เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 05, 2024, 12:24:45 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 16628 16629 16630 [16631] 16632 16633 16634 ... 35779
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อนคอปืน...ด้ามขวาน  (อ่าน 25593867 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 531 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ต้นหนาว
CE KKU
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1397
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9433



« ตอบ #249450 เมื่อ: กันยายน 27, 2010, 11:25:51 AM »

ไหว้ขอบคุณครับน้ายอด หลังไมค์นะครับ  หลงรัก

ให้เพื่อนที่อยู่ กรมโยธาธิการและผังเมือง หาข้อมุลให้อยู่ครับ...
บันทึกการเข้า

  
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #249451 เมื่อ: กันยายน 27, 2010, 11:29:02 AM »


สงสัยไหรหลาว

กะเบ่อ มันต้องชั่งรวมเข่ง วัดรวมหัวนาอยู่เบ่อ

May be she is in a period.

 Shocked Shocked Shocked Shocked   Grin Grin

 ขำก๊าก  ขำก๊าก

ไม่ใช่หรอกพี่ เจ้าส้มมันส้มของมันได้ทุกวัน ทั้งปี   คิก คิก
บันทึกการเข้า
lugkrod
Hero Member
*****

คะแนน 2419
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12590



« ตอบ #249452 เมื่อ: กันยายน 27, 2010, 11:35:12 AM »

 Grin
บันทึกการเข้า

มีเพื่อนดี มีหนึ่ง ถึงจะน้อย ดีกว่าร้อย เพื่อนคิด ริษยา
เหมือนเกลือดี มีนิดหน่อย น้อยราคา ยังมีค่า กว่าน้ำเค็ม เต็มทะเล..
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #249453 เมื่อ: กันยายน 27, 2010, 11:36:18 AM »

Grin

บ๊ะ

ยิ้มหาเรื่องแต่เช้าวุ้ย
บันทึกการเข้า
lugkrod
Hero Member
*****

คะแนน 2419
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12590



« ตอบ #249454 เมื่อ: กันยายน 27, 2010, 11:43:06 AM »

Grin

บ๊ะ

ยิ้มหาเรื่องแต่เช้าวุ้ย

มีไรเหอ ต่างด้าว... บู่
บันทึกการเข้า

มีเพื่อนดี มีหนึ่ง ถึงจะน้อย ดีกว่าร้อย เพื่อนคิด ริษยา
เหมือนเกลือดี มีนิดหน่อย น้อยราคา ยังมีค่า กว่าน้ำเค็ม เต็มทะเล..
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #249455 เมื่อ: กันยายน 27, 2010, 11:45:23 AM »

Grin

บ๊ะ

ยิ้มหาเรื่องแต่เช้าวุ้ย

ไปหาเรื่องเขาไซ บาปเปล่าแหละ คนสุราดอยู่เฉยๆเขานึกอียิ้มกะยิ้มได้เพแหละ......เพียงแต่เขาไม่นั่งยิ้มในโรงบาน เรากะอย่าเพิ่งแน่ใจ
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #249456 เมื่อ: กันยายน 27, 2010, 11:52:26 AM »

ระบบสุริยะเป็นระบบเล็กมากและเป็นส่วนหนึ่งในจักรวาล  แล้วดาวที่คล้ายกับดวงอาทิตย์ก็มีอยู่มากมาย  ท่านลองคิดดูเองสิว่ามันน่าจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่อีกรึปล่าว ที่เป็นเพื่อนร่วมจักรวาลเดียวกับเรา

ขอคุยด้วยเล่นๆ น๊ะครับ อิๆ

หากมองตามแนวคิดแบบศาสนา

1.มันมีโลกแห่ง สวรรค์.........

2.มันมีโลกมนุษย์........ที่เราอยู่

3.และนรก...........

