เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 09, 2024, 10:16:06 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 20138 20139 20140 [20141] 20142 20143 20144 ... 35779
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อนคอปืน...ด้ามขวาน  (อ่าน 25775163 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 212 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Udomkd
รักษ์ธรรมชาติ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3700
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 41046



« ตอบ #302100 เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 09:33:28 PM »

พักนี้เบื่อแระเบียร์...........โดนชุดวาซือ...เอม...........

หว๋างนี้เอิดจัง โทรไม่รับเลยน๊ะ  บู่
อย่าแหลงหว๋า คนเอินโทรมาแล้วเพ ส่งเบอร์มามั่งต๊ะ...หาม่ายเบอร์โทรไป
บันทึกการเข้า

รักมิตร รักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีด้ามขวาน
   รักมิตรรักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีคมขวาน
   รักมิตร รักเพื่อน
tum610
sorry i'm happy
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7385
ออฟไลน์

กระทู้: 68526


ความตาย อยู่ที่ปลายจมูก


« ตอบ #302101 เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 09:35:29 PM »

                                                ไหว้ ไหว้ ราตรีสวัสดิ์ครับ

                                    อ่าววว..   ยังไม่มีเรื่องที..อย่าพึ่งหนีไปนอนดิครับ.. Grin
บันทึกการเข้า

Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2947
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 40236



« ตอบ #302102 เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 09:51:53 PM »

น่าซื้อไว้ใช้สักอัน

 Grin Grin Grin

ส้วมพกพา
http://board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=8&topic_no=264531&topic_id=268217



โชคดีร่ำรวย
 Cool Cool Cool
บันทึกการเข้า

ขายที่ดิน 20 ไร่ บริเวณคลอง 8 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมฯ ไร่ละ 1.8 ล้าน โทร 086-2859988
กดที่นี่ >>http://www.wikimapia.org/#lat=14.0499777&lon=100.7824481&z=17&l=0&m=b
อาร์ พี จี.
(อาวุธพื้นๆ)
Hero Member
*****

คะแนน 739
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8479


ถีบรถถีบกันเต๊อะ


« ตอบ #302103 เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 10:33:13 PM »

ฮัลโหล้ Grin.....นานๆได้เข้ามาที เปิดถึงพบขี้เรย บู่ บู่
บันทึกการเข้า

เวบบอร์ดมีไว้คลายเครียด อย่าซีเรียส..เดี๋ยว "บ้า"
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #302104 เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 11:05:54 PM »


ไม่พักได้นอน ลุ้นเป็นห่วง อย่าให้น้ำท่วมสุราษ ด้วยอีกเลย หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #302105 เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 11:06:43 PM »

ฮัลโหล้ Grin.....นานๆได้เข้ามาที เปิดถึงพบขี้เรย บู่ บู่


พันพรือมั้ง ปอหกบวกหก ลอยน้ำแล้วม้ายขรั๊บ ผอออกอออรอมอนอ Grin
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #302106 เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 11:13:19 PM »


ยกมาตั้งไว้ในเริน กระทู้ฮุมฮำยาวสุด ทำลายสถิติของลุงแก Grin



หุๆ...ธรรมชาติ มันก็เป็นของมันอยู่งี้แหละ หนักเบา เป็นธรรมชาติ...........

"คน"เองทั้งนั้น ไปว่าธรรมชาติอย่างงั้นอย่างงี้..........

ปล.ขอบ่นตามประสาคนพอมีอายุน๊ะครับ อ่านเอาฮาเข้าว่า อิๆๆ

ผมผ่านร้อนหนาวมาประมาณ 40 กว่าไปกลางๆ คำนวนกันเอาเอง....

จำได้เลาๆว่า อายุสักสิบกว่า ๆ แม่ผมเกี่ยวข้าวในน้ำ(นาปีทางใต้ เกี่ยวหลังปีใหม่ช่วงหน้าร้อนน๊ะครับ ครั้งนี้ จำเวลาได้ไม่แน่นอน)

ครั้งที่สอง ปี 31 ผมเป็นพลทหาร ไปฝึกภาคสนาม ที่นครศรีธรรมราช(ปีกะทูนล่มนั่นแหละ) ปีนั้น สงกรานต์ฝนหนักเช่นกัน

มาปีนี้.......ท่วมก่อนสงกรานต์นิดเดียว..........

