ลองอ่านให้จบดูน่าสนใจ
จาก
http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9530000079756----------------------------------------
ต่อไปนี้เป็นบทความที่ผมได้แปลจากข้อเขียนของ คุณ Robert Woodrow ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ สะท้อนให้เห็นว่าแม้ชาวต่างชาติยังจับไต๋ได้ว่าไอ้หมอนี่ดีแต่โกหกเรายวัน เอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนเพื่อเงินตัวเดียว เชิญอ่านครับ ........
เรื่อง คนจนในชนบทเมืองไทยที่ถูกกดขี่ มันอาจไม่เป็นอย่างที่คุณคิด
ต่อไป นี้เป็นสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับคนจนในชนบทของประเทศไทย พวกเขาร่ำรวยที่สุดในบรรดาคนยากจนในชนบทแห่งประเทศโลกที่สามทั้งหลาย และเขาไม่ได้เป็นหนี้บุญคุณทักษิณในฐานะความเป็นอยู่ใดๆทั้งสิ้น
ทักษิณ เป็นนักโทษหนีคดี เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีและมหาเศรษฐีพันล้านที่ทางการไทยกำลังต้องการตัวในคดี คอร์รัปชั่นและหนีภาษีรวมกันแล้วมูลค่ามหาศาล สิ่งที่เขาทำได้ดีเป็นพิเศษคือสามารถทำให้โลกเชื่อว่าเขาเป็นขวัญใจคนยากจน แห่งชนบทเมืองไทย และสามารถทำให้เชื่อไปอีกว่า ความกินดีอยู่ดีของคนชนบทเหล่านี้เป็นเพราะตัวเขา แต่ในความเป็นจริงโครงการช่วยเหลือชนบทที่อ้างว่าเป็นของเขานั้นได้มีมาก่อน ยุคทักษิณนับเป็นสิบๆปีมาแล้ว เขาเพียงแต่ใช้เครื่องมือประชาสัมพันธ์ต่างๆที่เขาได้ทุ่มเงินให้เป็นจำนวน มากเปลี่ยนชื่อโครงการเหล่าให้หวือหวาขึ้นเท่านั้น
ชาวไร่ชาวนาใน ยุโรปและอเมริกามักมีฐานะดี แต่การเปรียบเทียบกับฐานะของชาวไร่ชาวนาไทยนั้นเป็นเรื่องไร้ความหมาย ลองนึกเปรียบเทียบช่างไม้ในชนบทอีสานกับช่างไม้แห่งเมืองเล็กๆในมลรัฐไอโอวา ดู ช่างไม้ไทยจะดูอนาถา ที่อยู่อาศัยของเขาในสายตาอเมริกันนั้นจะดูไม่มีอะไรเลย และจะดูเหมือนเขาไม่ค่อยมีความหวังอะไรในชีวิต ทว่าในความเป็นจริงคนไทยมักอาศัยในที่ของพ่อแม่พี่น้องเขาโดยไม่ต้องจ่ายค่า เช่า ในอากาศเย็นสบายในชนบทไทยเขาไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปเพื่อต่อสู้กับความหนาว เหน็บเช่นในไอโอวา พวกเขาปลูกผักเลี้ยงไก่ไข่เลี้ยงหมูไว้บริโภคในครัวเรือนโดยไม่ต้องซื้อกิน เขามีมอเตอร์ไซค์เพื่อขี่ไปทำงาน เขามีทีวีดู ชีวิตความเป็นอยู่แบบอเมริกันที่เขาเห็นในทีวีก็แตกต่างกับการดำเนินชีวิต แบบไทยๆที่เขาคุ้นเคยเสียจนไม่มีความรู้สึกอิจฉาชาวอเมริกันเลยสักนิด