หุๆ 1กับ3 ก็ไม่ทราบว่าตั้งอยู่ตรงใหน แต่ไปได้อย่างไร ศาสนามีแนวคิดแนวทางใว้ให้แล้ว

ใกล้ไกลขนาดใหน ไม่มีใครทราบจริง แต่ในทางวิทยาศาสตร์ ดวงดาวที่อยู่ใกล้ๆเรา สุดๆ ก็ประมาณ40ปี หรือจะมี(ล้าน)ปีแสง ตามด้วยหรือเปล่าไม่แน่ใจข้อมูล เคยอ่านผ่านๆครับ

ยานอวกาศของมนุษย์ ที่เดินทางออกไปไกลจากโลกมนุษย์ที่สุดตอนนี้ หากข้อมูลยังไม่เปลี่ยนแปลง คือเจ้าวอยเอจเจอร์หมายเลข1 หรือเปล่า ก็ไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้ตามมานานครับ แต่ชื่อผมมั่นใจว่าใช่ ส่วนหมายเลข ไม่แน่ใจ อิๆ ไปมาเมื่อสักสามทศวรรษมาแล้วมั้ง ก็ได้แค่ขอบๆระบบสุริยะนี่เอง(ไม่ทราบว่าตอนนี้ สัญญาณขาดหาย หรือยังส่งสัญญาณกลับมายังโลกได้อีกหรือไม่ หากจะหาข้อมูล ลุงกู๋คงช่วยได้ แต่ภาษาไม่"แข แร" ซิครับ อิๆ

ตามแนวศาสนาอีกแหละ

ความเชื่อแบบตะวันออก มีคนไปมาแล้วในจักรวาล

แต่ทางตะวันตก ยังไปได้แค่ขอบระบบสุริยะ ซึ่งไปโดยตัวแทน(ยานอวกาศ)

ตะวันตกใช้"ยาน" ในการเดินทาง

แต่ตะวันออกใช้"ฌาน"เดินทาง

อิๆ...ข้อมูลอ้างอิงไม่ได้ น๊ะครับ

ไปใกลแล้วจริงๆ ดึงๆกันไว้มั่งพี่น้อง คิก คิก คิก คิก คิก คิก

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=46525.7905
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #249457 เมื่อ: กันยายน 27, 2010, 11:56:25 AM »

เดินซื้อของเร่งรีบ อีตอนใกล้ปิดงบประจำปี



ผล.....ปวดเข่า..  Undecided

หัวเข่า คล็อกแคล็กเสียแล้ว...
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

tum610
sorry i'm happy
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7385
ออฟไลน์

กระทู้: 68526


ความตาย อยู่ที่ปลายจมูก


« ตอบ #249458 เมื่อ: กันยายน 27, 2010, 11:57:42 AM »

ระบบสุริยะเป็นระบบเล็กมากและเป็นส่วนหนึ่งในจักรวาล  แล้วดาวที่คล้ายกับดวงอาทิตย์ก็มีอยู่มากมาย  ท่านลองคิดดูเองสิว่ามันน่าจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่อีกรึปล่าว ที่เป็นเพื่อนร่วมจักรวาลเดียวกับเรา

ขอคุยด้วยเล่นๆ น๊ะครับ อิๆ

หากมองตามแนวคิดแบบศาสนา

1.มันมีโลกแห่ง สวรรค์.........

2.มันมีโลกมนุษย์........ที่เราอยู่

3.และนรก...........

หุๆ 1กับ3 ก็ไม่ทราบว่าตั้งอยู่ตรงใหน แต่ไปได้อย่างไร ศาสนามีแนวคิดแนวทางใว้ให้แล้ว

ใกล้ไกลขนาดใหน ไม่มีใครทราบจริง แต่ในทางวิทยาศาสตร์ ดวงดาวที่อยู่ใกล้ๆเรา สุดๆ ก็ประมาณ40ปี หรือจะมี(ล้าน)ปีแสง ตามด้วยหรือเปล่าไม่แน่ใจข้อมูล เคยอ่านผ่านๆครับ

ยานอวกาศของมนุษย์ ที่เดินทางออกไปไกลจากโลกมนุษย์ที่สุดตอนนี้ หากข้อมูลยังไม่เปลี่ยนแปลง คือเจ้าวอยเอจเจอร์หมายเลข1 หรือเปล่า ก็ไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้ตามมานานครับ แต่ชื่อผมมั่นใจว่าใช่ ส่วนหมายเลข ไม่แน่ใจ อิๆ ไปมาเมื่อสักสามทศวรรษมาแล้วมั้ง ก็ได้แค่ขอบๆระบบสุริยะนี่เอง(ไม่ทราบว่าตอนนี้ สัญญาณขาดหาย หรือยังส่งสัญญาณกลับมายังโลกได้อีกหรือไม่ หากจะหาข้อมูล ลุงกู๋คงช่วยได้ แต่ภาษาไม่"แข แร" ซิครับ อิๆ

