ครับ แกได้แล้วก็ใส่ชุด ขรก หญิงเข้าประชุม เลยโดนโวย เรื่องราวต่อมาเป็นไงอีกก็ไม่รู้ครับ
จะมีอาไร้ สุดท้ายก็โวยเรียกร้องสิทธิ์เพศที่สาม
ปัญหาของประเทศสารขัณฑ์อย่างหนึ่ง คือ เรียกร้องสิทธิ์ ดึงดันจะใช้สิทธิ์ โดยตะแบงแคงข้างยังงี้เสมอ
ได้แต่หวังว่าคงไม่มีการเรียกร้องเรื่องคำนำหน้านามนะครับ ผมละกลัวจริงๆประเทศสารขัณฑ์ครับ
ผมไม่ซีเรียสนะ เรื่องนี้ ว่ากันตามที่จริง บางประเทศทำได้แล้วด้วย เรื่องคำหน้านามเนี่ย
เพียงแต่ ถ้าจะเอาดีทางนี้แล้ว ทำให้เป็นระบบไปเลย
ชายใดอยากเป็นหญิง มีหน่วยงานราชการรองรับไปเลย ลงทะเบียนซะ มีจิตแพทย์มาสัมภาษณ์
พอแพทย์วินิจฉัยผ่านแล้ว ติดตามการใช้ชีวิตและพฤติกรรมผ่านตามระยะที่กำหนดแล้ว ก็สักลงในบัตรประชาชนเลย ว่า "ข้ามเพศระยะ 1"
หากต้องการผ่าตัดแปลงเพศ ให้หมอวินิจฉับอีก ว่า เป็นไปได้ไหม ให้นักสังคมสงเคราะห์เข้ามามีบทบาท
สำรวจความเห็นจากครอบครัว สิ่งแวดล้อม เพื่อนฝูง ผลกระทบที่อาจตามมา
ผ่านแล้วก็เข้าสู่กระบวนการผ่าตัด และติดตามผลโดยจิตแพทย์และนักสังคมฯ
หากทุกอย่างราบรื่น ก็ยื่นเรื่องเข้าสู่กองทะเบียนราษฎร์ เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อ กองทะเบียนก็นำไปพิจารณาหาผลกระทบจากการเปลี่ยน
อาจมีการปิดประกาศสัก 3 เดือน หากไม่มีคนค้าน ก็เรียกมาถ่ายรูปทำบัตรใหม่ เอาคำว่า "ข้ามเพศระยะ 1" ออกไป
ให้ใช้ "นางสาว" ได้โดยบริบูรณ์ด้วยสิทธิ์ทั้งมวล
แถมท้ายด้วย ให้สิทธิ์ในการรับอุปการะเด็กกำพร้ามาจดทะเบียนเป็นบุตรโดยชอบธรรมสัก 2 คนด้วย ทั้งนี้ ต้องหลังจากจดทะเบียนสมรส
ไอ้ที่เป็นอยู่มันไม่อย่างนี้ มันใช้สิทธิ์คุกคามความรู้สึกเราผ่านสื่อต่าง ๆ บังคับให้เรายอมรับ
แต่วิธีการมันสุดโต่งเกินเหตุ อ้อร้อเกินจริต เกินวิถีปรกติ ทำให้กลายเป็นภาพลบพ้นไปเลย