เป็นพ่อค้า .....
........
.......
..... ตรูได้แต่มองหน้ามันแค่นั้นแหละ..........
ผมขายเองน่าว่าไม่เกินเจ็ดวัน
สมัยเป็นช่าง เซอร์วิสนอกสถานที่ เจอสารพัดจนเกือบปรี๊ดแตก ยิ่งจ๋อง ๆ เข้าไป ไม่รู้เขาอยู่อารมณ์ไหนอยู่ แถมในบ้านเขาด้วย
บริษัทพาไปอบรมกับอีสาวดัชมิลล์ ที่ไดมอนด์ สุราด (กะว่า อบรมไม่ผ่านก็แอดมิดฯเลย) หัวข้อ การบริการสู่ความเป็นเลิศ
มันล้างสมองเสียจนตัวเราไม่ใช่เรา ลูกค้าบ่น เฉย ลูกค้าต่อว่า เฉย . ลูกค้าด่า เฉย... ลูกค้าละเพิดออกมา ก็ยังเดินออกมาเฉย ๆ
สงสัยไอ้ที่โดนลูกค้าด่าลูกค้าไล่ น่าว่าเพราะผมเฉยนี่แหละ
เอ้ย...ไปปีใหน ทำไม่ไม่เห็น แต่ก็นั่นแหละ น่าว่า เข้าแถวกะอยู่ใต้รักแร้สาวขายนม เลยมองไม่เห็น
เป็น พี.อาร์. ของดัชมิลล์หรือไงนี่แหละ ตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ ปากตะไกร ๆ หน่อย คนเดียวคุมการอบรมได้ห้าหกสิบคน
อย่าเผลอหลับเชียว ใครหลับ แม่จะจับออกมาเต้นเพลง "แมลงตัวหนึ่ง"....
ผมยังจำท่าเต้นบ้านั่นได้ จนเอามาสอนลูกเนี่ย โดนไปสองหน
เห็นไม๊ วิทยากรเขาดี หึๆๆ
การเป็นพ่อค้า........รายละเอียดมันเยอะ ยิ่งสาวขายนม วันหนึ่งๆ เจอคนเป็นร้อยเป็นพันครับ
แล้วก็เส้นทางการไป เหมือนกับทางเม่นเลย
ฉะนั้น..หากควบคุมตัวเองไม่ได้ จะทำงานนี้ยากครับ...ร้อยคนร้อยแบบ พันคน 1000แบบ จริงๆ เอามาปรับใช้กับตัวเราได้ หากเราไม่ประสงค์จะไปรบราท้าฟันกับเขา
เฉกเช่นที่ชายเจษฎร์ใช้มาครับ จะอย่างไร ต่อหน้าก็ว่าไป จะพูด หรือไม่พูด ก็ไม่ให้เข้าเรา ครูสอนใว้ว่า สิบสี่ใว้ก่อน ค่อยมายี่สิบ ทีหลังก็ได้ เพราะยังไงๆ เราก็คนขายของ........หากจะยังขายของอีกต่อไป ก็ต้องสิบสี่ไปเรื่อยๆ
หากยี่สิบต่อหน้าลูกค้า นึกถึงตัวเราเองครับ ใครมายี่สิบใส่หน้าเรา เราจะรู้สึกอย่างไร มันจะไม่แค่นั้น เราจะกระจายยี่สิบนั้นไปยังคนข้างเคียงเราให้รับรู้ด้วย
ประมาณนี้..........
พ่อค้าแม่ค้า ที่พกแต่ ยี่สิบ หาความเจริญยากครับ