เอากันตาม(ที่คิดเอาเอง) หากว่า คนไม่มากมายเช่นปัจจุบันนี้

คนไม่ปลูกสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก อะไรหลายๆอย่างขึ้นมา......รวมทั้งไม่ทำลายอะไรหลายๆอย่างไปด้วย

น้ำก็คงท่วมนั่นแหละ ใช่ว่าจะไม่ท่วม แต่คนก็จะไม่เดือดร้อน หากว่าคนไม่ไปอยู่..ในบริเวณที่น้ำจะท่วม(55+) อ่านแล้วใครคิดจะด่าแม่ก็ด่าไปน๊ะครับ แต่อย่าด่าให้ผมได้ยิน คริๆๆ

เราอย่าไปคิดเรื่องที่ว่า คนจำเป็นต้องการที่อยู่อาศัยและแหล่งทำกิน น๊ะครับ ยกตั้งใว้ แต่มันก็จะต้องเกี่ยวข้องกันอยู่ เอาเป็นว่า บ้านเราเมืองร้อน อยู่ในเขตมรสุม เป็นป่าเขตร้อน ป่าและภูเขา ธรรมชาติสร้างเอาใว้ ให้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำธรรมชาติ

เมื่อหน้ามรสุม ลมมา ฝนมา ป่ากั้นใว้ เก็บน้ำใว้ แล้วค่อยๆปล่อยลงมา ในฤดูแล้ง เป็นวัฏจักร

(เมืองหนาวไม่มีป่า มีแต่ภูเขาหิน ส่วนมาก มีหิมะเกาะอยู่เมื่อเข้าฟดูหนาว เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน หิมะก็ค่อยๆละลายปลดปล่อยน้ำลงมา)

เป็นอย่างนี้ วนเวียนไปตลอดปี ตามฤดูกาล เฉกเช่นที่เราเข้าใจกันมา

หากแต่เมื่อ...ไม่รู้ใครว่า หลายๆคนว่า โทษกันไปมา ว่ามึงว่ากู ทำโลกร้อน.................
 หิมะละลายเร็ว น้ำก็มาก ก็ท่วม เพราะไหลมาเร็วเกิน ที่จะระบายได้ทัน
น้ำก็ระเหย...มาก ก็กลายไปเป็นเมฆมาก เทวดาท่านก็คงขี้เกียจที่จะอุ้มใว้ ก็เลยปล่อยกลับลงมามาก.........ก็ท่วม

มาถึงพื้นดิน ที่น้ำท่วม หากแต่ว่า.... มันมีแต่ต้นไม้ สัตว์ป่าแมลงทั้งหลาย.....มันก็คงไม่มีอะไรเดือดร้อน......ล้มหายตายจากกันไป ก็จบกันแค่นั้น..........

อีทีนี้ ในพื้นที่เหล่านั้น มันดันมามี"คน"อาศัยอยู่ด้วยน๊ะซิครับ ก็เลยเกิดความเดือดร้อนขึ้นมา............

แต่ก่อน..........คนน้อย เขาก็อาศัยกันอยู่เป็นกลุ่มๆไม่มากมายจนเกินไป ส่วนมากแล้วก็จะอาศัย....อิงแอบอยู่กับน้ำครับ สังเกตุดูชุมชนเก่าแก่ อาศัยอยู่ในที่ลุ่มริมน้ำทั้งนั้น เพราะอะไร...

เพราะคนอาศัยน้ำ หล่อเลี้ยงชีวิต น้ำให้เกือบทุกสิ่งที่จำเป็นแก่คน ไม่ว่าทั้งการเดินทาง อาหาร ใช้สอย จิปาถะ.........

กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า..."เรา"อยู่ในเขตมรสุม ยังไงๆก็หนีฝนตก น้ำท่วมไม่ได้ จะมาก จะน้อยก็แล้วแต่ว่า แต่ละปี จะมีพยานาคให้น้ำกี่ตัว 55++

คนแต่ก่อนเขารู้..บรรพบุรุษเรารู้ เขาสร้างบ้านกันอย่างไร........