ทุกๆ หมู่บ้านในไทยมีไฟฟ้าใช้มานานมากก่อนยุคทักษิน ชาวบ้านมีตู้เย็นหม้อหุงข้าวไฟฟ้าทีวีวิทยุและพัดลมไฟฟ้าใช้มาเป็นเวลานาน แล้ว เกือบทุกบ้านในชนบทมีมอเตอร์ไซค์แม้มันจะโทรมหรือเก่าแค่ไหนก็ตาม ในทุกๆหมู่บ้านจะมีหลายครอบครัวที่มีรถปิคอัพใช้ ชาวนาเลิกใช้วัวควายไปแล้วเหลืออยู่ก็แต่ในท้องที่ไกลมากๆ ถ้าชาวไร่ชาวนาใดไม่มีรถอีแต๋นไว้ใช้ทำไร่ทำนาพวกเขาก็สามารถเช่าหรือยืมได้ จากเพื่อนบ้าน
ชาวไร่ชาวนาไทยที่ไร้ที่ทำกินนั้นมีอยู่ แต่ก็มีเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับในฟิลิปปินส์ อินเดียและประเทศส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ ในไทยเราแทบไม่เคยเห็นเศรษฐีเจ้าของที่นาที่ไม่ได้เป็นชาวนาเอง ชาวนาไทยส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของที่นาผืนเล็กๆที่ปลอดจำนอง ที่ปลอดจำนองนั้นเป็นเพราะกฏหมายคุ้มครองล้าสมัยฉบับหนึ่งที่ไม่อนุญาติให้ เอาที่ดินประเภทนี้ไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ยืม แต่พวกเขาสามารถใช้ผลผลิตที่จะได้รับในฤดูเก็บเกี่ยวถัดไปใช้ค้ำประกันได้ พวกเขามักขายผลผลิตให้กับสหกรณ์ ลูกหลานพวกเขามักหารายได้เพิ่มเติมโดยเข้าไปทำงานในเมือง
เมืองไทยก็ เหมือนที่สหรัฐอเมริกาที่มีผู้ยากไร้ด้อยโอกาสอยู่จำนวนหนึ่ง ตัวเลขเศรษฐกิจของไทยนั้นก็เหมือนที่อื่นๆที่เราต้องดูโดยใช้วิจารณญาน (* ที่มาของตัวเลขสถิติที่จะนำมาใช้ถัดจากนี้ให้ดูที่หมายเหตุท้ายบทความ) ตัวเลขเป็นทางการไทยผู้ยากจนมี10% ของประชากรทั้งหมด เทียบกับ 12%ในอเมริกา 14%ในอังกฤษและ36%ในบ้งคลาเทศ แน่นอนเส้นวัดระดับความยากจนของแต่ละประเทศไม่เหมือนกันเพราะการดำเนินชีวิต ที่ต่างกัน ความยากจนในเมืองไทยจึงไม่จำเป็นต้องแปลว่าการไม่มีทีวีดู หรือไม่มีมอเตอร์ไซค์เก่าๆใช้
สถิติการว่างงานในไทยอยู่ที่ 1.4% ซึ่งจัดว่าอยู่ในกลุ่มต่ำที่สุดในโลก แต่เป็นที่รู้กันว่าตัวเลขสถิติการว่างงานมักเชื่อถือไม่ค่อยได้ แม้แต่ในประเทศที่เจริญแล้วนักเศรษฐศาสตร์ยังถกเถียงกันว่าจะรวมถึงพวกทำงาน ไม่เต็มเวลาหรือพวกที่ไม่ยอมหางานทำดีหรือไม่ แต่สำหรับเมืองไทยงานไร้ฝีมือค่าแรงต่ำนั้นหาง่าย ตึกอพาร์ทเม้นต์ที่ผมเช่าอยู่ในกรุงเทพนั้นมีป้ายติดประกาศรับพนักงานรักษา ความปลอดภัยมาหลายสัปดาห์แล้วก็ยังติดอยู่อย่างนั้น
