คิดมากนิด ๆ เรื่องที่เรียนเตยหอม เจ้าเตยหอมสอบเข้าโรงเรียนประถมอันดับต้นของจังหวัดได้ด้วยลำดับค่อนข้างสูง
แต่พ่อมันยังไม่ค่อยพอใจ ด้วยว่าอยากให้มันไปเรียนโรงเรียนอันดับต้นอีกโรง ซึ่งสังกัด สพฐ. ไม่ได้สังกัด อปท.
หากแต่ ถ้าสอบเบียดการแข่งขันที่สูงกว่ามากเข้าไปได้แล้ว ยังต้องจ่ายอีกเทอมละสองหมื่น ค่าโครงการ EP.
เพราะหลักสูตรธรรมดา เขากันไว้ให้เด็กอนุบาลของเขาเข้าเท่านั้น .......ป.1 เด็กนอก ต้องเข้า EP. อย่างเดียว
ไปสอบก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน จับพลัดจับผลู คิดเสียว่า จ่ายค่าสิ่งแวดล้อมให้ลูก....
โห แพงมากครับสำหรับเด็กประถมโครงการ EP. ที่จ่ายไปเรื่องภาษาอังกฤษ
ที่นครฯมีโรงเรียนคริสต์ไม๊ครับน้าฉ็อง ที่ชลบุรีมีโรงเรียนปรีชานุศาสน์เป็นโรงเรียนคริสต์เอกชน (ตั้งแต่ อนุบาล ถึง ม.ต้น)
สอนเป็นภาษาไทยนี่แหละวิชาการดีมาก ภาษาอังกฤษสอนตามปกติในชั่วโมงวิชาภาษาอังกฤษ
แต่ใช้อาจารย์เจ้าของภาษา และยังมี ภาษาอังกฤษที่มีครูไทยด้วย เด็กจึงได้ครบครับ ได้หลักภาษาจากครูไทย
ได้สำเนียง ได้หัดพูดจากครูเจ้าของภาษา
โครงการ EP. ล้วนๆสำหรับเด็กประถม ผมไม่ค่อยเห็นด้วย เด็กจะด้อยวิชาการกว่าเด็กที่เรียนกับครูไทยเมื่อเข้าแข่งขันในระดับสูงขึ้นไปจะเสียเปรียบ
เพราะชีวิตไม่ได้มีแต่ภาษาอังกฤษนะครับ ภาษาสามารถเรียนได้ในระดับสูงขึ้นมา วิชาการต้องมาก่อน
แต่ไม่เหมือนกะเด็กโต อย่างเจ้าอีฟที่กำลังเรียนเตรียมวิศวะฯ หลักสูตร EP. ค่าเทอมห้าเหมินห้าเพราะ เทียบแล้วเป็นระดับ ม.ปลาย
ถือว่าเด็กโตแล้ววิชาการตั้งแต่ประถม ม.ต้น ก็เรียนเป็นภาษาไทยมาแล้ว
แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่เด็กและผู้ปกครองครับ อาจจะดีก็ได้ ถ้าเรียนตั้งแต่เด็ก อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวผมครับ
ปล. แล้วทำไมผมต้องให้เจ้าอีฟเรียนหลักสูตร EP. จริงๆ จะว่าไปแล้ว ผมไม่ได้ตั้งใจให้เรียนแต่ว่าหลักสูตร ปวช.เตรียมวิศวะฯ หลักๆ ที่เขามีเป็นแบบนี้ครับ
ไฟฟ้า/เครื่องกล/โยธา
ไฟฟ้ามี 3 หลักสูตรย่อย
1.ไฟฟ้า ภาคปกติ เสียค่าเทอมประมาณ หมื่นกว่าๆ
2.ไฟฟ้า ภาคสมทบ เสียค่าเทอมประมาณ สองหมื่นกว่าๆ
3.ไฟฟ้า หลักสูตร EP. เสียค่าเทอม ห้าหมื่นห้า
หลักสูตร 1. และ 2. เรียนเหมือนกันเป๊ะ ส่วนหลักสูตร 3. การเรียนการสอนใช้ภาษาอังกฤษล้วน อาจารย์ทุกท่านมีตำแหน่งทางวิชาการระดับ รองศาสตราจารย์/ศาสตราจารย์
หลักสูตรที่น่าเรียนที่สุดคือหลักสูตร 1. และ 2. ครับ/ทำไม ก็เพราะเรียนช่างมันเรียนยาก มันต้องเรียนเป็นภาษาไทยซิครับมันจึงจะเข้าใจและได้วิชาการดีกว่า
เขาให้เลือกตอนสอบเข้าได้หลายอันดับ เจ้าอีฟเลือกแบบนี้ครับ
อันดับหนึ่ง ไฟฟ้า ภาคปกติ
อันดับสอง ไฟฟ้า หลักสูตร EP.
อันดับสาม โยธา (เพราะเจ้าอีฟอยากเรียนต่อด้านสถาปัตยกรรม ใจเขาชอบ)
แต่เขาดันสอบได้ ไฟฟ้า หลักสูตร EP.
แต่หลักสูตร ปวช.เตรียมวิศวะฯ ทั้งหมดไม่ได้เป็นหลักสูตรตามมาตรฐานของรัฐบาลหรือกระทรวงด้านการศึกษาใดๆ ทางมหาลัยจึงไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนใดๆทั้งสิ้น (เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมค่าเทอมแพง)
คือเขาจัดการศึกษานี้กันเป็นการภายในสถาบันกันเองเพื่อเตรียมเด็กเข้าศึกษาต่อด้านวิศวะของมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือนั่นเอง เด็กที่จบ ปวช.จากที่นี่ คือเด็ก ลูกหม้อ นั่นเอง
จะได้เปรียบและเข้มกว่าเด็ก ม.6 ที่เอ็นฯเข้ามา และไม่เหมือนหรือเอาไปเปรียบเทียบกะเด็ก ปวช. ตามวิทยาลัยเทคนิคทั่วไปไม่ได้เลย
ก็เหมือนที่มหาลัยดังๆ ชอบมีโรงเรียนสาธิต /โรงเรียนเตรียมอุดม สำหรับป้อนเด็กเข้ามหาลัยเขาเองนั่นแหละ
วางแผนและทุ่มเท สมเป็นคุณพ่อตัวอย่างครับ อีกคนก็ลุงปู ส่งลุกๆถึงฝังฝันทุกคน เหลือแต่คอยอุ้มหลานตา