แต่คนสมัยนี้ อาจจะเถียงว่า จะไปเอาอย่างคนสมัยก่อนได้อย่างไร....ผล ก็เดือดร้อนกันทุกถ้วนหน้า ผมเองก็โดนด้วยครับ....มิใช่ว่า จะไม่โดน

เรื่องที่อยู่อาศัย สมันก่อนบ้านเสาสูง เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก((ที่มาตามฤดูกาล)หรือไม่ก็ตาม) น้ำมาก็ท่วมซิ ท่วมได้ท่วมไป....ใต้ถุนบ้านมีเรือ สมบัติพัดสถานทั้งหลายแหล่ ก็ไม่ได้มีให้ห่วงมากมาย เฉกเช่นคนสมัยนี้ เขาอยู่ได้ไม่เดือดร้อน น้ำก็ไม่ได้หลากมาแบบติดเทอร์โบ เช่นสมัยนี้ เพราะมีป่า มีธรรมชาติคอยช่วยซับ ช่วยพยุงเอาใว้ น้ำท่วมสมัยก่อน (จำได้บ้านผม) น้ำใส อาบเล่นได้สนิทใจ

น้ำก็ค่อยๆไหล ไปตามทางทางมัน จากที่สูง ไปสู่ที่ต่ำ ไม่มีอะไรมาขวางกั้นเขาใว้ ตามธรรมชาติ...........

อยู่มานานเข้า........คนเริ่มมากขึ้น วิ๔ีบางอย่าง หลายอย่างเปลี่ยนไป...........

เริ่มปลูกบ้านไม่มีเสา............อยู่ติดพื้น

มีรถเข้ามาวิ่งแทนเกวียน แทนม้า แทนวัวควาย แทนลาช้าง และเหตุผลอื่นๆ เหมารวมว่า "คน"พัฒนาขึ้น ตามเขาว่า(ผมก็มีกับเขาด้วย)

ก็ต้องมีถนนให้รถวิ่ง ต้องสร้างสะพานข้ามคลองหนองบึง

อีกฯลฯ

คิดต่อแล้วกันครับ

กราบขอประทานอภัย ที่พิมพ์มารกกระทู้

แต่ไม่ลบละ..........

ด้วยความเคารพ ผมเริ่มมั่วเองแระ

ขอแสดงความเสียใจ กับผู้ที่สูญเสีย และเสียหาย

ขอให้กำลังใจกับทุกท่าน   ไหว้
บันทึกการเข้า
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #302107 เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 11:14:33 PM »


ตอนนี้แถว วค. พันพรือมั้งน้าสิงห์ บางทีต่อเช้าอาจต้องไป ว.4 แถวนั้น จะได้บอกคณะให้ตรวจสอบเช็คเส้นทางก่อนออกเดินทางอีกครั้ง

สายนั้นไม่น่ามีปัญหา หากติหลบนะครับ แต่หากจะไปกรุงเต๊บ ตอนนี้น่าจะเหนื่อย  ไหว้
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #302108 เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 11:16:16 PM »

นายสิงห์กลิ้ง, Padang, tum610 (+ 1 ซ่อนตัว) และ 28 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้


เอ่อ เตรียม ฮ. สำรองไว้ก็ดีนะ หรือไม่ GMC เลย เผื่อต้องใช้ Grin


เสียงว่า ขาไปก็ไปทาง วค. หั้นแหละ ชาด นายหัวรถมันดันทุรังจริง ๆ เป็นตรู ตรูเลี้ยวหลบหลังกินข้าวเสร็จที่วังกุ้งแล้ว บู่
บันทึกการเข้า
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #302109 เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 11:17:59 PM »


ยกมาตั้งไว้ในเริน กระทู้ฮุมฮำยาวสุด ทำลายสถิติของลุงแก Grin



หุๆ...ธรรมชาติ มันก็เป็นของมันอยู่งี้แหละ หนักเบา เป็นธรรมชาติ...........

"คน"เองทั้งนั้น ไปว่าธรรมชาติอย่างงั้นอย่างงี้..........

ปล.ขอบ่นตามประสาคนพอมีอายุน๊ะครับ อ่านเอาฮาเข้าว่า อิๆๆ

ผมผ่านร้อนหนาวมาประมาณ 40 กว่าไปกลางๆ คำนวนกันเอาเอง....