ตามแนวศาสนาอีกแหละ

ความเชื่อแบบตะวันออก มีคนไปมาแล้วในจักรวาล

แต่ทางตะวันตก ยังไปได้แค่ขอบระบบสุริยะ ซึ่งไปโดยตัวแทน(ยานอวกาศ)

ตะวันตกใช้"ยาน" ในการเดินทาง

แต่ตะวันออกใช้"ฌาน"เดินทาง

อิๆ...ข้อมูลอ้างอิงไม่ได้ น๊ะครับ

ไปใกลแล้วจริงๆ ดึงๆกันไว้มั่งพี่น้อง คิก คิก คิก คิก คิก คิก

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=46525.7905

 คิก คิก คิก คิก   นั่นน่ะดิ....ไม่รู้ลุงแกอารมณ์ไหน....โผล่ไปได้ไง...  คิก คิก คิก คิก   ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

tum610
sorry i'm happy
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7385
ออฟไลน์

กระทู้: 68526


ความตาย อยู่ที่ปลายจมูก


« ตอบ #249459 เมื่อ: กันยายน 27, 2010, 11:59:53 AM »

เดินซื้อของเร่งรีบ อีตอนใกล้ปิดงบประจำปี



ผล.....ปวดเข่า..  Undecided

หัวเข่า คล็อกแคล็กเสียแล้ว...

มีวิธีรักษาไม๊ครับน้า....

คงใช้งานหนัก...อยู่ที่ทำงานก็เดินมาก เข่าก็ทำงานหนักตามไปด้วย....

                      หลบอยู่บ้าน...เข่าก็ยังโดนใ้ช้งานอีก ไม่ได้พัก... Grin
บันทึกการเข้า

เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #249460 เมื่อ: กันยายน 27, 2010, 12:00:32 PM »

ประวัติจังหวัดภูเก็ต
ภูเก็ต เป็นชื่อที่ใช้ในปัจจุบัน ก่อนหน้านี้เราใช้คำว่า "ภูเก็จ" แปลว่า เมืองแก้ว ซึ่งตรงกับความหมาย เดิม ที่ชาวทมิฬเรียกเมืองนี้ว่า "มณีคราม" ตามหลักฐานที่ปรากฎเมื่อ พ.ศ. 1568 ปัจจุบัน ภูเก็ตเป็น จังหวัดหนึ่ง ทางภาคใต้ของประเทศไทย ที่มีประวัติความเป็นมา ปรากฎในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และโบราณคดีนานนับพันปี เป็นที่รู้จักของนักเดินเรือ ที่ใช้เส้นทางระหว่างจีน กับอินเดียโดยผ่าน แหลมมาลายู มีหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุด คือหนังสือภูมิศาสตร์ และแผนที่เดินเรือของปาโตเลมี เมื่อประมาณ พ.ศ. 700 กล่าวถึงการเดินทาง จากแหลมสุวรรณภูมิ ลงมาแหลมมาลายู ต้องผ่านแหลม "จังซีลอน" ซึ่งก็คือ เกาะภูเก็ตนั่นเอง นอกจากนี้ ยังปรากฎในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยว่า ภูเก็ตเป็นส่วนหนึ่ง ของอาณาจักรตามพรลิงค์

