ปัญหาแรกที่ต้องทำก็คือตรวจสอบว่า นาย ก ได้รับการอนุญาตจริงหรือไม่ และ นาย ข ไม่ได้เคยได้รับอนุญาตจริงหรือไม่ ซึ่งสิ่งที่จะยืนยันได้ดีที่สุดก็คือต้นขั้วใบอนุญาตว่ามีการระบุชื่อของ นาย ก และ นาย ข หรือไม่
เนื่องจากที่จังหวัดแห่งหนึ่งของประเทศสารขัณฑ์ ที่ว่าการอำเภอแห่งนั้น ป.๓ ได้หายไปทั้งเล่ม และที่แห่งนั้นเป็นแหล่งการปลอมแปลงทั้ง ป.๓ ป.๔ ใบตัดโอน รวมถึงการปลอมหมายเลขทะเบียนที่ตัวปืน
หากสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงดังกล่าวได้ ทางสถานีตำรวจก็ต้องมีข้อมูลมาอ้างอิง ว่าตรงกับเราหรือไม่ ถ้าตรงก็เท่ากับว่า นาย ก หรือไม่ นาย ข เป็นผู้ต้องสงสัย หรือไม่ก็อาจเป็นผู้ต้องสงสัยทั้งคู่
ผลจากการตรวจสอบ เป็นปืนของ นาย ก จริง (นาย ก ปืนหาย แจ้งความ คืนใบ ป.4 อายัดปืนกับอำเภอ)
แล้วจะมีหนังสือตัวไหนบ้าง
เกี่ยวกับการคืนใบอนุญาต ป.4 ให้ผู้ขอเพื่อผู้ขอจะได้ไปรับอาวุธปืน สถานีตำรวจริบของกลางไว้
ตาพยายามหาหนังสือเกี่ยวกับระเบียบการในส่วนนี้ หาไม่เจออะ ..
... งง ไม่ค่ะ เกี่ยวกับคำถาม ตาอ่านแล้ว ยังงง ๆๆ
สงสัยว่าต้องทานพาราหน่อยแล้วเรา
๑. นาย ก แจ้งปืนหายและคืนใบอนุญาตเมื่อใด
๒. หนังสือยืนยันว่าได้รับคืนใบอนุญาตและดำเนินการอายัดปืนที่ นาย ก ได้แ้จ้งไว้มีหรือไม่ หรือ นาย ก เอามาคืนให้เฉย ๆ โดยไม่มีหลักฐานอะไรยืนยันว่ารับคืน
ปัญหามันอยู่ที่ว่าทางอำเภอได้ออกหนังสืออะไรเป็นการรับรองแก่ นาย ก ไปบ้างว่าทางอำเภอได้รับใบอนุญาตนั้นไว้และได้อายัดปืนนั้นไว้ ถ้าไม่มีอะไรยืนยันหลักฐานของการออกหนังสือดังกล่าวและมั่นใจว่า นาย ก เป็นผู้บริสุทธิ์จริง ก็ทำหนังสือราชการโดยทั่วไปจากอำเภอแจ้งไปยังตำรวจก็ได้ แต่ปัญหาคือจะรู้ได้อย่างไรว่า นาย ก มาคืนจริงไหม แล้วอำเภอออกหนังสืออะไรรับรองบ้าง