มีครับเขาลงรูปแล้วด้วยที่ซีวีคคลับ
รถ honda civic คันใหม่สีขาวของผมซื้อมาแบบใหม่เอี่ยมจากโรงงานผลิต หลังจากรอมาประมาณ 2 เดือน ผมก็ได้รับรถคันนี้มาเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2553 ผมใช้งานมาได้ 6 เดือนกับอีก 1 สัปดาห์ ขับมาแล้วได้ระยะทาง 10,396 km. เท่านั้น การใช้งานก็เป็นแบบปกติของผู้ใช้รถทั่วไปค่อนไปทางถนอมรถอีกต่างหาก รถคันนี้ใช้ขับจากบ้านพักที่ จ.ปทุมธานี - ฐานทัพอากาศดอนเมือง ระยะทางไป-กลับ ไม่เกิน 50 km. ต่อวัน แต่แล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม พ.ศ.2554 เวลา 19.50 น. ขณะขับรถจากฐานทัพอากาศดอนเมือง มุ่งหน้ารังสิตบนถนนโลคัลโรดเพื่อที่จะเดินทางกลับบ้านพักเช่นเดียวกับทุก วันที่ผ่าน
มา ซึ่งถนนเส้นนี้เป็นถนนคู่ขนานกับถนนวิภาวดีฝั่งขาออก ความเร็วในการขับรถบนถนนเส้นนี้จะช้ากว่าบนถนนวิภาวดีมาก และเมื่อขับรถมาถึงบริเวณหน้าซอยทางเข้าวัดรังสิต ล้อหลังด้านซ้ายได้หลุดออกตกลงไปในคูน้ำข้างทาง จากนั้นรถก็เสียการทรงตัวจนหมุน แต่ผมสามารถควบคุมรถกลับเข้าจอดข้างทางได้เพราะว่าขับมาไม่เร็ว โดยไม่มีการเฉี่ยวชนใดๆ เมื่อผมจอดรถและลงสำรวจสภาพรถได้พบว่าล้อหลังด้านซ้ายได้หลุดออกโดยมีลักษณะ หักออกจา
กแกนของล้อรถอย่างเห็นได้ชัดเจน คาดว่าเป็นเพราะวัสดุที่ใช้ในระบบช่วงล่างบกพร่อง ไม่สามารถรับน้ำหนักของตัวรถเองได้ จึงเป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางบริษัท Honda ได้ส่งผู้จัดการศูนย์และผู้จัดการฝ่ายขายมาดูสภาพรถที่ถูกลากไปไว้ที่อู่ พร้อมกับเดิ
นทางไปดูสถานที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 28 ม.ค.54 โดยตัวแทนไปดูสถานที่เกิดเหตุกันเอง แล้วได้โทรศัพท์แจ้งให้ทราบถึงข้อสรุปของการที่แกนล้อหักว่าสาเหตุเกิดจาก การที่รถเส
ียหลักไปโดนก้อนหิน ซึ่งทั้งนี้ก้อนหินนั้นเป็นก้อนหินที่ไม่ได้อยู่บนถนนแต่อยู่นอกไหล่ทางและฝังอยู่ใน
ดิน ผมจึงขอให้ทางบริษัท honda ปทุมธานี ดำเนินการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอีกครั้งโดยครั้งนี้ผมต้องไปด้วย ทางบริษัท honda ปทุมธานี ก็ได้ส่งตัวแทนซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย และผู้จัดการศูนย์ Honda รวมทั้งเจ้าหน้าที่เทคนิคจากสำนักงานใหญ่(เค้าว่าอย่างนั้น) มาร่วมตรวจดูสภาพรถและที่เกิดเหตุอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ที่ 29 ม.ค.54 คราวนี้ผมได้ชี้ให้ตัวแทนทั้งสามคนเห็นตำแหน่งที่ล้อรถข้างหลังซ้ายตกลงไปใน คูน้ำข้า
งทางและกระแทกต้นกล้วยที่อยู่ข้างทางจนหักล้มลง ซึ่งตำแหน่งที่ล้อรถตกลงไปในคูน้ำและกระแทกกับต้นกล้วยนั้นอยู่ก่อนร่องรอยการครูดขอ
งตัว รถที่เสียหลักกับพื้นถนน โดยห่างกันประมาณ 10 เมตร จากนั้นผมก็ได้พูดคุยกันตามข้อมูลหลักฐานที่เกิดขึ้นจากทั้งที่ตัวรถและสถาน ที่เกิดเ
หตุเป็นที่เรียบร้อย ทางบริษัท Honda ปทุมธานี ยังมิได้มีการแสดงความรับผิดชอบใดๆ โดยให้ผมรอข้อสรุปจากส่วนกลางซึ่งผมยังไม่รู้ว่าจะได้รับทราบข้อมูลที่แน่ นอนเมื่อไร
อีกทั้งเมื่อวันที่ 31 ม.ค.54 ตัวแทนของบริษัท honda ก็ได้เข้าไปดูสภาพรถที่อู่อีกครั้งโดยที่ไม่มีการแจ้งให้ผมทราบก่อน แต่ทั้งนี้พนักงานของอู่ได้โทรมาแจ้งขอให้ผมเข้าไปที่อู่เพื่อลงชื่อไว้เป็น หลักฐานว
่าผมผู้เป็นเจ้าของรถขอห้ามมิให้ผู้ใดมารื้อรถหรือเคลื่อนย้ายรถออกจากอู่เพราะยังอย
ู่ระหว่างการดำเนินการกับทางบริษัท honda อยู่ เพื่อเป็นการป้องกันหากมีการกระทำใดๆที่ไม่ตรงไปตรงมา
จึง ขอเรียนให้ผู้ใช้รถ honda civic ทุกท่านโปรดอย่าวางใจในคุณภาพของรถ civic ของท่าน เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันอาจเกิดขึ้นกับผู้ใช้รถ civic ท่านใดก็ได้ เพราะพัสดุที่นำมาประกอบเป็นรถ civic ของท่านก็น่าจะมาจากแหล่งการผลิตเดียวกันกับพัสดุที่ประกอบกับรถ civic ของผมเป็นแน่ เห็นควรให้ทุกท่านช่วยกันกระจายข้อมูลนี้ให้กับผู้ที่ใช้รถ civic ที่ท่านสามารถติดต่อได้เพื่อจะได้ระมัดระวังตนให้มากขึ้น และร่วมกันเรียกร้องให้บริษัท honda ทำการตรวจสอบรถ civic หรือรถรุ่นอื่นๆ ในระบบดังกล่าว เพื่อท่านจะได้ทราบว่าพัสดุที่นำมาประกอบกับรถ honda มีคุณภาพและทำให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ใช้รถจริงหรือไม่
สำหรับผม แล้วถือว่าโชคดีที่รอดมาได้แบบไม่บาดเจ็บใดๆ แต่ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนที่ต้องใช้ความเร็วที่สูงกว่านี้ เช่น ทางด่วน, มอเตอร์เวย์ หรือ ถนนสายหลักต่างๆ แล้วอะไรจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา ท่านลองนึกภาพดูเองนะครับ
ผมไม่มีความมั่นใจหลงเหลือในการจะใช้รถ civic อีกเลย ถึงแม้จะเป็นคันใหม่ป้ายแดงอีกคันหนึ่งก็ตามที
“รถ CIVIC ของผมที่พังลงไป คงเป็นรถ HONDA คันสุดท้ายของชีวิตผม” ครับ
http://www.civicfdthailand.com/ipb_forum/index.php?showtopic=112069&st=60
