tum610
sorry i'm happy
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 7385
ออฟไลน์
กระทู้: 68526
ความตาย อยู่ที่ปลายจมูก
|
|
« ตอบ #436260 เมื่อ: มกราคม 17, 2013, 03:23:26 PM » |
|
เอารูปของกินไม่ได้มาลงเพ ตะละคน นี่ เอาของที่มันเอาไปทำกินได้มั่งต๊ะ... รากไม้กะอึ่งปากขวดเนี่ยนะ บ้านตรูไม่กินฟร่ะ บ้านตรู กินขี้ปลาดอง บ้านนอกห่างไกลความเจริญขนาดนั้นก่าไม่แปลกนุ โถ....ไอ้เจ้าคนอาศัยอยู่เยาวราช อยู่สุขุมวิท อาศัยบนคอนโดชั้น 45 เมนวิวเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสาย ปัดธ่อ .... แล้วยังจะหาอึ่ง หางูสิงกิน แพงนะ โลละตั้งสิบขีดแน่ะ ถามจริง แรกเริ่มเดิมที เขากินเพราะอาหารมันหายาก หรือเพราะมันกินดีกันแน่ล่ะเนี่ย เอ้า เอาวุฒิ ป.โท มาตอบนะเฟ้ย อย่าตอบแบบเด็กวิดลูกคลัก มันเป็นวัฒนะธรรมการกินของชาวอีสานที่ในสมัยก่อนมีความเป็นอยู่อย่างแร้นแค้น ต้องอดทนมีอะไรที่สามารถนำมาหระกอบอาหารเพื่อประทังชีวิตได้โดยที่กินแล้วไม่ตายน้ำลายฟูมปาก ก็กินหมด อีกทั้งอึ่งอ่าง(ในภาพเป็นอึ่งโกรก หรืออึ่งเผ้า)เป็นสัตว์ที่หากินได้ในบางฤดูกาลเท่านั้น คือฤดูฝน ซึ่งต้องเป็นฝนแรกที่ตกหนักมากจนทำให้อึ่งอ่างมั่นใจว่าจะสามารถออกมาผสมพันธุ์และวางไข่ได้เท่านั้นจึงจะยอมออกมาจากการจำศีลหรือการ เข้างัย ในภาษาอีสาน ซึ่งความอร่อยนั้นจะอยู่ที่ตัวเมียไข่เต็มท้องพร้อมผสมพันธุ์ นำมาประกอบอาหารโดยการย่างหรือต้ม ส่วนตัวผู้จะนำไปต้มแกะเนื้อออกเอาไปตำน้ำพริก แจะกินอร่อยก็เฉพาะฝนแรกไม่เกินสามวันเพราะหลังจากนั้น อึ่งอ่างจะเริ่มกินแมลงทำให้ย่งยากมากในการประกอบอาหาร ต้องเอากระเพาะออกก่อน ปัจจุบันอึ่งโกรกหาได้ยากมากแล้ว ราคาจึงพุ่งสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ300-400 บาท ซึ่งถ้าเป็นตัวเมียที่สมบูรณ์ไข่เต็มท้องหนึ่งกิโลกรัมจะได้เพียงไม่เกินแปดตัวเท่านั้น หมายถึงตกราคาตัวละ50บาทเลยทีเดียว และอย่าสับสนกับอึ่งอ่างที่อยู่ในห้องน้ำหรือตามเสาไฟฟ้าสาธารณะเชียว เพราะพวกนั้นจะเรียกว่า อึ่งยาง มียางเหนียวปล่อยออกมาเมื่อตกใจหรือมีภัยซึ่งอึ่งโกรกไม่มี ทำให้ไม่เป้นที่นิยมในการรับประทาน วิธีทดสอบว่าเป็นอึ่งยางหรืออึ่งโกรกนั้น มีผู้ทดสอบไว้ในลักษณะเชิงเปรียบเทียบทางภาคใต้แถบจังหวัดนครศรีธรรมราช ทำดดยการจับดูหากอึ่งอ่างตัวใดพองตัวและปล่อยยางออกมาเหนียวมือแปลว่าเป็นอึ่งยางให้โยนทิ้งไป หากตัวไหนไม่มียางก้เก็บไว้ทำรับประทานได้ แต่ผู้ทดสอบนั้นทดสอบในเชิงเปรียบเทียบกับงูหลาม ดดยที่สงสัยว่างูหลามและงูเหลือมต่างกันอย่างไร งูเหลือมจะดุร้ายฉกกัดทันทีและผิวหนังจะไม่มีกลิ่นเหม็นหืน ส่วนงูหลามจะไม่ดุร้าย หากไปจับตัวจะปล่อยน้ำมันชนิดหนึ่งออกมามีกลิ่นเหม็นหืนทำให้เกิดอาการคลื่นเหียน ได้แตดมือไปประมาณสามสี่วันดดยที่ล้างอย่างไรก้ไม่ออกเป็นเห็ตุให้เมียไล่ไปนอนนอกห้อง โอ้ว...