ในช่วงฤดูแล้งชาวไร่ ชาวนาจำนวนมากเข้ามาเป็นกรรมกรก่อสร้างในเมือง ส่วนที่เหลือเลือกที่จะมีชีวิตอย่างง่ายๆถึงไม่หรูหราแต่ก็อุดมสมบูรณ์อยู่ ที่บ้านในชนบท สองสามปีที่แล้วผมต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการหาช่างเพื่อมาต่อห้องน้ำเพิ่ม ชาวไร่ชาวนาหลายรายที่มีหัวการค้าได้กลายมาเป็นเจ้าของกิจการและทำได้ดีที เดียว นโยบายของรัฐบาลทักษิณไม่ได้มีผลอะไรที่ชัดเจนกับแรงงานทั้งหลายเหล่านี้เลย
ไทย ไม่มีปัญหาประชากรล้นเกิน ผู้หญิงมีบุตรกัน1.6คนโดยเฉลี่ยซึ่งต่ำกว่าอัตราการตายซึ่งหมายความว่าจำนวน ประชากรจะลดลงหากไทยไม่สนับสนุนการอพยพของชนชาติอื่นให้เข้ามาอยู่อาศัย การลดของขนาดครอบครัวไทยเป็นผลมาจากการให้ความรู้เรื่องผลดีทางเศรษฐกิจที่ มีต่อครอบครัวขนาดเล็กซึ่งเป็นวิธีการเดียวกับที่ใช้ได้ผลทำให้ประชากรลดลง มาแล้วในยุโรปและญี่ปุ่น ในเมืองไทยการรณรงค์เหล่านี้ได้เริ่มมาร่วมห้าสิบปีแล้ว
ปัญหาการ กระจายความร่ำรวยในไทยนั้นไม่ได้เลวร้ายไปกว่าชาติอุตสาหกรรมใดๆเลย คนยากจนที่สุด10% ของประชากรไทยเป็นเจ้าของ2.6%ของทรัพย์สินทั้งหมด คนรวยที่สุด10% ของประชากรไทยเป็นเจ้าของ33.7%ของทรัพย์สินทั้งหมดที่มีในชาติ เมื่อเทียบกันสหรัฐอเมริกามี2% และ30% อังกฤษมี2.1% และ28.5% ตามลำดับทรัพย์สินของคนจนสุด10% และรวยสุด10% ถึงแม้ตัวเลขสถิติเหล่านี้จะเชื่อไม่ได้ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ที่น่าเชื่อถือได้อย่างไม่มีข้อสงสัยเลยก็คือการกระจายรายได้ของไทยนั้น มีความเท่าเทียมกันมากกว่าในประเทศจีน อินเดีย บราซิล หรืออาฟริกาใต้ แม้แต่หมู่บ้านถิ่นธุรกันดารของไทยโดยเฉพาะในบริเวณที่ราบภาคกลางก็ยังดู มั่งคั่งกว่าหมู่บ้านในชนบทของประเทศปากีสถาน และจะกลายเป็นแดนในอุดมคติไปในทันทีเมื่อเทียบกับหมู่บ้านส่วนใหญ่ในประเทศ ไนจีเรีย กองทุนหมู่บ้านที่ทักษิณภูมิใจนักหนานั้นมันได้เริ่มต้นมาตั้งแต่ร่วมสี่สิบ ปีมาแล้ว
ถนนเมนทุกสายในเมืองไทยเป็นถนนราดยางหรือไม่ก็คอนกรีต ซึ่งดีเทียบเท่ามาตรฐาณประเทศโลกที่หนึ่ง ถนนรองส่วนใหญ่ก็ราดยางซึ่งถนนเข้าหมู่บ้านชนบทห่างไกลรวมทั้งในอีสานและ เหนือแม้จะเป็นหมู่บ้านจนที่สุดก็มีถนนดีพอกัน ถนนเหล่านี้มีใช้กันแล้วในสมัยที่ทักษิณลาออกจากตำรวจและอยู่ในสภาพล้มละลาย
