้ในตำแหน่งตรงกันของด้านหน้าและด้านหลัง ธนบัตรทับกันสนิทหรือประกอบกันขึ้นเป็นลวดลายหรือภาพที่สมบูรณ์

" border="0
เมื่อส่องกับแสงสว่างลวดลายทั้งสองด้านจะซ้อนทับกันเป็นเลข 100 ที่สมบูรณ์

" border="0
เมื่อส่องกับแสงสว่างลวดลายทั้งสองด้านจะซ้อนทับกันเป็นรูปดอกพุดตานที่สมบูรณ์

" border="0
เมื่อส่องกับแสงสว่างลวดลายทั้งสองด้านจะซ้อนทับกันเป็นรูปดอกบัวที่สมบูรณ์

ที่มา: <a href="http://www.bot.or.th/Thai/Banknotes/production_and_security/Pages/2_method.aspx" target="_blank">ธนาคารแห่งประเทศไทย[/url]


                  
      วิธีดูธนบัตรปลอม สังเกตธนบัตรปลอม ด้วยการพลิกเอียง - พลิกเอียง เพื่อสังเกตการเปลี่ยงแปลงที่เกิดขึ้น

หมึกพิมพ์พิเศษสลับสี

" border="0

ที่ตัวเลขแจ้งราคามุมขวาบนของธนบัตรชนิดราคา ๕๐๐ บาท และ ๑๐๐๐ บาท พิมพ์ด้วยหมึกชนิดพิเศษ เมื่อพลิกธนบัตรไปมาสีของตัวเลข 500 จะเปลี่ยนสลับจากสีเขียวเป็นสีม่วง ส่วนสีของตัวเลข 1000 ด้านบนจะเปลี่ยนสลับจากสีทองเป็นสีเขียว

แถบฟอยล์สีเงิน

" border="0

&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;ผนึกอยู่บนด้านหน้าเบื้องซ้ายของธนบัตรชนิดราคา ๑๐๐ บาท&nbsp; ๕๐๐ บาท และ ๑๐๐๐ บาท จะมองเห็นเป็นหลายมิติแตกต่างกันตามชนิดราคา และจะเปลี่ยนสีสะท้อนแสงวาววับ เมื่อพลิกเอียงธนบัตรไปมา
&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;
ตัวเลขแฝง

" border="0

&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; ซ่อนอยู่ในลายประดิษฐ์มุม ล่างซ้ายของธนบัตรทุกชนิดราคา เมื่อยกธนบัตรเอียงเข้าหาแสงสว่างและมองผ่านจากมุมล่างซ้ายเข้าหากึ่งกลาง ธนบัตรในมุมที่เหมาะสม จะเห็นตัวเลขอารบิกแจ้งชนิดราคาธนบัตรฉบับนั้น

ที่มา: <a href="http://www.bot.or.th/Thai/Banknotes/production_and_security/Pages/3_method.aspx" target="_blank">ธนาคารแห่งประเทศไทย[/url]
                              

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 24, 2008, 03:59:12 PM โดย @SingCring » บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #68124 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2008, 03:57:38 PM »

สวัสดีครับ  วันนี้เกือบงานเข้าซะแล้ว   เจอแบงค์ 1,000 ปลอม

ดีที่รีบเอาไปเปลี่ยนกะลูกค้าทัน.......ฮาย ไงๆก็ระวังกันบ้างนะครับ.......

น้าหลวงทุกท่านครับ

ระบาดมาถึงใต้แล้วหรือครับเนี้ย  โดนชก โดนชก โดนชก



สิงห์  รับว่าความไหม   ผมได้เงินมามัดหนึ่ง  แต่เป็นแบงค์อย่างเดียว   ไม่ต้องทอนก็ได้คนกันเอง อิ อิ
บันทึกการเข้า
pscn
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #68125 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2008, 03:58:21 PM »



 คิก คิก คิก คิกอายจัง...555ไม่สวยเพียงครึ่ง...แต่...ตัวน้องเค้าไม่ได้ครึ่งของออยล์ต่างหากค่ะ

(  อย่าดูแต่หน้าตาสิ
...หนุ่ม )..ต้องดูที่ความจริงใจ....คับเจ้านาย.....ย กิ๊วก๊าว



พี่หลวงกาหลง คิดเหมือนผมไหมครับ คิก คิก Grin
ไม่น่าเชื่อ เป็นถึงครูคิดใด้อย่างนี้......แย่มั่กๆขอบอก บู่ Grin Grin
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #68126 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2008, 03:59:39 PM »

 บู่ บู่ บู่
บันทึกการเข้า
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #68127 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2008, 04:00:16 PM »

สวัสดีครับ  วันนี้เกือบงานเข้าซะแล้ว   เจอแบงค์ 1,000 ปลอม

ดีที่รีบเอาไปเปลี่ยนกะลูกค้าทัน.......ฮาย ไงๆก็ระวังกันบ้างนะครับ.......

น้าหลวงทุกท่านครับ

ระบาดมาถึงใต้แล้วหรือครับเนี้ย  โดนชก โดนชก โดนชก



สิงห์  รับว่าความไหม   ผมได้เงินมามัดหนึ่ง  แต่เป็นแบงค์อย่างเดียว   ไม่ต้องทอนก็ได้คนกันเอง อิ อิ

อ๋อ....แหล่งผลิตอยู่นี่เอง  คิก คิก คิก คิก
บันทึกการเข้า
salinee19
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #68128 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2008, 04:00:29 PM »

V
V
V
กิ๊กโผ๊ม
 

5555555....5

ขำก๊าก
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #68129 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2008, 04:00:44 PM »

ปังปัง  ปังปัง  ปังปัง  ปังปัง  ปังปัง  ปังปัง  



อุ๊ย ขออภัยครับ  โทษที ปืนมันลั่น Grin
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4539 4540 4541 [4542] 4543 4544 4545 ... 35779
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.137 วินาที กับ 20 คำสั่ง