ความรู้ล้วน ๆ แต่ไม่ต้องรีบพิมพ์มากก็ได้ครับ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 5711
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 48212
|
|
« ตอบ #436261 เมื่อ: มกราคม 17, 2013, 03:23:46 PM » |
|
ตอนเด็กๆ บ้านฝั่งคลองตรงข้าม มีลูกสาวแต่งกะคนบนเนิน (หมายถึงคนอยู่ติดหนนดำสายหัวพานเมา-เชียรใหญ่) แต่งแล้วเจ้าบ่าวมาทำนาขยันทำมาหากินว่างก็ออกหาปลา วันหนึ่งไปหาปลาล้วงหาปลายังไงไม่ทราบไปเจอเอารูงูเห่า มันกัด...ตาย...(สมัยนั้นทำไมไม่ไปหาหมดฉีดเซรุ่มกันนะ) ทิ้งเมียกับลูกชายตัวเล็กๆไว้ (จำไม่ได้ว่าตอนพ่อตายลูกคลอดหรือยัง) ผมแพ้ตะบะกลัวงูพิษจริงๆ แต่ถ้างูน้ำ ผมชอบแกล้งเหมือนที่เคยเล่า ตีพอบอบๆ เอาหัวฝังขี้วัวสด เยี่ยวใส่ซ้ำ ชาด นึกๆแลบาปคาด เห็นแมงบี้ เด็ดหางเอาหญ้าเสียบแล้วปล่อยให้บิน เห็นหมาต่อแย่ง เอาไม้ถุ้งลงคลอง
แล้วตอนบทเข้าพระเข้านาง เพื่อนก็มาเคาะประตูขอตะไคร้กอหน้าบ้านสักต้นสองต้น ฮาย...เล่าตรงนี้ไม่ได้ ไว้พบกันสองคนเล่าให้ฟัง....ชาด นึกแล้วขำไม่หาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
|
|
|
tum610
sorry i'm happy
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 7385
ออฟไลน์
กระทู้: 68526
ความตาย อยู่ที่ปลายจมูก
|
|
« ตอบ #436262 เมื่อ: มกราคม 17, 2013, 03:24:15 PM » |
|
ตอนเด็กๆ บ้านฝั่งคลองตรงข้าม มีลูกสาวแต่งกะคนบนเนิน (หมายถึงคนอยู่ติดหนนดำสายหัวพานเมา-เชียรใหญ่) แต่งแล้วเจ้าบ่าวมาทำนาขยันทำมาหากินว่างก็ออกหาปลา วันหนึ่งไปหาปลาล้วงหาปลายังไงไม่ทราบไปเจอเอารูงูเห่า มันกัด...ตาย...(สมัยนั้นทำไมไม่ไปหาหมดฉีดเซรุ่มกันนะ) ทิ้งเมียกับลูกชายตัวเล็กๆไว้ (จำไม่ได้ว่าตอนพ่อตายลูกคลอดหรือยัง) ผมแพ้ตะบะกลัวงูพิษจริงๆ แต่ถ้างูน้ำ ผมชอบแกล้งเหมือนที่เคยเล่า ตีพอบอบๆ เอาหัวฝังขี้วัวสด เยี่ยวใส่ซ้ำ ชาด นึกๆแลบาปคาด เห็นแมงบี้ เด็ดหางเอาหญ้าเสียบแล้วปล่อยให้บิน เห็นหมาต่อแย่ง เอาไม้ถุ้งลงคลอง
แล้วตอนบทเข้าพระเข้านาง เพื่อนก็มาเคาะประตูขอตะไคร้กอหน้าบ้านสักต้นสองต้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
soveat ชุมไพร