ต่อมาจนถึงสมัยอาณาจักรศรีวิชัย และในสมัยอาณาจักรศิริธรรมนคร เรียกเกาะภูเก็ตว่า "เมืองตะกั่วถลาง" เป็นเมืองที่ 11 ใน 12 เมืองนักกษัตร โดยใช้ตราประจำเมืองเป็นรูปสุนัข จนถึง สมัยสุโขทัย เมืองถลางขึ้นอยู่กับ เมืองตะกั่วป่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ชาวฮอลันดามาสร้างสถานที่ ที่เก็บสินค้า เพื่อรับซื้อแร่ดีบุกที่เมืองภูเก็ต ดังนั้นเกาะภูเก็ตทางตอนเหนือ และตอนกลางเป็น เมืองถลาง ที่มีคนไทยปกครอง ส่วนทางวันตก และตอนใต้ ของเกาะ เป็นเมืองภูเก็ต ที่มีชาวต่างชาติเข้ามารับ ซื้อแร่ดีบุก จนกระทั่งในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น กษัตริย์พม่าได้ยกทัพมาตีหัวเมืองต่าง ๆ ทางใต้เรื่อยมาถึงเมืองถลางขณะนั้น เจ้าเมืองถลางเพิ่งถึงแก่กรรมลง คุณหญิงจัน ภริยาและ คุณมุก น้องสาว จึงรวบรวมกำลังพลต่อสู้กองทัพพม่า จนแตกพ่ายไปในที่สุด เมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2328 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งคุณหญิงจัน เป็นท้าวเทพกระษัตรี และคุณมุกเป็นท้าวศรีสุนทร ต่อมาเมืองภูเก็ตก็ได้เจริญเติบโตมากขึ้น จากการค้าและเหมืองแร่ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้รวบรวม หัวเมือง ชายทะเลตะวันตกเป็น "มณฑลภูเก็ต" และเมื่อปี พ.ศ. 2476 ได้ยกเลิกมณฑลภูเก็ต และ เปลี่ยนมาเป็น "จังหวัดภูเก็ต" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ภูเก็ตเป็นหนึ่งใน 14 จังหวัดของภาคใต้ ด้านตะวันตก ติดชายฝั่งทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย ตั้งอยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่ 7 องศา 45 ลิบดา ถึง 8 องศา 15 ลิบดาเหนือ และเส้นแวงที่ 98 องศา 15 ลิบดา ถึง 98 องศา 40 ลิบดาตะวันออก ประกอบด้วยเกาะภูเก็ต ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเกาะบริวารอีก 32 เกาะ รวมเนื้อที่ประมาณ 570 ตารางกิโลเมตร ส่วนกว้างที่สุด 21.3 กิโลเมตร ส่วนยาวที่สุดของเกาะ 48.7 กิโลเมตร และมีอาณาเขตดังนี้

ทิศเหนือ:- จดช่องปากพระ จังหวัดพังงา เชื่อมโดยสะพานสารสินและสะพานท้าวเทพกระษัตรี
ทิศใต้:- จดทะเลอันดามัน
ทิศตะวันออก:- จดทะเลเขตจังหวัดพังงา
ทิศตะวันตก:- จดทะเลอันดามัน

พื้นที่ส่วนใหญ่ของภูเก็ตเป็นภูเขาทอดจากแนวเหนือไปถึงใต้ ภูเขาส่วนใหญ่อยู่ด้านทิศตะวันตก ซึ่งจะกั้นส่วนที่เป็นชายหาดฝั่งตะวันตก กับพื้นที่ด้านใน มียอดเขาสูงสุด ประมาณ 529 เมตร คือ ยอดเขา "ไม้เท้าสิบสอง" อยู่ในเขตตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ และพื้นที่ราบจะอยู่ตอนกลางและตะวันออกของเกาะ นอกจากนี้ยังมีลำคลองเล็ก ๆ อาทิคลองบางใหญ่ คลองท่าจีน คลองท่าเรือ คลองบางโรง เป็นต้น ภูมิอากาศ ภูเก็ตมีลักษณะภูมิอากาศแบบเส้นศูนย์สูตร อยู่ในเขตอิทธิพลลมมรสุม อากาศจึงอบอุ่นและชุ่มชื้นตลอดปี มีเพียง 2 ฤดู คือ ฤดูฝน ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน ฤดูร้อน ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงเหนือ เริ่มตั้งแต่ธันวาคมถึงเมษายน เดือนมีนาคมเป็นเดือนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดคือ 33.4 องศาเซลเซียส เดือนมกราคมเป็นเดือนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดคือ 22 องศาเซลเซียส

ปัจจุบัน ภูเก็ตถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย ที่รู้จักกันในนาม ไข่มุกแห่งอันดามัน ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศอย่างแท้จริง

คำขวัญประจำจังหวัดภูเก็ต

" ไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้ หาดทรายสีทอง สองวีรสตรี บารมีหลวงพ่อแช่ม "
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #249461 เมื่อ: กันยายน 27, 2010, 12:08:11 PM »