จำได้เลาๆว่า อายุสักสิบกว่า ๆ แม่ผมเกี่ยวข้าวในน้ำ(นาปีทางใต้ เกี่ยวหลังปีใหม่ช่วงหน้าร้อนน๊ะครับ ครั้งนี้ จำเวลาได้ไม่แน่นอน)

ครั้งที่สอง ปี 31 ผมเป็นพลทหาร ไปฝึกภาคสนาม ที่นครศรีธรรมราช(ปีกะทูนล่มนั่นแหละ) ปีนั้น สงกรานต์ฝนหนักเช่นกัน

มาปีนี้.......ท่วมก่อนสงกรานต์นิดเดียว..........

เอากันตาม(ที่คิดเอาเอง) หากว่า คนไม่มากมายเช่นปัจจุบันนี้

คนไม่ปลูกสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก อะไรหลายๆอย่างขึ้นมา......รวมทั้งไม่ทำลายอะไรหลายๆอย่างไปด้วย

น้ำก็คงท่วมนั่นแหละ ใช่ว่าจะไม่ท่วม แต่คนก็จะไม่เดือดร้อน หากว่าคนไม่ไปอยู่..ในบริเวณที่น้ำจะท่วม(55+) อ่านแล้วใครคิดจะด่าแม่ก็ด่าไปน๊ะครับ แต่อย่าด่าให้ผมได้ยิน คริๆๆ

เราอย่าไปคิดเรื่องที่ว่า คนจำเป็นต้องการที่อยู่อาศัยและแหล่งทำกิน น๊ะครับ ยกตั้งใว้ แต่มันก็จะต้องเกี่ยวข้องกันอยู่ เอาเป็นว่า บ้านเราเมืองร้อน อยู่ในเขตมรสุม เป็นป่าเขตร้อน ป่าและภูเขา ธรรมชาติสร้างเอาใว้ ให้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำธรรมชาติ

เมื่อหน้ามรสุม ลมมา ฝนมา ป่ากั้นใว้ เก็บน้ำใว้ แล้วค่อยๆปล่อยลงมา ในฤดูแล้ง เป็นวัฏจักร

(เมืองหนาวไม่มีป่า มีแต่ภูเขาหิน ส่วนมาก มีหิมะเกาะอยู่เมื่อเข้าฟดูหนาว เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน หิมะก็ค่อยๆละลายปลดปล่อยน้ำลงมา)

เป็นอย่างนี้ วนเวียนไปตลอดปี ตามฤดูกาล เฉกเช่นที่เราเข้าใจกันมา

หากแต่เมื่อ...ไม่รู้ใครว่า หลายๆคนว่า โทษกันไปมา ว่ามึงว่ากู ทำโลกร้อน.................
 หิมะละลายเร็ว น้ำก็มาก ก็ท่วม เพราะไหลมาเร็วเกิน ที่จะระบายได้ทัน
น้ำก็ระเหย...มาก ก็กลายไปเป็นเมฆมาก เทวดาท่านก็คงขี้เกียจที่จะอุ้มใว้ ก็เลยปล่อยกลับลงมามาก.........ก็ท่วม

มาถึงพื้นดิน ที่น้ำท่วม หากแต่ว่า.... มันมีแต่ต้นไม้ สัตว์ป่าแมลงทั้งหลาย.....มันก็คงไม่มีอะไรเดือดร้อน......ล้มหายตายจากกันไป ก็จบกันแค่นั้น..........

อีทีนี้ ในพื้นที่เหล่านั้น มันดันมามี"คน"อาศัยอยู่ด้วยน๊ะซิครับ ก็เลยเกิดความเดือดร้อนขึ้นมา............

แต่ก่อน..........คนน้อย เขาก็อาศัยกันอยู่เป็นกลุ่มๆไม่มากมายจนเกินไป ส่วนมากแล้วก็จะอาศัย....อิงแอบอยู่กับน้ำครับ สังเกตุดูชุมชนเก่าแก่ อาศัยอยู่ในที่ลุ่มริมน้ำทั้งนั้น เพราะอะไร...