มือสังหารคันคากหมุ่น พรานปลาวัด พราน28k สมช. เลขที่ 1475
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 3429
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 30132
เลือดกรุ๊ป โอละนออออออออออออ
เว็บไซต์
|
|
« ตอบ #436263 เมื่อ: มกราคม 17, 2013, 03:24:41 PM » |
|
เอารูปของกินไม่ได้มาลงเพ ตะละคน นี่ เอาของที่มันเอาไปทำกินได้มั่งต๊ะ... รากไม้กะอึ่งปากขวดเนี่ยนะ บ้านตรูไม่กินฟร่ะ บ้านตรู กินขี้ปลาดอง บ้านนอกห่างไกลความเจริญขนาดนั้นก่าไม่แปลกนุ โถ....ไอ้เจ้าคนอาศัยอยู่เยาวราช อยู่สุขุมวิท อาศัยบนคอนโดชั้น 45 เมนวิวเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสาย ปัดธ่อ .... แล้วยังจะหาอึ่ง หางูสิงกิน แพงนะ โลละตั้งสิบขีดแน่ะ ถามจริง แรกเริ่มเดิมที เขากินเพราะอาหารมันหายาก หรือเพราะมันกินดีกันแน่ล่ะเนี่ย เอ้า เอาวุฒิ ป.โท มาตอบนะเฟ้ย อย่าตอบแบบเด็กวิดลูกคลัก มันเป็นวัฒนะธรรมการกินของชาวอีสานที่ในสมัยก่อนมีความเป็นอยู่อย่างแร้นแค้น ต้องอดทนมีอะไรที่สามารถนำมาหระกอบอาหารเพื่อประทังชีวิตได้โดยที่กินแล้วไม่ตายน้ำลายฟูมปาก ก็กินหมด อีกทั้งอึ่งอ่าง(ในภาพเป็นอึ่งโกรก หรืออึ่งเผ้า)เป็นสัตว์ที่หากินได้ในบางฤดูกาลเท่านั้น คือฤดูฝน ซึ่งต้องเป็นฝนแรกที่ตกหนักมากจนทำให้อึ่งอ่างมั่นใจว่าจะสามารถออกมาผสมพันธุ์และวางไข่ได้เท่านั้นจึงจะยอมออกมาจากการจำศีลหรือการ เข้างัย ในภาษาอีสาน ซึ่งความอร่อยนั้นจะอยู่ที่ตัวเมียไข่เต็มท้องพร้อมผสมพันธุ์ นำมาประกอบอาหารโดยการย่างหรือต้ม ส่วนตัวผู้จะนำไปต้มแกะเนื้อออกเอาไปตำน้ำพริก แจะกินอร่อยก็เฉพาะฝนแรกไม่เกินสามวันเพราะหลังจากนั้น อึ่งอ่างจะเริ่มกินแมลงทำให้ย่งยากมากในการประกอบอาหาร ต้องเอากระเพาะออกก่อน ปัจจุบันอึ่งโกรกหาได้ยากมากแล้ว ราคาจึงพุ่งสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ300-400 บาท ซึ่งถ้าเป็นตัวเมียที่สมบูรณ์ไข่เต็มท้องหนึ่งกิโลกรัมจะได้เพียงไม่เกินแปดตัวเท่านั้น หมายถึงตกราคาตัวละ50บาทเลยทีเดียว และอย่าสับสนกับอึ่งอ่างที่อยู่ในห้องน้ำหรือตามเสาไฟฟ้าสาธารณะเชียว เพราะพวกนั้นจะเรียกว่า อึ่งยาง มียางเหนียวปล่อยออกมาเมื่อตกใจหรือมีภัยซึ่งอึ่งโกรกไม่มี ทำให้ไม่เป้นที่นิยมในการรับประทาน วิธีทดสอบว่าเป็นอึ่งยางหรืออึ่งโกรกนั้น มีผู้ทดสอบไว้ในลักษณะเชิงเปรียบเทียบทางภาคใต้แถบจังหวัดนครศรีธรรมราช ทำดดยการจับดูหากอึ่งอ่างตัวใดพองตัวและปล่อยยางออกมาเหนียวมือแปลว่าเป็นอึ่งยางให้โยนทิ้งไป