ไม่ใช่มีแค่นี้ที่ผมสงสัยมันยังมีอีกอย่างที่ผมหรือท่านทั้งหลายที่ได้เล่าเรียนมาในวิชาภูมิศาสตร์สิ่งที่ตำราหรือที่ครูสอนมาอีกอย่างหนึ่ง
ที่ผมคิดว่า ไม่น่าใช่ คือ ทฤษฎีที่มาของความเค็มในน้ำทะเลหรือมหาสมุทรว่า....
เกิดจากการที่น้ำในแม่น้ำหรือลำคลองชะล้างเอาเกลือแร่จากบนบกมาสะสมลงในทะเล มหาสมุทรเป็นเวลานานจนเกิดเป็นความเค็มขึ้นมา
โกหก..... หรือเปล่า
ก็ในวิชาเดียวกันนี้บอกว่าสามในสี่ส่วนของโลกคือ น้ำ
ประทานโทษ แล้ว หนึ่งส่วนของแผ่นดิน ก็ใช่ว่าจะเป็นก้อนเกลือล้วนๆ ที่ต่อให้ละลายใหลลงมาก็คงไม่ทำให้น้ำเค็มไปได้
แล้วก็ไม่ปรากฏว่าแม่น้ำที่ไหนในโลกนี้ ที่ไหลลงทะเล เค็ม มาจากบนบกเลย แล้วมันจะเอาแร่ธาตุจากบนบกที่ไหนมาทำให้มหาสมุทร เค็ม ไปได้
มันจะเค็มได้อย่างไร เค็มตอนไหน เมื่อก่อนมันจืด แล้วเค็มทีหลัง หรือ ตั้งแต่มันมีมหาสมุทรมาแล้วก็เค็มตั้งแต่ตอนนั้นมาเลย
ผมยังสงสัยไม่หายว่า ที่ตำราเขียนมามันจริงๆเหรอ
ความเค็มของน้ำทะเล ผมพอทราบมาบ้าง
คือเรื่องของเรื่อง แต่ก่อนน้ำทะเลเป็นน้ำจืดนะ ไม่มีส่วนไหนของโลกเป็นน้ำเค็ม
มีฝรั่งยากจนคนหนึ่งเป็นคนดี แต่ไม่มีจะกิน ชอบช่วยเหลือคนอื่น
พระเจ้าเลยมอบเครื่องโม่พิเศษเป็นกำนัลพร้อมทั้งสอนวิธีใช้ง่ายๆให้..
ด้วยเครื่องโม่เครื่องนั้น เขาเดินทางไปช่วยผู้ทุกข์ยาก เจอคนโหยหิวที่ใด
เขาก็ปั่นโม่ให้อาหารออกมา แจกจ่าย บรรเทา่ทุกข์แก่ผู้ยากไร้เหล่านั้น
อยากได้อะไร อยากกินสิ่งใด แค่ให้โม่ปั่นออกมา ได้ทุกอย่าง ที่ต้องการ
วันหนึ่งโจรสลัดได้ทราบข่าวเรื่องโม่วิเศษนี้ เลยคิดการไกล
อยู่ในเรือโจร ของสดไม่มีกิน ต้องกินของดองเพราะเก็บได้นาน ยุคนั้นเกลือ
ที่เอามาดองอาหารก็มาจากเกลือสินเธาว์ ซึ่งอยู่บนแผ่นดิน ห่างไกลทะเล
ว่าแล้วจอมโจรเลยปล้นเอาเครื่องโม่ของหนุ่มคนนั้นไปเสีย แล้วฆ่าเจ้าของทิ้ง
พอออกเรือได้ คราวนี้จะไม่อดเกลือสำหรับดองอาหาร เลยปั่นโม่เรียกเกลือออกมา
แต่บังเอิญ ตอนปล้นเครื่องโม่ไปนั้น เขาลืมถามเจ้าของเดิมที่ฆ่าทิ้งไปแล้วว่า
จะหยุดเครื่องโม่นั้นได้อย่างไร?
เมื่อหยุดเครื่องโม่ไม่ได้ โม่ก็ปั่นเกลือออกมาเต็มเรือจนเรือไม่สามารถทานน้ำหนักได้และอัปปางลงกลางทะเล
ใต้มหาสมุทรที่เรือล่ม เครื่องโม่ก็ยังทำงานของมันต่อไปตราบนานเท่านาน เพราะยังไม่มีใครหยุดเครื่องนั้นได้
นั่นคือสาเหตุที่ทำให้น้ำทะเลเค็ม
ปัจจุบัน ถ้าน้าดุนหาเครื่องโม่นั้นเจอ และสั่งให้หยุดได้ คาดว่าน้ำทะเลจะจืดลงได้