ป็นเล่นไป เพื่อนผม เรียนจบวิศวะ เริ่มงาน เงินเดือนอู้ฟู่ แต่ไม่เหลือ ไปกินไปเที่ยวกันเหม็ดฉาด
ตอนทำบัตรเครดิตไว้ คุยกับผมว่า ไม่ต้องไปขอ พวกสถาบันการเงินมาทำให้ถึงที่ ถึงคณะเลย
เรียนจบปุ๊บขอให้มีหลักฐานว่าจบวิศวะ ทำให้เลย แค่เซ็นต์ชื่ออย่างเดียวนิ อย่างอื่นเซลล์กรอกให้เพ
ทำงานมาเกือบปี เงินที่ว่าอู้ฟู่ ไม่เหลือสักบาท แถมติดหนี้บัตรเครดิตเป็นแสน
ทางบ้านก่าใจดำ โร้ว่าเป้นหนี้ ไม่ช่วย โตแล้ว แต่ ดาวน์รถ โตโยฯไทเกอร์ ให้คัน ไปผ่อนเอาเอง
มีให้เท่านี้แหละ...
ปรากฎว่ามันเอารอดครับ ผ่อนรถกันผ่อนบัตรเครดิตกัน เลิกเที่ยวเลิกสุรุ่ยสุร่าย กลับมาเป็นผู้เป็นคนได้
เรื่องบัตรเครดิตนี่เข็ดขี้อ่อนขี้แก่เลยครับ
กินเที่ยวสาระพัดใช้เงินเกินตัวเป็นหนี้เป็นแสน กว่าจะกัดฟันฝ่ามาได้
เรื่องนี้เป็นตราบาปในชีวิตผมเลย ทุกวันนี้รู้จักค่าของเงินมากกว่าเมื่อก่อนเยอะครับ
คุณมองมุมใหนละ กะบัตรเครดิต...มองมุมที่ดีซิครับ แต่ต้องควบคุมตัวเองให้ได้........ประโยชน์มันมี แ่ส่วนมาก ที่เป็นปัญหา เพราะกิเลสเข้าครอบ(ขอโทษอันนี้มิใช่ว่าคุณน๊ะครับ พูดทั่วไป เท่าที่ได้รับทราบ)
ยังไงละ เพราะ คนใช้มีกิเลส เพราะบัตรมันใช้ได้ง่ายเมื่ออยู่ในมือเรา มันไม่ด่า มันไม่ว่า ไม่บ่น ไม่พูด ไม่ดูถูก เช่นที่เราเดินไปยืมเงินคนอื่น..........แต่บัตรมันยึดถือกฎเกณฑ์ ที่มันกำหนดใว้.....แต่คนใช้บัตรอาจละเลย หรือตั้งใจฝ่ากฎเหล่านั้น ผลมันก็จะกลับมาเล่นงาน หากใช้มันเกินกำลังของเรา เราก็จะลำบากเอง เพราะไปเอาพลังในอนาคตมาใช้
แต่ให้คิดว่า หากมันจำเป็นขึ้นมา มันก็จะช่วยเราได้ โดยที่เราจะได้ไม่สะดุด
ขออภัยครับ มันพูดยาก.....
บางคนอาจลืมไป เพราะเรามิได้หยิบเงินในกระเป็าเองจ่าย มันเลย ไม่ค่อยเกิดความเสียดาย ซึ่งมันจะเป็นคล้ายๆกับดักของบริษัทบัตรเช่นกัน เพราะเขาก็จะมีรายได้ส่วนหนึ่ง จากตรงนี้ จากที่เราจ่ายไม่ตรงตามดิวตามงวด เขาก็จะได้กินดอกเบี้ย ซึ่งเราเองก็ยอมรับมาแล้ว ตอนเซนต์ยอมรับ
หากแต่เราปฏิบัติตามกฎ เราก็ใช้ได้สบาย
แต่ส่วนมาก เพราะใอ้กิเลสตัญหาของเราเองนี่แหละ อิๆๆ ซึ่งผมเองคนหนึ่งก็เป็น มิใช่จะกล่าวว่าคนอื่น บ่อยไปที่กิเลสเข้าครอบงำครับ