หากตัวไหนไม่มียางก้เก็บไว้ทำรับประทานได้ แต่ผู้ทดสอบนั้นทดสอบในเชิงเปรียบเทียบกับงูหลาม ดดยที่สงสัยว่างูหลามและงูเหลือมต่างกันอย่างไร งูเหลือมจะดุร้ายฉกกัดทันทีและผิวหนังจะไม่มีกลิ่นเหม็นหืน ส่วนงูหลามจะไม่ดุร้าย หากไปจับตัวจะปล่อยน้ำมันชนิดหนึ่งออกมามีกลิ่นเหม็นหืนทำให้เกิดอาการคลื่นเหียน ได้แตดมือไปประมาณสามสี่วันดดยที่ล้างอย่างไรก้ไม่ออกเป็นเห็ตุให้เมียไล่ไปนอนนอกห้อง โอ้ว...ความรู้ล้วน ๆ แต่ไม่ต้องรีบพิมพ์มากก็ได้ครับ.. ฮาย ผมลูกศิทย์ลุงดุลย์ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
|
|
|
Pandanus
Hero Member
คะแนน 6378
ออฟไลน์
กระทู้: 40175
เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
|
|
« ตอบ #436264 เมื่อ: มกราคม 17, 2013, 03:26:41 PM » |
|
มันเป็นวัฒนะธรรมการกินของชาวอีสานที่ในสมัยก่อนมีความเป็นอยู่อย่างแร้นแค้น ต้องอดทนมีอะไรที่สามารถนำมาหระกอบอาหารเพื่อประทังชีวิตได้โดยที่กินแล้วไม่ตายน้ำลายฟูมปาก ก็กินหมด อีกทั้งอึ่งอ่าง(ในภาพเป็นอึ่งโกรก หรืออึ่งเผ้า)เป็นสัตว์ที่หากินได้ในบางฤดูกาลเท่านั้น คือฤดูฝน ซึ่งต้องเป็นฝนแรกที่ตกหนักมากจนทำให้อึ่งอ่างมั่นใจว่าจะสามารถออกมาผสมพันธุ์และวางไข่ได้เท่านั้นจึงจะยอมออกมาจากการจำศีลหรือการ เข้างัย ในภาษาอีสาน ซึ่งความอร่อยนั้นจะอยู่ที่ตัวเมียไข่เต็มท้องพร้อมผสมพันธุ์ นำมาประกอบอาหารโดยการย่างหรือต้ม ส่วนตัวผู้จะนำไปต้มแกะเนื้อออกเอาไปตำน้ำพริก แจะกินอร่อยก็เฉพาะฝนแรกไม่เกินสามวันเพราะหลังจากนั้น อึ่งอ่างจะเริ่มกินแมลงทำให้ย่งยากมากในการประกอบอาหาร ต้องเอากระเพาะออกก่อน ปัจจุบันอึ่งโกรกหาได้ยากมากแล้ว ราคาจึงพุ่งสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ300-400 บาท ซึ่งถ้าเป็นตัวเมียที่สมบูรณ์ไข่เต็มท้องหนึ่งกิโลกรัมจะได้เพียงไม่เกินแปดตัวเท่านั้น หมายถึงตกราคาตัวละ50บาทเลยทีเดียว และอย่าสับสนกับอึ่งอ่างที่อยู่ในห้องน้ำหรือตามเสาไฟฟ้าสาธารณะเชียว เพราะพวกนั้นจะเรียกว่า อึ่งยาง มียางเหนียวปล่อยออกมาเมื่อตกใจหรือมีภัยซึ่งอึ่งโกรกไม่มี ทำให้ไม่เป้นที่นิยมในการรับประทาน
วิธีทดสอบว่าเป็นอึ่งยางหรืออึ่งโกรกนั้น มีผู้ทดสอบไว้ในลักษณะเชิงเปรียบเทียบทางภาคใต้แถบจังหวัดนครศรีธรรมราช ทำดดยการจับดูหากอึ่งอ่างตัวใดพองตัวและปล่อยยางออกมาเหนียวมือแปลว่าเป็นอึ่งยางให้โยนทิ้งไป หากตัวไหนไม่มียางก้เก็บไว้ทำรับประทานได้ แต่ผู้ทดสอบนั้นทดสอบในเชิงเปรียบเทียบกับงูหลาม โดยที่สงสัยว่างูหลามและงูเหลือมต่างกันอย่างไร งูเหลือมจะดุร้ายฉกกัดทันทีและผิวหนังจะไม่มีกลิ่นเหม็นหืน ส่วนงูหลามจะไม่ดุร้าย หากไปจับตัวจะปล่อยน้ำมันชนิดหนึ่งออกมามีกลิ่นเหม็นหืนทำให้เกิดอาการคลื่นเหียนได้ ติดมือไปประมาณสามสี่วันโดยที่ล้างอย่างไรก็ไม่ออกเป็นเหตุให้เมียไล่ไปนอนนอกห้อง
