ตอนเทอมแรกของปีนี้ ผมได้คุยกะ รอง ผอ. ด้วย ท่านรองฯ บอกผมว่าให้เด็กขยันเรียนให้มากขึ้นและถ้าหากทำเกรดเฉลี่ยได้สูงกว่า 2.00
ก็จะมีสิทธิลงเรียนวิชาที่ดร็อปไว้ทั้งหมดตอนซัมเมอร์ ในปีนี้ด้วย ซึ่งก็จะสามารถจบได้ใน 3 ปีพร้อมๆกับคนอื่น และมีสิทธิสมัครโควต้าเข้าเรียน
วิดวะที่เดิมได้อีก ซึ่งตอนนี้เจ้าอีฟก็พ้นขีดอันตรายนั้นแล้ว อนาคตที่สดใสก็ไม่เกินคาดหมาย และเทอมนี้ก็เป็นเทอมสุดท้ายแล้วและเจ้าอีฟ
ก็ได้บทเรียนอะไนมาเยอะแล้วและคิดว่าคงสามารถทำเกรดได้ และเข้าโควต้าได้
อย่างหนึ่งที่ผมดีใจคือ เจ้าอีฟมันเคยเป็นเด็กเกเรมาแล้ว รู้แล้วว่าผลของการเกเรไม่เข้าเรียนนั้นเป็นอย่างไร เกเสียตอนเด็กๆ ก็อาจดีกว่าไปเสียคนตอนโต
ตอนนี้มันไม่เหลือคราบเด็กเกอีกแล้ว เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นรับผิดชอบหน้าที่การเรียนของตัวเองมากขึ้น...และหวังว่าชีวิตต่อจากนี้ไปจะพบแต่เรื่องดีๆ
ไม่เจอวิบากกรรมเหมือนที่ผ่านมาตลอดไป...จบ
โตขึ้น ความคิดยาวขึ้น....ความรับผิดชอบมากขึ้น....
เรียนเก่ง ๆ เกรดดี ๆ 4 ตลอดนะหลานอีฟ....ให้พ่อแม่จ่ายเบี้ยให้เข็ด....
น้าดุนและคุณน้องเล็กทำดีแล้วครับ..ที่คอยให้กำลังใจน้องเค้าตลอด.....แม้จะผิดหวังลึก ๆ อยู่บ้าง
หลักสูตรที่เขาเรียนตอนนี้คือ ไฟฟ้า English program การเรียนการสอนในห้องใช้ภาษาอังกฤษตลอด ส่วนมากอาจารย์
เป็นชาวต่างชาติ อาจารย์ไทยก็ต้องสอนเป็นภาษาอังกฤษ อาจารย์ทุกคนจบด็อกเตอร์ ค่าเทอมก็ 55000/เทอม เหนาะๆ
ตอนนี้เขาก็เปิดวิดวะ English program แล้วค่าเทอมเพิ่มอีกหมื่น เป็น 65000/เทอม
ถ้าใครมีลูกเรียนแบบนี้ไม่ว่าสาขาไหน เกรดจะไม่สวยหรูแบบเด็กเรียน ม.ต้น/ ม.ปลาย หรอกครับถ้าพ่อแม่ไม่เข้าใจจะเป็นการกดดันเด็กให้เครียดได้มากครับ
บางคนลูกเรียน ม.ต้นมาเกรด 3 กว่าพอมาเรียนที่นี่ได้ 2 นิดๆ ก็ดุด่าลูกๆ จะยิ่งเครียดและกดดันมากขึ้นไปอีก
ไม่มีมากหรอกครับในรุ่นหนึ่งๆ ที่เด็กจะได้เกรดถึง 3 หรือ เกิน 3 ใครที่ได้นี่ก็ มีเท่าไหร่ก็ทุ่มไปเถอะ มันเรียนถึงด็อกเตอร์ได้แน่นอน
ผมและแม่เค้า ไม่เคยดุด่าและติเตียนเรื่องการเรียนเลยแม้แต่น้อย มีแต่ให้กำลังใจเพราะผมรู้ว่าเจ้าอีฟเครียดมาก แอบร้องให้ก็หลายครั้ง
มีแต่ให้คำปรึกษาถามลูกว่าถ้าจะเรียนให้ดีขึ้นจะทำไง อยากเรียนพิเศษก็ให้เรียน