วันนี้เสียเซลฟ์ตั้งแต่เช้าทั้งวันทั้งเซ็งและหดหู่โดนยายร้านขายกาแฟด่าเอา
เช้านี้ผมอยู่บ้านไม่ทำงานเพราะพักร้อนหลังจากส่งลูกกลับเข้าบ้านอาบน้ำกินข้าวเสร็จ นึกอยากกินกาแฟสดร้อนๆขึ้นมาเลยขับรถ
ออกจากบ้านอีกรอบเป้าหมายจะไปร้านกาแฟของยายเจ้าประจำคือแกอายุน่าจะเกิน 60 แล้วเปิดร้านขายกาแฟสดเลยแยกบางแสน
มาทางชลบุรี ใกล้ๆกะโชว์รูมอีซูสุ ผมและแฟนชอบมากินร้านนี้เพราะยายแกชงแบบไม่ขี้เหนียวถึงกาแฟถึงนม ชอบแบบไหน เข้มข้น หวาน มัน
เติมแบบไหนได้ตลอดทั้งร้อนและเย็น
เช้าวันนี้ผมจอดรถแล้วดันประตูกระจกสไลด์เข้าไปสั่งกาแฟร้อนหนึ่งถ้วย แต่ดูท่าทางบรรยากาศมาคุเพราะยายแกยุ่งมากกำลังเตรียมส่งกาแฟล็อตใหญ่
ฟังเขาคุยความว่าโชว์รูมอีซูสุสั่งมาหลายแก้ว มีวัยรุ่นสาว(ลูกสาว)กำลังช่วยทำ พับทิชชู่สำหรับห่อ เตรียมแก้วกาแฟพลาสติค ยายก็ชงกันว่อน
มีชายวัยรุ่นอีกคนนั่งอยู่โต๊ะติดกันอ่านไทยรัฐเล่มใหม่อยู่
ผมนั่งลงรอแป๊บนึงไปหยิบไทยรัฐฉบับเมื่อวานมาพลิกอ่านไปมาสักครู่หนึ่ง กาแฟก็มา ตามมาด้วยน้ำตาลทรายแดงผมก็เติมแล้วชิม อืม..ยังขม ได้นมข้นหวาน
เติมอีกนิดก็น่าจะดี ซึ่งปกติ ถ้าผมสั่งกาแฟร้อน ยายก็มักจะถามเสมอว่า เอานมเพิ่มไม๊ ผมก็มักบอกว่าเอา ยายก็เติมจากกระป๋องให้ทุกครั้งไม่คิดเงินเพิ่ม
แต่วันนี้ผมเห็นท่าทางยายยุ่งมาก ผมก็เลยจับกระป๋องนมเติมเอง พอหยุดเติมมันก็หยดนิดหน่อย
ยายก็ แหว ทันที นมหก จะเอานมอะไรห๊ะ ทำไมเติมหกน้ำเสียงเขียว จนผมหน้าแหยๆ แล้ว แล้วผมก็เอากาแฟกลับมานั่งซดที่โต๊ะ แล้วเด็กวัยรุ่นหญิงก็ยกกาชาร้อนมาวางให้ ผมซดกาแฟหมด มองหาแก้วชาไม่มี
แต่ไม่กล้าขอแล้วเพราะท่าทางยายอารมณ์ไม่ดีแล้ว เลยเทชาร้อนลงแก้วกาแฟแล้ววนๆ สไลด์กระจกสาดน้ำทิ้งไป หันมากลับมาอ่าน น.ส.พ.ต่อ
แป๊บเดียวผมได้ยินเสียงเขียวของยาย แหวๆ...มาทางผมอีกแล้ว ..