เนี่ยนะ ไปเรียน ป.โท มา ได้มาแค่เนี๊ยะ... แถมแว้งใส่ตรูอีก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 5711
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 48212
|
|
« ตอบ #436265 เมื่อ: มกราคม 17, 2013, 03:27:15 PM » |
|
เอารูปของกินไม่ได้มาลงเพ ตะละคน นี่ เอาของที่มันเอาไปทำกินได้มั่งต๊ะ... รากไม้กะอึ่งปากขวดเนี่ยนะ บ้านตรูไม่กินฟร่ะ บ้านตรู กินขี้ปลาดอง บ้านนอกห่างไกลความเจริญขนาดนั้นก่าไม่แปลกนุ โถ....ไอ้เจ้าคนอาศัยอยู่เยาวราช อยู่สุขุมวิท อาศัยบนคอนโดชั้น 45 เมนวิวเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสาย ปัดธ่อ .... แล้วยังจะหาอึ่ง หางูสิงกิน แพงนะ โลละตั้งสิบขีดแน่ะ ถามจริง แรกเริ่มเดิมที เขากินเพราะอาหารมันหายาก หรือเพราะมันกินดีกันแน่ล่ะเนี่ย เอ้า เอาวุฒิ ป.โท มาตอบนะเฟ้ย อย่าตอบแบบเด็กวิดลูกคลัก มันเป็นวัฒนะธรรมการกินของชาวอีสานที่ในสมัยก่อนมีความเป็นอยู่อย่างแร้นแค้น ต้องอดทนมีอะไรที่สามารถนำมาหระกอบอาหารเพื่อประทังชีวิตได้โดยที่กินแล้วไม่ตายน้ำลายฟูมปาก ก็กินหมด อีกทั้งอึ่งอ่าง(ในภาพเป็นอึ่งโกรก หรืออึ่งเผ้า)เป็นสัตว์ที่หากินได้ในบางฤดูกาลเท่านั้น คือฤดูฝน ซึ่งต้องเป็นฝนแรกที่ตกหนักมากจนทำให้อึ่งอ่างมั่นใจว่าจะสามารถออกมาผสมพันธุ์และวางไข่ได้เท่านั้นจึงจะยอมออกมาจากการจำศีลหรือการ เข้างัย ในภาษาอีสาน ซึ่งความอร่อยนั้นจะอยู่ที่ตัวเมียไข่เต็มท้องพร้อมผสมพันธุ์ นำมาประกอบอาหารโดยการย่างหรือต้ม ส่วนตัวผู้จะนำไปต้มแกะเนื้อออกเอาไปตำน้ำพริก แจะกินอร่อยก็เฉพาะฝนแรกไม่เกินสามวันเพราะหลังจากนั้น อึ่งอ่างจะเริ่มกินแมลงทำให้ย่งยากมากในการประกอบอาหาร ต้องเอากระเพาะออกก่อน ปัจจุบันอึ่งโกรกหาได้ยากมากแล้ว ราคาจึงพุ่งสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ300-400 บาท ซึ่งถ้าเป็นตัวเมียที่สมบูรณ์ไข่เต็มท้องหนึ่งกิโลกรัมจะได้เพียงไม่เกินแปดตัวเท่านั้น หมายถึงตกราคาตัวละ50บาทเลยทีเดียว และอย่าสับสนกับอึ่งอ่างที่อยู่ในห้องน้ำหรือตามเสาไฟฟ้าสาธารณะเชียว เพราะพวกนั้นจะเรียกว่า อึ่งยาง มียางเหนียวปล่อยออกมาเมื่อตกใจหรือมีภัยซึ่งอึ่งโกรกไม่มี ทำให้ไม่เป้นที่นิยมในการรับประทาน