ประวัติจังหวัดภูเก็ต
ภูเก็ต เป็นชื่อที่ใช้ในปัจจุบัน ก่อนหน้านี้เราใช้คำว่า "ภูเก็จ" แปลว่า เมืองแก้ว ซึ่งตรงกับความหมาย เดิม ที่ชาวทมิฬเรียกเมืองนี้ว่า "มณีคราม" ตามหลักฐานที่ปรากฎเมื่อ พ.ศ. 1568 ปัจจุบัน ภูเก็ตเป็น จังหวัดหนึ่ง ทางภาคใต้ของประเทศไทย ที่มีประวัติความเป็นมา ปรากฎในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และโบราณคดีนานนับพันปี เป็นที่รู้จักของนักเดินเรือ ที่ใช้เส้นทางระหว่างจีน กับอินเดียโดยผ่าน แหลมมาลายู มีหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุด คือหนังสือภูมิศาสตร์ และแผนที่เดินเรือของปาโตเลมี เมื่อประมาณ พ.ศ. 700 กล่าวถึงการเดินทาง จากแหลมสุวรรณภูมิ ลงมาแหลมมาลายู ต้องผ่านแหลม "จังซีลอน" ซึ่งก็คือ เกาะภูเก็ตนั่นเอง นอกจากนี้ ยังปรากฎในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยว่า ภูเก็ตเป็นส่วนหนึ่ง ของอาณาจักรตามพรลิงค์

ต่อมาจนถึงสมัยอาณาจักรศรีวิชัย และในสมัยอาณาจักรศิริธรรมนคร เรียกเกาะภูเก็ตว่า "เมืองตะกั่วถลาง" เป็นเมืองที่ 11 ใน 12 เมืองนักกษัตร โดยใช้ตราประจำเมืองเป็นรูปสุนัข จนถึง สมัยสุโขทัย เมืองถลางขึ้นอยู่กับ เมืองตะกั่วป่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ชาวฮอลันดามาสร้างสถานที่ ที่เก็บสินค้า เพื่อรับซื้อแร่ดีบุกที่เมืองภูเก็ต ดังนั้นเกาะภูเก็ตทางตอนเหนือ และตอนกลางเป็น เมืองถลาง ที่มีคนไทยปกครอง ส่วนทางวันตก และตอนใต้ ของเกาะ เป็นเมืองภูเก็ต ที่มีชาวต่างชาติเข้ามารับ ซื้อแร่ดีบุก จนกระทั่งในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น กษัตริย์พม่าได้ยกทัพมาตีหัวเมืองต่าง ๆ ทางใต้เรื่อยมาถึงเมืองถลางขณะนั้น เจ้าเมืองถลางเพิ่งถึงแก่กรรมลง คุณหญิงจัน ภริยาและ คุณมุก น้องสาว จึงรวบรวมกำลังพลต่อสู้กองทัพพม่า จนแตกพ่ายไปในที่สุด เมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2328 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งคุณหญิงจัน เป็นท้าวเทพกระษัตรี และคุณมุกเป็นท้าวศรีสุนทร ต่อมาเมืองภูเก็ตก็ได้เจริญเติบโตมากขึ้น จากการค้าและเหมืองแร่ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้รวบรวม หัวเมือง ชายทะเลตะวันตกเป็น "มณฑลภูเก็ต" และเมื่อปี พ.ศ. 2476 ได้ยกเลิกมณฑลภูเก็ต และ เปลี่ยนมาเป็น "จังหวัดภูเก็ต" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ภูเก็ตเป็นหนึ่งใน 14 จังหวัดของภาคใต้ ด้านตะวันตก ติดชายฝั่งทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย ตั้งอยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่ 7 องศา 45 ลิบดา ถึง 8 องศา 15 ลิบดาเหนือ และเส้นแวงที่ 98 องศา 15 ลิบดา ถึง 98 องศา 40 ลิบดาตะวันออก ประกอบด้วยเกาะภูเก็ต ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเกาะบริวารอีก 32 เกาะ รวมเนื้อที่ประมาณ 570 ตารางกิโลเมตร ส่วนกว้างที่สุด 21.3 กิโลเมตร ส่วนยาวที่สุดของเกาะ 48.7 กิโลเมตร และมีอาณาเขตดังนี้

ทิศเหนือ:- จดช่องปากพระ จังหวัดพังงา เชื่อมโดยสะพานสารสินและสะพานท้าวเทพกระษัตรี
ทิศใต้:- จดทะเลอันดามัน
ทิศตะวันออก:- จดทะเลเขตจังหวัดพังงา
ทิศตะวันตก:- จดทะเลอันดามัน

