แต่เราเล่านิทานไม่เก่ง....
ออกไฟแดงแยกศรีภูฯหัวหนนสามสิบเมตร แต่ละคันก็พุ่งปรู๊ด...........แต่เราอยู่กลางๆ แก่แร๊ะ ก็ไม่ปรู๊ด ก็ตามเขาไป เห็นแล้วข้างหน้า ใครราดน้ำเป็นทางว๊ะ หรือรถเทศบาลทิ้งรอยใว้เมื่อคืน พวกเป รดนี้มักง่าย เต็มตรงใหน มันก็หยุดบีบอัดตรงนั้น หมิ๋นฉิบหาย(คิดในใจ) สักกะเดี๋ยวใอ้ที่ปรู๊ดออกไปก่อน แมงกะไซทั้งนั้น โครมแกร็กๆๆๆๆๆๆๆ(เสียงครูดถนน)โครม ๆ ๆ เีอยดๆๆ โครม ต๊องตังๆ เอียดๆๆท๊องทัง ไหร๋ว๊ะ....มีใอ้กระบะโตต้าร้ายๆจอดแอบทาง น้ำราดยาวไปหยุดอยู่ใต้กระบะนั่น(ลืมแลว่า แอลเอ็นหรือเปล่า) พอขับมาถึงรอยน้ำ ได้กลิ่นโซล่า ด้วยความแก่เลยอ๋อ....น้ำมันจากใอ้โตต้านี่ราดซ๊ะพาดผ่านทั้งสามเลนเลย เจิ่งนอง มันทุกแกลลอนขนาด40ลิตรมา เลี้ยวกลับแล้วแกลลอนล้ม ฝาหลุด ราดซ๊ะเต็มหนน......จังหวะนั้นยังได้ยินเสียง เอียดท๊อง ใอ้หย๋า เสียงเจ้ใหญ่ เจ้าของอัลติส โดนรถตู้ร้ายๆชนอัดเข้าไปอีก คร้านอิแลต่อ เราก็ค่อยๆเลื้อยข้ามมา
เท่านี้แหละ..หากเป็นวัยรุ่นสมัยก่อน ไม่แน่ ได้น้ำแตก
นี่แหละใครว่าคนแก่ไม่ดี
ปล.สงสารก็แต่นักศึกษา ล้มลงสักโครก ว่าอิช่วยไปยก กะตัวอ้วนแรง เลยกลับบ้านดีกว่า
เช้านี้ ปาดหน้าพวกรถคันแรกป้ายแดงที่กำลังจะเข้าวงเวียน ส่วนผมพรวดออกจากวงเวียน
ผมเห็นแล้วแหละ ว่าเป็นโตโยต้า วีออส พวกนี้มีประกันชั้นหนึ่งวิริยะ
ซึ่งถ้าเฉี่ยวชนกัน จะชนบริเวณซุ้มล้อหลังซ้ายซึ่งของเก่ามีอยู่แล้ว ผมก็จะได้เคลมโดยไม่เสียประวัติ ไม่ต้องจ่ายแอ็กเซ็ป 2000 อีก
มันเบรคทัน แถมด้วยบีบแตรใส่ผมยาววววววววว
ผมเบรคกึก....มองมันทางกระจกหลัง ก็เห็นมันค่อย ๆ เลี้ยวเข้าวงเวียนไป
ชะหน็อย มรึงรู้ม้าย กรูเพื่อนตุ้มนะว๊อยยยยย....