วิธีทดสอบว่าเป็นอึ่งยางหรืออึ่งโกรกนั้น มีผู้ทดสอบไว้ในลักษณะเชิงเปรียบเทียบทางภาคใต้แถบจังหวัดนครศรีธรรมราช ทำดดยการจับดูหากอึ่งอ่างตัวใดพองตัวและปล่อยยางออกมาเหนียวมือแปลว่าเป็นอึ่งยางให้โยนทิ้งไป หากตัวไหนไม่มียางก้เก็บไว้ทำรับประทานได้ แต่ผู้ทดสอบนั้นทดสอบในเชิงเปรียบเทียบกับงูหลาม ดดยที่สงสัยว่างูหลามและงูเหลือมต่างกันอย่างไร งูเหลือมจะดุร้ายฉกกัดทันทีและผิวหนังจะไม่มีกลิ่นเหม็นหืน ส่วนงูหลามจะไม่ดุร้าย หากไปจับตัวจะปล่อยน้ำมันชนิดหนึ่งออกมามีกลิ่นเหม็นหืนทำให้เกิดอาการคลื่นเหียน ได้แตดมือไปประมาณสามสี่วันดดยที่ล้างอย่างไรก้ไม่ออกเป็นเห็ตุให้เมียไล่ไปนอนนอกห้อง โอ้ว...ความรู้ล้วน ๆ แต่ไม่ต้องรีบพิมพ์มากก็ได้ครับ.. ฮาย ผมลูกศิทย์ลุงดุลย์ครับ อ้าว แล้วมันย้ายสำมะโนครัวหนีไปอยู่ที่มือได้ไง สงสัยไม่ชอบที่เอือดๆนะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
|
|
|
Pandanus
Hero Member
คะแนน 6378
ออฟไลน์
กระทู้: 40175
เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
|
|
« ตอบ #436266 เมื่อ: มกราคม 17, 2013, 03:29:27 PM » |
|
ลุงสำริด ลุงดุลย์ ผมไม่เคยเห็นภาพถ่ายวัวชนแนวนี้มาก่อนเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 6127
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 55373
Let us go..!
|
|
« ตอบ #436267 เมื่อ: มกราคม 17, 2013, 03:30:28 PM » |
|
ตอนเด็กๆ บ้านฝั่งคลองตรงข้าม มีลูกสาวแต่งกะคนบนเนิน (หมายถึงคนอยู่ติดหนนดำสายหัวพานเมา-เชียรใหญ่) แต่งแล้วเจ้าบ่าวมาทำนาขยันทำมาหากินว่างก็ออกหาปลา วันหนึ่งไปหาปลาล้วงหาปลายังไงไม่ทราบไปเจอเอารูงูเห่า มันกัด...ตาย...(สมัยนั้นทำไมไม่ไปหาหมดฉีดเซรุ่มกันนะ) ทิ้งเมียกับลูกชายตัวเล็กๆไว้ (จำไม่ได้ว่าตอนพ่อตายลูกคลอดหรือยัง) ผมแพ้ตะบะกลัวงูพิษจริงๆ แต่ถ้างูน้ำ ผมชอบแกล้งเหมือนที่เคยเล่า ตีพอบอบๆ เอาหัวฝังขี้วัวสด เยี่ยวใส่ซ้ำ ชาด นึกๆแลบาปคาด เห็นแมงบี้ เด็ดหางเอาหญ้าเสียบแล้วปล่อยให้บิน เห็นหมาต่อแย่ง เอาไม้ถุ้งลงคลอง
แล้วตอนบทเข้าพระเข้านาง เพื่อนก็มาเคาะประตูขอตะไคร้กอหน้าบ้านสักต้นสองต้น เพื่อนโทรไปหาโหน๋ เกร๊ง....อยู่หัวเตียง....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ
Thanut Wansuk
|
|
|
Pandanus
Hero Member
คะแนน 6378
ออฟไลน์
กระทู้: 40175
เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
|
|
« ตอบ #436268 เมื่อ: มกราคม 17, 2013, 03:30:41 PM » |
|
ตาลายชิบ....