ใน กรุงเทพนั้นมีสลัม แต่ในเมื่อทุกคนมามีงานทำในกรุงเทพพวกเขาก็มักเลือกที่จะอยู่ในสลัมเพราะ อยู่ฟรีโดยไม่เสียค่าเช่าที่ดินเหล่านี้เพราะมันเป็นที่หลวง โสเภณีนั้นหาได้ไม่ยากเพราะรายได้จากการขายตัวนั้นมากกว่ารายได้จากการทำงาน ในโรงงานถึงห้าเท่าตัวหรือมากกว่า คนตาบอดหรือพิการสามารถขอเงินช่วยเหลือได้จากรัฐแต่ทว่าการขอทานจะมีรายได้ งามกว่า เขาต่างก็เลือกทางเดินชีวิตเองและดีชั่วอยู่ย่อมอยู่ที่ตัวเขาเองทั้งนั้น
การ รักษาพยาบาลผู้ป่วยอนาถาโดยโรงพยาบาลรัฐนั้นมีมานานมากก่อนที่ทักษิณจะมา เสนอโครงการ30บาทรักษาทุกโรค การรักษาผู้ป่วยอนาถาถึงมันจะไม่เป็นระดับโลกแต่มันก็ยังเป็นการรักษาพยาบาล ถ้าคนป่วยไม่มีสตางค์ค่าผ่าตัดซึ่งราคาก็ไม่ได้แพง เขาก็จะได้รับการยกหนี้ให้ ไม่มีคนป่วยรายใดที่โรงพยาบาลรัฐจะปฏิเสธไม่รับ แพทย์ผู้สำเร็จการศึกษาก็ด้วยทุนของรัฐและจะต้องทำงานใช้หนี้รัฐโดยได้รับ เงินเดือนไม่แพงในโรงพยาบาลชนบทไปจนกระทั่งชดใช้ค่าเล่าเรียนหมด
แทบ ไม่มีคนไทยคนไหนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เด็กผู้หญิงมีเวลาเรียนโดยเฉลี่ย14ปี และเด็กผู้ชายที่13ปี โปรดสังเกตุหญิงมีการศึกษามากกว่าชาย นักเรียนมัธยมปลายปีละร่วมสองล้านคนซึ่งคิดเป็น20%ของคนวัยเดียวกันได้เข้า เรียนในระดับอุดมศึกษาทั้งสายอาชีพและปริญญา นักเรียนที่เรียนดีก็จะได้รับทุนเล่าเรียนหลวง เรื่องราวของเด็กยากจนที่ต่อมาเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จนั้นมีมากมาย เสียกลายเป็นเรื่องธรรมดาๆ การไต่เต้าทางสังคมลักษณะนี้ได้มีมาตลอดเป็นเวลาครึ่งค่อนศัตวรรษมาแล้ว
อัตรา การตายในทารกแรกเกิดในไทยอยู่ที่17รายต่อ1,000 เทียบกับแองโกล่าอยู่ที่180 อัฟกานิสถานที่153 และ 6 ในสหรัฐอเมริกา สถิติช่วงเวลาการมีชีวิตของคนไทยอยู่ที่ 73.1ปีในขณะที่สหรัฐอเมริกาอยู่ที่78.1ปี และรสเซียที่66.1ปี ในไทยมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี1.4%เทียบกับสหรัฐอเมริกาอยู่ที่0.6%ของประชากร
ใน ประชากรทั้งหมด66ล้านคนในไทย มีโทรศัพท์มือถือลงทะเบียนถึง62ล้านเลขหมายและอีก7ล้านเลขหมายเป็นโทรศัพท์ มีสาย เครือข่ายการบริการเชื่อถือได้เทียบเท่าในยุโรป คนไทยหนึ่งในสี่มีอินเตอร์เนตใช้ บริษัทโทรศัพท์ของทักษิณซึ่งรุ่งเรืองเป็นอย่างมากในสมัยที่เขาเป็นนายก มีส่วนแบ่งการตลาดถึงหนึ่งในสามของผู้ใช้มือถือในไทย ต่อมาเขาได้ขายให้กองทุนรัฐบาลสิงคโปร์โดยหลบเลี่ยงภาษีรายได้
