วันนี้ ขอพล่ามสักเรื่อง
ว่าด้วยนิทานประกอบสินค้า หรือนิทานประกอบการขาย อันจะเห็นได้ทั่วไป คนขายชอบเล่า คนซื้อชอบฟัง
สินค้าธรรมดา ๆ ทำไมจึงขายราคาแตกต่าง ก็ด้วยศิลปะการเล่านิทานประกอบนี่แหละ สอดคล้องกับความเป็นจริงบางส่วน แทรกเสริมด้วยการปั้นแต่งบางส่วน
เพื่อนผม เคยซื้อเทปคาสเซ็ทของคาราวาน ปกคร่ำคร่า เนื้อเทปยืดยาน ทำนองเพลงเหมือนด้นสด ดนตรีดิบ ๆ เสียงรบกวนอื้อ มาด้วยราคา ๔๐๐ บาท....
นิทานว่าไว้...คราหนึ่ง ในป่าของนักร้องคนนี้ ได้เจอกับกวีเพื่อชีวิตอันเป็นบุคคลต้นแบบ ขณะกระเซอะกระเซิงหนีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองด้วยข้อหาคอมมิวนิสต์
เขาได้ขอร้องให้นักร้องผู้นี้ ร้องและเล่นดนตรีเพลงที่เขาแต่ง บันทึกเสียงเอาไว้เผื่อว่าคราวนี้ อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เขามีโอกาส
แล้วก็เป็นครั้งสุดท้ายจริง ๆ เมื่อกวีผู้นั้น ถูกฆ่าตายหลังจากนั้นเพียงสองวันโดยเจ้าหน้าที่บ้านเมือง....
แล้วเทปคาสเซ็ตที่ว่า ก็ได้ก็อปปี้ออกมาแค่ ๓๐ ม้วนเท่านั้น ด้วยข้อจำกัดของสถานที่
หลังจากนั้นไม่นาน หนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็ได้นำคาสเซ็ตนั้น ออกมาขายเพื่อหาเงินประทังชีพ
ตกทอดเรื่อยมาจนถึงเขา นำออกมาขายตลาดเปิดท้ายที่บุดี จ.ยะลา ด้วยราคาที่เรียกว่า ขายทั้งน้ำตา เพราะเขามีอยู่แค่สองม้วนเท่านั้น
แล้วไอ้เพื่อนผม ก็ซื้อมาด้วยหัวใจที่พองโต....
นั่งเล่าอย่างชื่นชมพร้อมกับกินข้าวเหนียวปลาเค็มห่อละสามบาท ที่ซื้อจากเงินที่เหลือจากซื้อเทปในตำนานม้วนนั้น
แล้วมันก็ไม่สงสัยสืบเสาะเลย ว่า น้าหงา แกได้เจอกับ จิตร ภูมิศักดิ์ตอนไหน....