รถสไตล์เก้ง ๆ ยัง เตารีด วีออส เอ็นวี แล้วนะครับลุง ป๊ะป๋าบอกว่าข้าพเจ้านั้นควรใช้กระบะได้แล้ว เพราะคนหยับอีเติบกว่ารถแล้ว และอีกอย่างก็ต้องเริ่มเข้าแลสวนยางเองบ้างแล้วด้วยตอนนี้อาจต้องใช้บรรทุกบ้าง เลยมอง ๆ ไปที่สี่ประตูหรือสองประตูเพื่อครอบคลุมทุกภารกิจทั้งเข้าสวนและไปทำงาน เลยหาข้อมูลมาศึกษาก่อน จึงทำให้อยากทราบว่าในปัจจุบันเครื่องยนต์ยี่ห้อใดเมื่อเทียบกันแล้วประหยัดน้ำมันกว่ากันนะครับ
+1 ให้สำหรับคำตอบมีสาระ
ประหยัดน้ำมันเหรอ เดี๋ยวนี้มันก็พอ ๆ กันเกือบทุกยี่ห้อแล้ว...อยู่ที่ตรีนของคนขับ
และน้ำหนักที่บรรทุก
ระบบขับเคลื่อน
สองล้อ จะประหยัดกว่า สี่ล้อ อยู่เยอะเหมือนกัน....
เข้าสวนยาง ไม่ได้ปีนควนชัน ใช้แค่สองล้อก็พอ
-มาสด้า.... ข้างในห้องโดยสารกว้างขวาง รูปทรงเชย ๆ เทคโนโลยี่ไม่ล้ำสมัย....แต่ก็ไม่ใช่เก่าเหลาเหย่นัก...
-นาวาร่า.... เครื่องยนต์และชิ้นส่วนบางชิ้น มีปัญหา....
ประหยัดกินน้ำมัน รับได้เ่่ท่าไหร่ล่ะครับ...
หากต้องการประหยัดกว่าเพื่อน ให้เลือกเครื่องยนต์ที่ซีซีน้อย
จะประหยัดกว่าเครื่่องซีซีมากกว่าพอเห็นได้ชัด.....
-มิตซู...นั่งสบาย สไตล์เก๋ง แต่ค่าบริการศูนย์ ค่อนข้างสูง....
-อีสุ....โตต้า....พอ ๆ กัน...แล้วแต่ใครชอบ
-ฟอร์ด....ช่างล่างแข็ง(แรง)....
อยากรู้ข้อมูลลึก ๆ เยอะ ๆ ให้เข้าไปในชมรมของเค้าเลย....เค้าจะมีคลับของเค้าอยู่..
อย่าถามว่าเว็บเขาชื่อเว็บอะไร...กูเกิ้ลมี...
+1 เป็นค่าจิ้มดีด
สรุป แสดงว่าเดี๋ยวนี้เครื่องยนต์แต่ละยี่ห้อก็อยู่ในเกณฑ์เดียวกัน อัตราสิ้นเปลืองต่างกันไม่มาก คงเหลือแต่องค์ประกอบอื่น ๆ ว่าใครชอบแบบไหนสไตล์ใด ในการตัดสินใจเลือกใช้ยี่ห้อนั้น ๆ
เขาหมายถึงว่ามีหัวก่ารู้จักคิดเอาเอง ... แค่เนี๊ยะ
เพื่อนมีไว้ใช้ ไม่ใช่มีไว้ประดับโลกา
เรื่อง ช้อนยาวหนึ่งเมตร
มีชาวเดนมาร์คคนหนึ่งนอนหลับอยู่ที่บ้านในเวลากลางคืน
........... มีนางฟ้าลงมาหาเขา ชวนให้ไปเที่ยวสวรรค์กับนรก
เขาก็ตกลงไปด้วย
นางฟ้าพาไปที่ที่หนึ่ง แล้วบอกว่า " ถึงนรกแล้ว "
ที่นั้นเป็นห้องใหญ่ ๆ มีโต๊ะยาวๆ
บนโต๊ะมีอาหารที่ประณีตอร่อยมีคุณค่าทุกประเภท
........... มีคนนั่งอยู่หลายคนนางฟ้าก็บอกว่า "นี่สัตว์นรก"
คนเหล่านั้นนั่งมองอาหารที่น่ากินที่สุดในโลก
แต่ตัวเขาผอมเหลืองน่าสงสาร
.......... นางฟ้าบอกว่าที่นี่อนุญาตให้กินอาหารดี ๆได้
แต่มีเงื่อนไขว่าห้ามใช้มือหยิบ
ต้องใช้ช้อนที่ยาวหนึ่งเมตรตักอาการกินเท่านั้น
เวลาจะใช้ช้อนตักอาหารเข้าปากตัวเอง
คนที่นรกก็ตักไม่ถึงสักที
............ ......... ......... ..... อาหารที่อร่อยหกลงบนพื้นเกือบหมด
เขาเลยมีความวุ่นวายเดือดร้อนมาก พยายามตักอาหารเท่าไรก็ไม่ถึงปาก
.......... จึงผอมโซเพราะอดอาหาร
ทั้งที่อยู่ใกล้ชิดอาหารที่อร่อยมีคุณค่าทางโภชนาการ
............ ... แต่ไม่สามารถเอาเข้ามาถึงในปากของตนเองได้
นางฟ้าพาไปอีกห้องหนึ่งแล้ว บอกว่า " ถึงสวรรค์แล้ว "
........... ห้องที่สองนี้มีลักษณะเช่นเดียวกับห้องแรกทุกประการ
มีโต๊ะอาหารยาว ๆ อาหารประณีตหลาย ๆ อย่างเหมือนกันกับห้องนรก
............ มีเก้าอี้รอบ มีคนนั่งอยู่หลายคน นางฟ้าบอกว่า
" นี่เทวดาบนสวรรค์"
............ . แต่แปลกที่คนบนสวรรค์นั้นยิ้มแย้มแจ่มใสอ้วนท้วนสมบูรณ์สบาย
ดูว่าเขากินอาหาร อย่างไร ทั้งๆที่เขาก็ต้องใช้ช้อนยาวหนึ่งเมตรเหมือนกับที่นรก
......." เอ...ทำไมมันไม่เหมือนที่นรก ?
ทำไมคนที่นี่สนุกสนานแจ่มใสร่าเริง แข็งแรง"
พอดูดี ๆ อ้อ! เห็นวิธีของชาวสวรรค์
............ คือคนข้างหนึ่งของโต๊ะ เขาตักอาหารด้วยช้อนยาว ๆ เอาไปป้อนใส่ปากของคนตรงข้าม
............ . คนอีกข้างก็ตักอาหารมาใส่ปากของคนข้างนี้ ก็เลยได้กินกันทุกคน อยู่อย่างสุขสบาย
สรุปว่า
ที่นรกนั้น..... คนคิดแต่จะได้อย่างเดียว
คิดแต่เรื่องความสุขของตัวเอง
..... คิดแต่ว่าเราจะได้อาหาร ได้สิ่งที่เราชอบ โดยไม่คิดถึงคนอื่น
แต่ที่สวรรค์นั้น..... มีการช่วยเหลือกัน มีความรักสามัคคีกัน
......... คำนึงถึงความสุขของคนอื่นด้วย
จึงก็ได้รับความสุขทั่วถึงกันทุกคน ............ ......... ....
ตื่นขึ้นมาแต่ละวัน อย่าถามว่าจะได้อะไรจากสังคม
แต่จงถามให้มากว่า.....
จะให้อะไรกับสังคม ? ? ?