เพราะคนอาศัยน้ำ หล่อเลี้ยงชีวิต น้ำให้เกือบทุกสิ่งที่จำเป็นแก่คน ไม่ว่าทั้งการเดินทาง อาหาร ใช้สอย จิปาถะ.........

กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า..."เรา"อยู่ในเขตมรสุม ยังไงๆก็หนีฝนตก น้ำท่วมไม่ได้ จะมาก จะน้อยก็แล้วแต่ว่า แต่ละปี จะมีพยานาคให้น้ำกี่ตัว 55++

คนแต่ก่อนเขารู้..บรรพบุรุษเรารู้ เขาสร้างบ้านกันอย่างไร........

แต่คนสมัยนี้ อาจจะเถียงว่า จะไปเอาอย่างคนสมัยก่อนได้อย่างไร....ผล ก็เดือดร้อนกันทุกถ้วนหน้า ผมเองก็โดนด้วยครับ....มิใช่ว่า จะไม่โดน

เรื่องที่อยู่อาศัย สมันก่อนบ้านเสาสูง เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก((ที่มาตามฤดูกาล)หรือไม่ก็ตาม) น้ำมาก็ท่วมซิ ท่วมได้ท่วมไป....ใต้ถุนบ้านมีเรือ สมบัติพัดสถานทั้งหลายแหล่ ก็ไม่ได้มีให้ห่วงมากมาย เฉกเช่นคนสมัยนี้ เขาอยู่ได้ไม่เดือดร้อน น้ำก็ไม่ได้หลากมาแบบติดเทอร์โบ เช่นสมัยนี้ เพราะมีป่า มีธรรมชาติคอยช่วยซับ ช่วยพยุงเอาใว้ น้ำท่วมสมัยก่อน (จำได้บ้านผม) น้ำใส อาบเล่นได้สนิทใจ

น้ำก็ค่อยๆไหล ไปตามทางทางมัน จากที่สูง ไปสู่ที่ต่ำ ไม่มีอะไรมาขวางกั้นเขาใว้ ตามธรรมชาติ...........

อยู่มานานเข้า........คนเริ่มมากขึ้น วิ๔ีบางอย่าง หลายอย่างเปลี่ยนไป...........

เริ่มปลูกบ้านไม่มีเสา............อยู่ติดพื้น

มีรถเข้ามาวิ่งแทนเกวียน แทนม้า แทนวัวควาย แทนลาช้าง และเหตุผลอื่นๆ เหมารวมว่า "คน"พัฒนาขึ้น ตามเขาว่า(ผมก็มีกับเขาด้วย)

ก็ต้องมีถนนให้รถวิ่ง ต้องสร้างสะพานข้ามคลองหนองบึง

อีกฯลฯ

คิดต่อแล้วกันครับ

กราบขอประทานอภัย ที่พิมพ์มารกกระทู้

แต่ไม่ลบละ..........

ด้วยความเคารพ ผมเริ่มมั่วเองแระ

ขอแสดงความเสียใจ กับผู้ที่สูญเสีย และเสียหาย

ขอให้กำลังใจกับทุกท่าน   ไหว้

ร่ายซะยาว หัวหมอจิงๆ โลกเพ่เรา  เยี่ยม

สมแล้วที่อายุปูนนี้  เยี่ยม

คิดไรพูดอย่างนั้น เหมือนอยากตดที่ไหนก็ตด  คิก คิก
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #302110 เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 11:18:12 PM »

หึหึหึ ผมนึกแล้วว่าต้องมาทาง ว.ค. ตกลงเอาไงครับ
บันทึกการเข้า
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #302111 เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 11:20:00 PM »

กินน้ำส้มเสร็จ วิตามินซีป้องกันหวัด อากาศชื้นๆแบบนี้ไข้ได้ง่ายๆ  เยี่ยม




เยี่ยวเอาน้ำส้มออก กินเบียร์ต่อ  Grin



คืนนี้มีไข่ดาว ยำปลากระป๋อง(กินสมฐานะ)  เยี่ยม
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #302112 เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 11:22:32 PM »


ตอนนี้แถว วค. พันพรือมั้งน้าสิงห์ บางทีต่อเช้าอาจต้องไป ว.4 แถวนั้น จะได้บอกคณะให้ตรวจสอบเช็คเส้นทางก่อนออกเดินทางอีกครั้ง

