เครื่องสลาเวียสีข้าวแล่ะน้าหนอง คันดังแต่ท่อล้อไม่หมุน
แหลงเรื่องท่อนึกขึ้นได้
น้าฉ๊องครับ
ถ้าเดินท่อไอเสียตรงๆ ไม่ต้องมีหม้อพักสำหรับรถยนต์ มันอี้พรือบ้างครับ เพราะช๊อปเปอร์ผมเดินทรง ไม่มีใส้ท่อครับ หาไม่ได้ เขาไม่มีขายครับ ผมหาหมดแล้วในกูเกิ้ลครับ
ผมชอบเอาป้ายวงกลมติดไว้ใต้ที่พักเท้าคนซ้อน ไม่รู้ซัยนิ
ขับไปไหนเพื่อนยอเพแหละ
สโลเครื่องไม่เท่าไหร่ครับ เสียงดังกว่าปรกตินิดหน่อย
แต่ถ้าตอนเร่งเกียร์ว่างล่ะก็ แก้วแตกกระจายแหละครับ
แหลงแล้วนึกได้เรื่องนึงหลาว
สมัยเรียน วิชาแกสโซลีน ของ อ.จำรัส ผกผ่า (สมัย อ.ประสิทธิ์ พร้อมมูล เป็น ผ.อ.) เครื่อง PB1600 ของดัทสัน วางบนแท่น
วันแรก จับกลุ่มสี่คน แกให้ถอด....ปาเข้าไปครึ่งวัน
วันที่สอง กลุ่มเดิมเครื่องเดิม แกให้ประกอบ คราวนี้ล่อเข้าไปหมดวัน....คือเครื่องไม่ติดไม่ต้องกลับบ้าน ว่างั้น
วันที่สาม ทั้งถอดและประกอบภายในวันเดียว คราวนี้ พวกขี้โม้ โม้อยู่ไม่ได้ ไม่งั้นตกรถไม่พักกลับบ้าน
ทำเวลาเร่งรีบกันใหญ่ ทีนี้ การทำงานหลาย ๆ คน เรื่องพลาดก็เกิดขึ้นได้ง่าย ๆ
กลุ่มผม ประกอบด้วย ผม คีรี สุชาติ วิทยา ทำท่าจะเสร็จก่อนเพื่อน เพราะมีมือดีคือ สุชาติกับคีรี ส่วนวิทยาหนักไปทางโม้
ประกอบเสร็จ ผมเสียบขั้วแบตเตอรี่ วิทยาสตาร์ท สุชาติยืนหอบอยู่หน้าเครื่อง (มันทำของมันคนเดียว...)
พอเครื่องติด แน่นอน ติดก่อนกลุ่มอื่น ๆ วิทยาดึงคันเร่งจนสุด รอบเครื่องยนต์แผดดังแสบแก้วหู ประกาศให้ใครต่อใครรู้ ว่า กลุ่มกูเสร็จแล้วโว๊ยยยยย
หัวเทียนขันไว้ไม่กี่เกลียว.....!!!! สุชาติยืนอยู่ตรงนั้นพอดี
เสียงดัง ปั๊ก...โอ๊ย... ติด ๆ กัน สุชาติเอามือกุมหน้า ทรุดลงนั่งยอง เลือดโทรมหว่างนิ้ว
หัวเทียนพร้อมสายไฮโวลต์ หายไปชุดหนึ่ง เหลือแต่รูดำโบ๋
บนหลังคากระเบื้อง มีแสงลอดเข้ามาได้ รูขนาดหนูผ่านได้สบาย ๆ
สุชาติ โดนสายไฮโวลต์ ที่ติดมากับหัวเทียน ฟาดเอาเหนือคิ้ว แตกเป็นแผลยาวราวสองนิ้ว
นึกไม่ออก ว่าถ้าโดนกับหัวเทียนหัวนั้นจัง ๆ จะเป็นยังไงบ้าง