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
soveat ชุมไพร
มือสังหารคันคากหมุ่น พรานปลาวัด พราน28k สมช. เลขที่ 1475
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 3429
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 30132
เลือดกรุ๊ป โอละนออออออออออออ
เว็บไซต์
|
|
« ตอบ #436269 เมื่อ: มกราคม 17, 2013, 03:31:39 PM » |
|
มันเป็นวัฒนะธรรมการกินของชาวอีสานที่ในสมัยก่อนมีความเป็นอยู่อย่างแร้นแค้น ต้องอดทนมีอะไรที่สามารถนำมาหระกอบอาหารเพื่อประทังชีวิตได้โดยที่กินแล้วไม่ตายน้ำลายฟูมปาก ก็กินหมด อีกทั้งอึ่งอ่าง(ในภาพเป็นอึ่งโกรก หรืออึ่งเผ้า)เป็นสัตว์ที่หากินได้ในบางฤดูกาลเท่านั้น คือฤดูฝน ซึ่งต้องเป็นฝนแรกที่ตกหนักมากจนทำให้อึ่งอ่างมั่นใจว่าจะสามารถออกมาผสมพันธุ์และวางไข่ได้เท่านั้นจึงจะยอมออกมาจากการจำศีลหรือการ เข้างัย ในภาษาอีสาน ซึ่งความอร่อยนั้นจะอยู่ที่ตัวเมียไข่เต็มท้องพร้อมผสมพันธุ์ นำมาประกอบอาหารโดยการย่างหรือต้ม ส่วนตัวผู้จะนำไปต้มแกะเนื้อออกเอาไปตำน้ำพริก แจะกินอร่อยก็เฉพาะฝนแรกไม่เกินสามวันเพราะหลังจากนั้น อึ่งอ่างจะเริ่มกินแมลงทำให้ย่งยากมากในการประกอบอาหาร ต้องเอากระเพาะออกก่อน ปัจจุบันอึ่งโกรกหาได้ยากมากแล้ว ราคาจึงพุ่งสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ300-400 บาท ซึ่งถ้าเป็นตัวเมียที่สมบูรณ์ไข่เต็มท้องหนึ่งกิโลกรัมจะได้เพียงไม่เกินแปดตัวเท่านั้น หมายถึงตกราคาตัวละ50บาทเลยทีเดียว และอย่าสับสนกับอึ่งอ่างที่อยู่ในห้องน้ำหรือตามเสาไฟฟ้าสาธารณะเชียว เพราะพวกนั้นจะเรียกว่า อึ่งยาง มียางเหนียวปล่อยออกมาเมื่อตกใจหรือมีภัยซึ่งอึ่งโกรกไม่มี ทำให้ไม่เป้นที่นิยมในการรับประทาน
วิธีทดสอบว่าเป็นอึ่งยางหรืออึ่งโกรกนั้น มีผู้ทดสอบไว้ในลักษณะเชิงเปรียบเทียบทางภาคใต้แถบจังหวัดนครศรีธรรมราช ทำดดยการจับดูหากอึ่งอ่างตัวใดพองตัวและปล่อยยางออกมาเหนียวมือแปลว่าเป็นอึ่งยางให้โยนทิ้งไป หากตัวไหนไม่มียางก้เก็บไว้ทำรับประทานได้ แต่ผู้ทดสอบนั้นทดสอบในเชิงเปรียบเทียบกับงูหลาม โดยที่สงสัยว่างูหลามและงูเหลือมต่างกันอย่างไร งูเหลือมจะดุร้ายฉกกัดทันทีและผิวหนังจะไม่มีกลิ่นเหม็นหืน ส่วนงูหลามจะไม่ดุร้าย หากไปจับตัวจะปล่อยน้ำมันชนิดหนึ่งออกมามีกลิ่นเหม็นหืนทำให้เกิดอาการคลื่นเหียนได้ ติดมือไปประมาณสามสี่วันโดยที่ล้างอย่างไรก็ไม่ออกเป็นเหตุให้เมียไล่ไปนอนนอกห้อง
เนี่ยนะ ไปเรียน ป.โท มา ได้มาแค่เนี๊ยะ... แถมแว้งใส่ตรูอีก จบโทรัฐศาสตร์ มิได้จบโทสัตว์เลื้อยคลานครึ่งบกครึ่งน้ำ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
|
|
|
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 5711
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 48212
|
|
« ตอบ #436270 เมื่อ: มกราคม 17, 2013, 03:32:10 PM » |
|
เรื่องกล้องและภาพถ่าย เทคนิคการถ่ายแบบไหนๆ ผม 100 เปอร์เซ็นต์ โน ไอเดีย กล้อง ปญอ....อย่างเดียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
|
|
|
Pandanus
Hero Member
คะแนน 6378
ออฟไลน์