สายนั้นไม่น่ามีปัญหา หากติหลบนะครับ แต่หากจะไปกรุงเต๊บ ตอนนี้น่าจะเหนื่อย  ไหว้


ม้ายใช่ไหร๋หรอก คือถ้าไป ต่อเช้าไปกันสองคัน คันหนึ่งคุณแลนครุย อีกคันไอ้เอสคาปี้ ทีนี้ไอ้เอสคาปี้ไดชาร์จดันโย๋ต่ำ มรันอีจมน้ำซะนะ เดี๋ยวเดือดร้อนคุณแลนต้องลากหลบเริน Grin
บันทึกการเข้า
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #302113 เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 11:24:42 PM »

น้ำยังทะลักเข้าพุนพิน เมืองสุราษฎร์อาจต้องตัดไฟ
   
 1 เมษา. 2554 21:18 น.


สุราษฎร์ยังวิกฤติน้ำทะลักเข้าพุนพินต่อเนื่อง ชาวบ้านร้องขอความช่วยเหลือเพิ่ม แน้วโน้มตัดกระแสไฟฟ้าในตัวเมืองคืนนี้เพื่อความปลอดภัย

ที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ช่วงหัวค่ำมืดทั้งอำเภอ เนื่องจากกระแสไฟฟ้าถูกตัดขาด โดยที่ระดับน้ำไหลทะลักเข้ามาเรื่อย ๆและไหลเชี่ยว โดยที่ชาวบ้านบางส่วนที่อาศัยอยู่ภายในเริ่มกลัวร้องขอความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆเนื่องจากหวาดหวั่นว่ากระแสน้ำจะเพิ่มขึ้นอีก โดยที่มีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยทยอยนำเรือท้องแบนอพยพไปอยู่ที่ปลอดภัย แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ยังมีชาวบ้านบางส่วนยังไม่ยอมทิ้งบ้าน โดยรับเพียงอาหารกล่อง น้ำดื่ม เทียนไข และอาหารสำเร็จรูป โดยทางเจ้าหน้าที่ได้มอบเครื่องชูชีพให้บางส่วน หากเกิดภาวะฉุกเฉินสามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนที่อพยพไปอาศัยอยู่บนถนนเอเชียจุดที่ปลอดภัย น้ำไม่ท่วม บางส่วนได้ประกอบอาหารกันเองเพราะขนทรัพย์สินมีค่าและเครื่องใช้จำเป็นบรรทุกรถยนต์กระบะมาได้ บางส่วนพักอาศัยที่สหกรณ์สุราษฎร์ธานีประมาณ 300 คน ที่สนามบินสุราษฎร์ธานีประมาณ 200 คน โดยที่ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำอาหารกล่องมาจาก จ.ระนอง ,ชุมพรมาให้เพื่อประทังความหิวไปก่อน

ทุกเส้นทางเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ธานีถูกน้ำท่วม ระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อย ๆ รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าภายในคืนนี้มีแนวโน้มจำเป็นต้องตัดกระแสไฟฟ้าในตัวเมืองสุราษฎร์ธานีทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย เพราะน้ำเริ่มเข้าท่วมจุดควบคุมระบบไฟฟ้าหลายจุดแล้ว โดยชาวบ้านในตัวเมืองสุราษฎร์ธานีและชาวบ้านที่อพยพมาจากพื้นที่น้ำท่วมได้สำรองเทียนไขไว้ล่วงหน้ากันแล้ว



 
 
 
 
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #302114 เมื่อ: เมษายน 01, 2011, 11:25:54 PM »

หึหึหึ ผมนึกแล้วว่าต้องมาทาง ว.ค. ตกลงเอาไงครับ


อันดับแรก น้าสิงห์ส่งการบ้านก่อน คิก คิก

ถ้ามีไหร๋เดี๋ยวค่อย ว. ไปหา  Grin

แต่บอกให้ชาร์จแบตโทรฯ ไว้ให้เต็มตลอดแล้ว เผื่อไควดับ Cheesy
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 20138 20139 20140 [20141] 20142 20143 20144 ... 35779
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.183 วินาที กับ 22 คำสั่ง