เรื่องเด็กสายอาชีพนี่มันมีปัจจัยเยอะครับน้าดุล ผมเคยไปเป็นอาจารย์พิเศษสอนพวกนี้อยู่ที่การอาชีพเบตงสองปี พอรู้ว่าอะไรเป็นอะไรบ้างนิดหน่อย แต่ด้านวิชาการถอยลงแน่ๆครับ เพราะไปจับเด็กปอเนอะมาเรียน
ผมเคยเจออยู่เคสนึง วิชาวงจรไฟฟ้าเบื้องต้น เริ่มเรียนจาก 0 และก็เรียนจบเป็น 0 มาเรียนทุกครั้ง ทุกคาบ ไม่เคยขาดเลย แต่ก็ไม่เอาใหนเลย ขนาดผมชี้ว่าพรุ้งนี้สอบให้ไปดูข้อนี้มาน่ะ มรันยังส่งกระดาษเปล่า
ผมบอกจะให้ 0 มรันบอกว่าถ้าอาจารย์ให้ 0 มรันจะลาออก
เอากะมันสิ อยู่ที่เราจะตัดสินใจแล้วทีนี้ จะเอามันออกจากระบบการศึกษาหรือจะคอยดูมันป้วนเปี้ยนอยู่กับเราต่อไป อย่างน้อยก็อีก 2 ปี
เห็นแล้วส่ายหัวดิก นี่หรือวะคนรับช่วงประเทศไทยแทนตรู
ไม่หรอกครับลุง เด็กพวกนี้ถ้าจะเทียบไปก็เหมือนพวกบ้านๆ จบ รร. บ้านๆ ถึงเรียนจบไปได้ก็แค่ ปวช. 3 แต่ตอนนี้ส่วนใหญ่มีถึง ปวส. แล้ว แถมบางการอาชีพมีถึง ป. ตรีแล้วด้วย แต่ร้อยทั้งร้อย พวกที่จบได้ไม่เคยได้ขึ้นไปหางานที่เมืองหลวงหรือตามนิคมอุตสาหกรรมหลักๆของเมืองไทยหรอกครับ อย่างเก่งก็ทำงานที่บ้านเกิด จะว่าไปก็ดีไปอย่างนะครับผมว่า เด็กจะได้ไม่ทิ้งบ้านเกิด
ยกเว้นพวกเรียนดีมีกำลังทรัพย์ส่งเข้าไปเรียนเมืองหลวง พวกนี้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยกลับบ้านครับ อย่างโกลกเป็นต้น เด็กไทยเด็กจีนที่พ่อแม่มีกำลังส่งให้เรียนหรือซีเรียสเรื่องการเรียนของลูก อย่างช้าสุด ม.1 ต้องไปเรียนที่หาดใหญ่แล้ว แล้วก็ไต่ขึ้นไปเรื่อยๆจนสุดท้ายก็เหลือกันแค่สองตายายคอยเฝ้าบ้าน จะเจอหน้าได้แต่ละครั้งก็ต้องคอยวันสำคัญต่างๆปีละหน
ได้ยินมา ระดับวิทยาลัยเทคนิคจะเปิดระดับปริญญาตรี ตรูจะบ้าตาย จะเอาไปทำไมนักหนากะปริมาณ ขอเน้นเนื้อๆหน่อยได้ไม๊ ปวช. ปวส. ที่เข้มๆหน่อยน่ะ
ม.รภ.ทำได้ ที่อื่นก็ทำได้
แต่ก่อนสมัยเนวค.ถือว่าเข้มข้น
ยุคแรกๆตอนเป็นม.รภ. ก็ยังแน่นด้วยคุณภาพ
มีเพื่อนจบ ม.รภ. สอบเป็นอาจารย์ของม.เอกชนได้
หลังจากนั้นราวๆ5ปี ทางมหาวิทยาลัยเอกชน ก็ไม่ใช้
ผู้จบม.รภ.สมัครสอบเข้าเป็นอาจารย์อีกเลย
ทุกวันนี้ บ.บางแห่ง มีอักษรแดงอยู่ท้ายใบสมัคร
"ไม่รับ ผู้จบการศึกษาจากม.รภ.ทุกแห่ง"เดี๋ยวนี้ ผมเสียดาย ม.รภ.มากๆ ไม่เข้มข้นเหมือนเดิม