.เปิดประตูของยายทิ้งไว้ทำไมห๊า เปิดทิ้งไว้ทำไม ผมหันไปดู ถูกของยายประตูสไลด์ยังปิดไม่สนิท เป็นช่องอยู่ประมาณใหญ่กว่าฝ่ามือ ผมเองนั่นแหละตอนผมสไลด์เปิดทิ้งน้ำล้างถ้วยเสร็จแล้ว
ผมสไลด์ปิดโดยไม่หันไปมองว่าสนิทหรือไม่เพราะก้มอ่าน น.ส.พ. อยู่........ยังๆ ไม่หมดแค่นี้...คราวนี้แรงกว่าที่ผ่านมามาก
ในขณะที่ผมกำลังอ่านหนังสือพิมพ์นั่นเองน้ำชาในกามันใหลลงจากโต๊ะเป็นทาง ผมรีบหันไปมอง กาชาคว่ำอยู่บนโต๊ะติดๆกันนั่นเองครับ...และผมเช่นเคยที่เป็นคนทำ
แต่ผมไม่รู้ตัวตรงที่...ผมเติมชาเสร็จ ผมก็วางกาลงบน น.ส.พ.ใหม่บนโต๊ะติดๆกัน (โต๊ะมีขนาดเล็กๆมากที่แคบ มันเลยวางติดกัน) มันคงคว่ำตอนที่
ผมดึง น.ส.พ.ฉบับใหม่ที่มีหลายส่วนบนโต๊ะนั้นมาอ่านโดยลืมว่ากามันวางทับอยู่ มันเลยคว่ำ...และผมเห็นก็ต่อเมื่อน้ำนองพื้นแล้ว มันเปียก น.ส.พ.ด้วยไปมุมหนึ่ง
คราวนี้เสียงแหวๆๆ ใหญ่และ เข้มๆจากยายก็แผดดังจนผมหน้าเสีย
จะหางานอะไรให้ชั้นทำหนักหนาห๊าๆ หนังสือพิมพ์ใหม่เปียกหมดเลย ยังไม่มีใครได้อ่านด้วย ชอบหางานให้ทำจริงๆผมๆ ผม เอ่อ ผมใช้ค่า น.ส.พ.ให้ก็ได้ครับ (ไม่อยากพูดแบบนี้กลัวว่า เอะอะ ก็จะใช้เงินแก้ปัญหา)
ยายตอบว่า...
.ใช้ให้แล้วชั้นจะไปซื้อที่ไหนล่ะ สายป่านนี้แล้วยายรีบเอาน.ส.พ. ไปสบัดๆน้ำ แล้ววางไว้นอกร้าน
ตอนนี้ผมหน้าเหลือสองนิ้วแล้ว ซดกาแฟหมด ยื่นใบร้อย ยายหน้างอเป็นจวัก รับไป ทอนมาแบบไม่มองหน้า
ผมหน้าชา เสียหน้า อาย รีบขับรถออกมา กลับบ้าน ซึม เพื่อตกผลึกความคิดทั้งวัน...ทำไม มันเกิดเรื่องซวยถึง สามครั้ง สามครา ที่ร้านยายติดๆกันเลย
และผมคงไม่กลับไปร้านยายอีกต่อไปแล้ว
กลับมาบ้านตอนเย็นผมเล่าให้แฟนฟังแล้ววิเคราะห์ให้ฟังว่า...เหตุการณ์นี้เราจะคิดอย่างไรดี
ผมน่ะผิดเต็มๆเพราะไปทำเรื่องในร้านเขาหลายอย่าง แต่เธอลองคิดดูว่า ถ้าเราเป็นคนขายแล้วลูกค้าทำแบบนี้ในร้านเราๆจะทำยังไงกะเขา จะด่าลูกค้าหรือเปล่า
ผมบอกว่า ผมยอมเสียของ แต่ไม่ยอมเสียลูกค้า
- ประตูไม่ปิด/ทำนมหยด/ ผมจะไม่ด่าลูกค้า เพราะว่าผมจะขายของเขาให้เป็นลูกค้ากันต่อไปจะดีกว่าเสียเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้
- น.ส.พ. เปียก มันฉบับละ 15/20 บาท ผมยอมเสีย ถ้าผมด่าลูกค้าๆ จะไม่มาร้านผมอีก ร้านกาแฟมีเป็นร้อย จากบางแสน ถึง ชลบุรี
ผมก็จะไม่ไปร้านยายอีกเลย เพราะผม เสียหน้า อายคน หดหู่