ผมก็เช่นกันครับหลบให้ทุกครั้ง บางครั้งรีบลุกลี้ลุกลนเกือบชนคันอื่น แต่มีอยู่วันนึง เจ็บใจนิดๆ จอดรถจะแวะลงซื้อ่ของกินตอนเช้า ได้ยินเสียงรถกู้ภัยดังมาไกลๆ พอใกล้เข้ามาก็ปิดสัญญานแล้วก็เลี้ยวมา จอดใกล้ๆรถผม คนขับกับคนนั่ง2คน ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปสั่งกาแฟกิน เฉยเลย ที่โต๊ะก็มีพวกกู้ภัยนั่งกันอยู่ก่อนแล้วหลายคน
ที่เจ้าของกระทู้พูดถึง และผมเข้าใจมาตั้งแต่ต้นคือ ญัตตินี้ครับ
ญัตติที่ว่าด้วย "การเปิดสัญญาณฉุกเฉิน ในกรณีที่ไม่มีเหตุฉุกเฉิน" ตลาดหัวอิฐ เมื่อหลายปีก่อน ผมนั่งดื่มกับเพื่อนที่บนดาดฟ้าของตึกสูง เห็นเหตุการณ์แทบจะทั่วเมืองคอนทีเดียว
เพื่อนผมคนนี้ เป็นวีอาร์ด้วย เปิดวิทยุวิ่งช่องตลอด เกิดเหตุ แจ้งเหตุเข้ามูลนิธิ เพื่อนผมพลอยรับรู้ด้วย....
ก็เห็น มูลนิธิสีเหลือง เปิดไฟฉุกเฉินเสียงหวอดังมาแต่ไกลจากถนนราชดำเนิน ตรงมาทางหัวอิฐ
แล้วเสียงในวิทยุก็ดังเซ็งแซ่เลย เป็นเสียงของมูลนิธิสีขาว ที่สงสัยว่า มูลนิธิสีเหลือง ไปออกเหตุอะไร ที่ไหน ทำไมเขาไม่รู้ ตรวจสอบด่วน .....
พอผ่านตลาดพืชผล มาถึงใต้สะพานลอย ไฟฉุกเฉินก็ดับ รถชะลอ และจอดแอบข้างทาง สองคนในรถเปิดประตูลงมา ไม่ได้อยู่ในเครื่องแบบ.... ลงมากินน้ำชา....
เขาได้รับอนุญาตให้ใช้ไซเรนได้ เพราะเขาช่วยเหลือคนอื่น โดยไม่หวังผลตอบแทน ถ้าใครมีโอกาสได้เห็นตอนเขาเข้าช่วยเหลือคนเจ็บล่ะก็
ขอบอกว่า น่าถ่ายวีดีโอไว้ดูมาก เหมือนกับทีมสตาฟของทีมแมคลาเรนเปลี่ยนยางรถ F1 ทีเดียว ผมไม่เชื่อว่า ทีมหมอ พยาบาล ที่ไหน จะฉับไวและดุดันเท่ามูลนิธิ
แต่น้อง ๆ มูลนิธิ ส่วนใหญ่ มือใหม่ ๆ จะเป็นวัยรุ่น ยังมีคะนอง ยังมีอารมย์สนุก กับการได้แกล้งให้อีกฝ่าย ตกอกตกใจ สงสัยเล่น....
ผมว่า ปล่อยได้ ปล่อยเถอะครับ เราอาจหมั่นใส้ในบางกรณี ก็ ปล่อยวาง.. เพราะนึกถึงตอนที่เขาทุ่มเทช่วยเหลือคนเจ็บแล้ว เราจะยกย่องพวกเขาแทน
ออกอาการน่าเป็นห่วง ....... แลสำนวนต๊ะพี่น้อง