พื้นที่ส่วนใหญ่ของภูเก็ตเป็นภูเขาทอดจากแนวเหนือไปถึงใต้ ภูเขาส่วนใหญ่อยู่ด้านทิศตะวันตก ซึ่งจะกั้นส่วนที่เป็นชายหาดฝั่งตะวันตก กับพื้นที่ด้านใน มียอดเขาสูงสุด ประมาณ 529 เมตร คือ ยอดเขา "ไม้เท้าสิบสอง" อยู่ในเขตตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ และพื้นที่ราบจะอยู่ตอนกลางและตะวันออกของเกาะ นอกจากนี้ยังมีลำคลองเล็ก ๆ อาทิคลองบางใหญ่ คลองท่าจีน คลองท่าเรือ คลองบางโรง เป็นต้น ภูมิอากาศ ภูเก็ตมีลักษณะภูมิอากาศแบบเส้นศูนย์สูตร อยู่ในเขตอิทธิพลลมมรสุม อากาศจึงอบอุ่นและชุ่มชื้นตลอดปี มีเพียง 2 ฤดู คือ ฤดูฝน ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน ฤดูร้อน ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงเหนือ เริ่มตั้งแต่ธันวาคมถึงเมษายน เดือนมีนาคมเป็นเดือนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดคือ 33.4 องศาเซลเซียส เดือนมกราคมเป็นเดือนที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดคือ 22 องศาเซลเซียส

ปัจจุบัน ภูเก็ตถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย ที่รู้จักกันในนาม ไข่มุกแห่งอันดามัน ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และเป็นจุดมุ่งหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศอย่างแท้จริง

คำขวัญประจำจังหวัดภูเก็ต

" ไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้ หาดทรายสีทอง สองวีรสตรี บารมีหลวงพ่อแช่ม "


เห็นไม๊เบิ้มว่าภูเก๊ตเป็น ภูเก็ตเป็นส่วนหนึ่ง ของอาณาจักรตามพรลิงค์ (นครศรีธรรมราช)
เพราะฉะนั้นเบิ้มต้องส่งลูกชิ้นมาเป็นเครื่องบรรณาการให้ชาวอาณาจักรตามพรลิงค์


ขอเป็ฯลูกชิ้นปลาเจ้าดังระดับอินเตอร๋ส่งนอกนะ สองโล
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #249462 เมื่อ: กันยายน 27, 2010, 12:09:17 PM »

babor, Pandanus, SOUTHLANDER, soveat- รักในหลวง, ต้นหนาว, tum610, lugkrod (+ 1 ซ่อนตัว) และ 6 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้




ช้าก่อนท่านอำมาตย์ดุน  โน้นเจ้าเมืองยืมม็องโย๋นุ  จะทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาเยี่ยงนี้ได้อย่างไร
บันทึกการเข้า
soveat ชุมไพร
มือสังหารคันคากหมุ่น พรานปลาวัด พราน28k สมช. เลขที่ 1475
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3429
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 30132


เลือดกรุ๊ป โอละนออออออออออออ


เว็บไซต์
« ตอบ #249463 เมื่อ: กันยายน 27, 2010, 12:09:51 PM »

เดินซื้อของเร่งรีบ อีตอนใกล้ปิดงบประจำปี



ผล.....ปวดเข่า..  Undecided

หัวเข่า คล็อกแคล็กเสียแล้ว...

มีวิธีรักษาไม๊ครับน้า....

คงใช้งานหนัก...อยู่ที่ทำงานก็เดินมาก เข่าก็ทำงานหนักตามไปด้วย....

                      หลบอยู่บ้าน...เข่าก็ยังโดนใ้ช้งานอีก ไม่ได้พัก... Grin

วิธีแก้คือต้องลดอายุตัวเองครับลุงตุ้ม   Grin
บันทึกการเข้า

จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
tum610
sorry i'm happy
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7385
ออฟไลน์

กระทู้: 68526


ความตาย อยู่ที่ปลายจมูก


« ตอบ #249464 เมื่อ: กันยายน 27, 2010, 12:10:04 PM »


เห็นไม๊เบิ้มว่าภูเก๊ตเป็น ภูเก็ตเป็นส่วนหนึ่ง ของอาณาจักรตามพรลิงค์ (นครศรีธรรมราช)
เพราะฉะนั้นเบิ้มต้องส่งลูกชิ้นมาเป็นเครื่องบรรณาการให้ชาวอาณาจักรตามพรลิงค์


ขอเป็ฯลูกชิ้นปลาเจ้าดังระดับอินเตอร๋ส่งนอกนะ สองโล


งั้นน้าดุนนับถอยหลังอีกสามสิบสามวัน...ได้ลิ้มลองแน่นอน.... Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 ... 16628 16629 16630 [16631] 16632 16633 16634 ... 35779
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.199 วินาที กับ 22 คำสั่ง