ฮัลโหล้.......กัน กัน
HarmanKardon....เห็นยี่ห้อนี้แล้วนึกถึงสมัยแต่แรก
สมัยบ่าวๆชอบจังกัน....เน็ตไม่ที อ่านแต่หนังสือนิ
พอมาเปิดฟังของเอง....แล้วนึกถึงของดีๆ บวกกับคำที่เขาเขียน
ว่า....มั้นต้องสวดยวดดดดด
แต่ไฮเอ็นจริงๆไม่เคยฟังกับเขาร๊อก
ที่ยังจำได้........
สมัยก่อนเป็น เทปเด็ค + แอมป์ + ลำโพง + สายสัญญาณ(อย่างดีมาก) = ล้านกว่าบาท
แอมป์ต้องตั้งกับพื้น แล้วใช้ไม้เนื้อแข็งอย่างหนารอง....
เพื่อป้องกันสัญญาณรบกวนจากเส้นเหล็กในพื้นปูน
จำได้มาแค่นี้.....
สมัยนี้บ้าหวางั้นเหลย
สายไฟเข้าเครื่อง ต้องเปลี่ยนเส้นนึงเป็นเหมิน
แส ดง ว่าผ่าน
....ชุดที่ว่า ค่าสายสัณญาณหกแสนหวา
ถามคนเรียนไฟฟ้า/อีเลคทรอนิคส์แลตะ ใครเชื่อมั่งกี่คนว่า สายไฟเส้นเป็นเหมินช่วยให้ระบบไฟบริสุทธิ์ขึ้นมาได้...บ้าๆ เพ
อิ อิ ยิ่งแหลงยิ่งมัน ผมอยากจะให้เขาพิสูจน์ให้แลสักทีว่าสายไฟแพงๆเขาวิเศษวิโสแค่ไหน
ปกติสัญาญรบกวนในระบบไฟฟ้ามีอะไรบ้าง ....เช่น
- ฮาร์โมนิคลำดับที่ 3 5 7 9 เข้ามารบกวน
- Surge ต่างๆ
- สัญาญรบกวน จากการ switching ของพวก Power transistor (มักเกิดในโรงงานที่มี Inverter)
- อื่นๆ
ลองป้อนสัญาญรบกวนดังกล่าวที่ต้นสายดูแล้วใช้ออสซิลโลสโคปจับที่ปลายสายดูว่าสัญาญรบกวนเหล่านั้นหายไปหรือไม่ ถ้ามันหายไป ผมยอม หาซื้อมาใช้กันสักเส้นสองเส้น
สำหรับผมแทนที่จะเสียเงินไปกับของพวกนี้ ผมเอาตังไปซื้อเครื่องรักษาระดับแรงดันไฟให้คงที่ (Stabilizer) มาช่วยทำไฟ 220 โวลท์ให้คงที่ดีกว่าเพราะเป็นสาเหตุให้เครื่องเสียงพังได้มากกว่า
ไฟฟ้ามันเป็นเรื่องมองไม่เห็น แต่สามารถวัดได้ พิสูจน์ได้
ผมยังไม่เคยเห็นครับ..สายไฟลดสัญญาณรบกวนได้...
มีแต่กันสัญญาณรบกวน....(มีอลูมิเนียม และสายถัก เป็นชีลด์อยู่อีกชั้น)
เท่าที่เห็นก็มีแต่ชุดเต้าเสียบ(ปลั๊กตัวเมีย)ครับ
มันประกอบด้วย คอล์ย และ แคป..และตัวกันทรานเซี๊ยน..
และที่สำคัญปลั๊กนั้นต้องต่อกราวด์ให้ครบวงจรด้วย...
ส่วนเรื่องสายไฟเข้าเครื่องที่ดี ๆ นั้น มันเป็นตัวนำที่ดี ส่งกระแสได้อย่างราบรื่น...เหมือนถนนที่กว้าง และราบเรียบ ไม่ใช่ถนนขรุขระลูกรังแคบ ๆ
ทำให้ไม่เป็นคอขวดก่อนเข้าเครื่อง..
...ซึ่งจริง ๆ แล้วระบบไฟก็ต้องดีมาตั้งแต่ต้นทาง...ซึ่งเท่าที่ทำได้คือสายไฟที่เดินจากชุดเบรคเกอร์ในบ้านที่ต่อมาจากไฟขององค์การไฟฟ้า
มายังปลั๊กที่จ่าย สำหรับต่อเข้ายังเครื่องเสียงนั้น ๆ จึงจะพอเห็นผลได้..
หากระบบไฟบ้าน ๆ แบบเรา ๆ ที่เดินสายยาซากิ หรือบางกอก อย่างมากก็ขนาด 2.5 มาถึงปลั๊กจ่ายตามผนัง...
..เปลี่ยนสายไฟก่อนเข้าเครื่องมันก็งั้น ๆ แหละครับ
แต่ผมเสียดายของที่บางคน....เครื่องเสียงซะดีเกือบเทพ...
มาตกม้าตาย ใช้ปลั๊กสามตา สี่ห้าช่อง ของจีน...(ขั้วทองแดง บางจึ๋งนึง แถมความเป็นสปริงไม่ค่อยมี สายไฟก็เส้นเล็ก)
เครื่องทั้งหลายมารุมเสียบกันที่ปลั๊กอันนี้กันหมด...
เครื่องมันไม่ใช่ต้องการแค่โวลท์อย่างเดียว...มันต้องการกระแสด้วย...
มั่วอีกแล้วตรู....
จริงๆระบบไฟฟ้าที่เครื่องต้องการมันก็อย่างที่พี่ตุ้มบอกนั่นแหละ 220 โวลท์/ 2-6-8-10 แอมป์โดยประมาณ แค่สายธรรมดาที่ติดเครื่องมาก็เหลือพอแล้ว
แต่ที่ผมไม่ชอบคือที่เขาเอามา
โฆษณาเกินจริงไง สายไฟเส้นเดียววิเศษเหลือหลาย
กำจัดความสกปรกทางไฟฟ้าได้หมดจดสดใสก็เขาพูดและวิจารณ์กันแบบนี้แหละ
มีอย่างเดียวที่ผมเห็นว่าจริงคือ ตัวนำที่ใหญ่สามารถนำไฟฟ้าโวลท์และกระแสได้ดีขึ้น แต่เกินจำเป็นไปแล้วเพราะสายติดเครื่องก็เพียงพอแล้ว ถ้าเขาพูดแค่นี้ผมรับได้ แต่ว่าไปถึงนู้นเลย กำจัดความสกปรกทางไฟฟ้าได้หมดจดสดใส นี่แหละมันทำไม่ได้หรอก
ถ้าสัญาญรบกวนมันเข้ามากับสายไฟบ้าน เสมือนท่อน้ำที่สกปรก พอเข้าบ้านเราๆเปลี่ยนจากท่อประปาพีวีซี มาเป็นท่อสแตนเลสอย่างดี
ระดับฟู๊ดเกรด น้ำที่ขุ่นและสกปรกมันก็ไหลเข้ามาได้อยู่ดี
วันนั้นที่ไปถอยลำโพงผมเห็นสายไฟกับปลั๊กสามขานี่แหละวางขายอยู่เส้นนึงแค่เหมิน บร๊ะ๊เจ้า มันขายกันได้