ไทยมี การส่งออกมากกว่านำเข้าอยู่เป็นประจำและมีเสน่ห์ในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ ดังนั้นจึงมีเงินทุนสำรองมหาศาล ถึงแม้จะไม่มีทรัพยากรธรรมชาติไว้ส่งออกมากนัก แต่ไทยก็ยังมีทุนสำรองอยู่ที่ 138,000ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐซึ่งมีมากเป็นอันดับสิบของโลก เทียบกับอังกฤษมี $56,000ล้าน ขณะที่ออสเตรเลียมี $45,000ล้าน
มี ความเชื่อที่ผิดๆว่าไทยมีสินค้าการเกษตรเป็นสินค้าหลัก แต่ความจริงแล้วคือเป็นรถปิคอัพ มอเตอร์ไซค์และชิ้นส่วนอาหลั่ยยานยนต์เป็นหลักซึ่งเป็นสาขาของบริษัทจากต่าง ชาติ รถปิคอัพซึ่งส่งออกได้มากที่สุดถ้านับแบบประเภทเดี่ยวของสินค้าส่งออกนั้น แทบไม่มีส่วนประกอบที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศเลย บริษัทผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นรายหนึ่งส่งรถปิคอัพหนึ่งตันจากเมืองไทยแหล่งเดียว เท่านั้นไปขายทั่วโลกรวมทั้งในญี่ปุ่นเอง เครื่องจักรกลก็เป็นสินค้าส่งออกหลักอีกประเภทหนึ่ง นอกนั้นยังมีชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ อิเลคโทรนิค สิ่งทอ เสื้อผ้า รองเท้า อาหารสำเร็จรูป อาหารสัตว์ สิ่งที่ทำเงินตราต่างประเทศในระดับต่ำกว่านั้นก็จะเป็นข้าว น้ำตาลและตามด้วยการท่องเที่ยว
ในหลายปีที่ผ่านมารัฐบาลสามารถทำการ ค้าได้เกินดุลย์ ทำบัญชีเดินสะพัดได้เกินดุลย์และทำงบประมาณได้เกินดุลย์เช่นกัน (แต่ปีนี้งบประมาณขาดดุลย์)
นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2503 ปีที่ทักษิณมีอายุได้เพียง11ขวบ เป็นต้นมา ไม่มีชาติที่กำลังพัฒนาชาติใดในโลกที่จะมีการเติบโตของค่าGDPเฉลี่ยต่อจำนวน ประชากรได้เกินกว่าของประเทศไทย ถึงแม้ชาวนาไทยยังยากจนในสายตาตะวันตก แต่พวกเขาก็ได้รับส่วนแบ่งจากความมั่งคั่งเหล่านั้น และพวกเขาก็มีความกินดีอยู่ดีมากกว่าคนในชนบทในประเทศใดๆในประเทศแห่งโลกที่ สาม
* ตัวเลขสถิติทั้งหลายในบทความนี้แต่ละตัวได้ถูกตรวจสอบโดยการเปรียบเทียบกับ อย่างน้อยสามแหล่งจากหน่วยงานต่างๆดังนี้ UNICEF, UNDP,ธนาคารโลก, ADB, IMF, CIA, WHO, ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติ
ไม่มีตัวเลข ใดๆในบทความนี้ที่ยกเอามาจากหน่วยงานของไทยล้วนโดยไม่ปรียบเทียบกับตัวเลข ของหน่วยงานนอกประเทศไทย
ขอขอบคุณ คุณRobert Woodrow