กระทู้: 40175
เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
|
|
« ตอบ #436271 เมื่อ: มกราคม 17, 2013, 03:32:14 PM » |
|
ตอนเด็กๆ บ้านฝั่งคลองตรงข้าม มีลูกสาวแต่งกะคนบนเนิน (หมายถึงคนอยู่ติดหนนดำสายหัวพานเมา-เชียรใหญ่) แต่งแล้วเจ้าบ่าวมาทำนาขยันทำมาหากินว่างก็ออกหาปลา วันหนึ่งไปหาปลาล้วงหาปลายังไงไม่ทราบไปเจอเอารูงูเห่า มันกัด...ตาย...(สมัยนั้นทำไมไม่ไปหาหมดฉีดเซรุ่มกันนะ) ทิ้งเมียกับลูกชายตัวเล็กๆไว้ (จำไม่ได้ว่าตอนพ่อตายลูกคลอดหรือยัง) ผมแพ้ตะบะกลัวงูพิษจริงๆ แต่ถ้างูน้ำ ผมชอบแกล้งเหมือนที่เคยเล่า ตีพอบอบๆ เอาหัวฝังขี้วัวสด เยี่ยวใส่ซ้ำ ชาด นึกๆแลบาปคาด เห็นแมงบี้ เด็ดหางเอาหญ้าเสียบแล้วปล่อยให้บิน เห็นหมาต่อแย่ง เอาไม้ถุ้งลงคลอง
แล้วตอนบทเข้าพระเข้านาง เพื่อนก็มาเคาะประตูขอตะไคร้กอหน้าบ้านสักต้นสองต้น เพื่อนโทรไปหาโหน๋ เกร๊ง....อยู่หัวเตียง.... นั่นแหละ บาปกรรม ทำให้สเปิร์มม้านไปกี่ชีวิต ต้องชดใช้ชีวิตละครั้ง ถึงได้หาเมียไม่ได้ไงล่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
soveat ชุมไพร
มือสังหารคันคากหมุ่น พรานปลาวัด พราน28k สมช. เลขที่ 1475
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 3429
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 30132
เลือดกรุ๊ป โอละนออออออออออออ
เว็บไซต์
|
|
« ตอบ #436272 เมื่อ: มกราคม 17, 2013, 03:32:44 PM » |
|
ตาลายชิบ.... วัดความกว้าง ความยาว ความหนา เผื่ออืดเป็นพิเศษ ให้เรียบร้อย ติดต่อนิมนพระวัดคอหงส์ไว้ด้วยจะได้ไม่ฉุกละหุก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
|
|
|
Pandanus
Hero Member
คะแนน 6378
ออฟไลน์
กระทู้: 40175
เรื่องบังเอิญไม่มีจริง
|
|
« ตอบ #436273 เมื่อ: มกราคม 17, 2013, 03:33:18 PM » |
|
เรื่องกล้องและภาพถ่าย เทคนิคการถ่ายแบบไหนๆ ผม 100 เปอร์เซ็นต์ โน ไอเดีย กล้อง ปญอ....อย่างเดียว ปล่าว ไม่ได้คุยเชิงเทคนิค แค่จะหลอกให้ดูรูปให้ตาลายเล่น ๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 5711
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 48212
|
|
« ตอบ #436274 เมื่อ: มกราคม 17, 2013, 03:33:50 PM » |
|
ตอนเด็กๆ บ้านฝั่งคลองตรงข้าม มีลูกสาวแต่งกะคนบนเนิน (หมายถึงคนอยู่ติดหนนดำสายหัวพานเมา-เชียรใหญ่) แต่งแล้วเจ้าบ่าวมาทำนาขยันทำมาหากินว่างก็ออกหาปลา วันหนึ่งไปหาปลาล้วงหาปลายังไงไม่ทราบไปเจอเอารูงูเห่า มันกัด...ตาย...(สมัยนั้นทำไมไม่ไปหาหมดฉีดเซรุ่มกันนะ) ทิ้งเมียกับลูกชายตัวเล็กๆไว้ (จำไม่ได้ว่าตอนพ่อตายลูกคลอดหรือยัง) ผมแพ้ตะบะกลัวงูพิษจริงๆ แต่ถ้างูน้ำ ผมชอบแกล้งเหมือนที่เคยเล่า ตีพอบอบๆ เอาหัวฝังขี้วัวสด เยี่ยวใส่ซ้ำ ชาด นึกๆแลบาปคาด เห็นแมงบี้ เด็ดหางเอาหญ้าเสียบแล้วปล่อยให้บิน เห็นหมาต่อแย่ง เอาไม้ถุ้งลงคลอง
แล้วตอนบทเข้าพระเข้านาง เพื่อนก็มาเคาะประตูขอตะไคร้กอหน้าบ้านสักต้นสองต้น เพื่อนโทรไปหาโหน๋ เกร๊ง....อยู่หัวเตียง.... ไซ..เสียงหอบออกออนไลน์กันเหอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
|
|
|
|