อารยันกับนาซี
บทความเรื่อง สายพันธุ์อารยันกับนาซี โดย วีรกร ตรีเศศ เขียนไว้ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 1370 สรุปความดังนี้
คนเยอรมันหลายคนในวัย 60 กว่าปี เพิ่งทราบเมื่อไม่นานมานี้ว่าพ่อที่แท้จริงของตนนั้น มิได้ตายเพราะสู้รบอย่างกล้าหาญในสงครามดังที่แม่เล่าให้ฟัง หากเป็นทหารในหน่วยที่มีชื่อว่า Waffen SS ซึ่งเป็นทหารพิเศษของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ที่คัดสรรมาว่าเป็นสายเลือดอารยัน คนเยอรมันเหล่านี้เป็นเด็กจากโครงการ Lebensborn ซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการขยายเชื้อชาติอารยันตามที่ฮิตเลอร์ และกลุ่มนาซีเชื่อว่าเป็นสายเลือดบริสุทธิ์ของคนเยอรมัน ที่เหนือกว่ามนุษย์ทุกเผ่าพันธุ์ในโลก
Lebensborn หรือ Spring of Life (น้ำพุแห่งชีวิต) หมายถึงโครงการที่สร้างคลินิกขึ้นทั่วเยอรมนีและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น โปแลนด์ นอร์เวย์ ฯลฯ เพื่อให้หญิงมีครรภ์ (ส่วนใหญ่ยังเป็นโสด) ไปคลอดลูกอย่างเป็นความลับ แม่จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีโดยแพทย์และพยาบาลที่จ้างมาโดยหน่วยทหาร SS หญิงมีครรภ์ที่จะได้รับบริการจากคลินิก จะต้องมีลักษณะทางชาติพันธุ์ที่เหมาะสม ผมสีบลอนด์ ตาสีฟ้า ต้องจงรักภักดีต่อระบอบนาซี และต้องพิสูจน์ว่าไม่มีความบกพร่องทางพันธุกรรม หลายคนเป็นภรรยานายทหาร SS และหลายคนเมื่อคลอดแล้วก็มีสัมพันธ์กับนายทหาร SS จนท้อง เด็กประมาณ 6,000-8,000 คน เกิดในคลินิกเหล่านี้ในเยอรมนีระหว่าง ค.ศ.1936-1945 และเนื่องจากโครงการเป็นเรื่องลี้ลับ บ่อยครั้งไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ และไม่มีการบันทึกรายละเอียดการเกิดลงในสูติบัตร
เชื้อสายอารยันเป็นคอนเซ็ปต์ในวัฒนธรรมยุโรปที่มาแรงในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 บ้างเชื่อว่าเชื้อเผ่าพันธุ์นี้มีกำเนิดจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซียปัจจุบัน บ้างเชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของคนเยอรมัน และสแกนดิเนเวียแต่โบราณ และท้องถิ่นเหล่านี้เท่านั้นที่ยังคงสามารถรักษาความบริสุทธิ์ของเชื้อพันธุ์ไว้ได้ในโลกตะวันตกในยุคต้นศตวรรษที่ 19 บ้างเชื่อว่าชาติพันธุ์อารยันเหนือกว่าทุกชาติพันธุ์ ฉลาดกว่า และเก่งกว่า อย่างสมควรที่จะเก็บไว้เป็นต้นแบบของมนุษยชาติเพื่อเผยแพร่พันธุ์ต่อไป
มีนักประวัติศาสตร์ระบุว่ามีการกล่าวถึงชาติพันธุ์อารยันในจารึก Persians (เปอร์เซียคือชื่อโบราณของอิหร่าน) ตั้งแต่ก่อนคริสตกาล 500 ปี คำว่า "Aryan" ในตอนแรกโยงใยกับวัฒนธรรม Indo-Iranian (อินเดีย-อิหร่าน) และต่อมาในศตวรรษที่ 19 กลายมาผูกพันกับวัฒนธรรม Indo-European (อินเดีย-ยุโรป) ขณะที่นักประวัติศาสตร์อีกกลุ่มเชื่อว่า ไอเดียเรื่องชาติพันธุ์อารยันเกิดขึ้นเมื่อนักภาษาศาสตร์ค้นพบว่า Avestan ภาษาโบราณของเปอร์เซีย และภาษาสันสกฤตของอินเดียตอนเหนือ เป็นสองภาษาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก จึงตั้งชื่อกลุ่มคนโบราณที่ประดิษฐ์ภาษาเหล่านี้ขึ้นว่า Aryans มีรากศัพท์มาจากภาษาสันสกฤตและ Avestan ว่า "Arya" ซึ่งหมายถึงมนุษย์ที่มีความสูงส่ง มีอิสระ มีฝีมือ
Arya คืออารยะในภาษาไทยซึ่งมีความหมายอย่างเดียวกัน อารยะและอารยัน โยงใยกันอย่างใกล้ชิด หมายถึงความสูงส่ง ความศิวิไลซ์ ความมีเกียรติและคุณธรรม
อย่างไรก็ดี ในยุโรปในต้นศตวรรษที่ 20 อารยันถูกบิดเบือนไปจนหมายถึง White European (คนยุโรปผิวขาว ยกเว้นยิวและอาหรับ โดยอ้างว่าเพราะภาษาดั้งเดิมไม่ได้อยู่ในตระกูล Indo-European) ต่อมาถูกบิดเบือนยิ่งขึ้นภายใต้ระบอบนาซี ว่า อารยันคือชนชาติพิเศษซึ่งเป็นต้นตระกูลของคนเยอรมัน จนต้องคัดสรรสายพันธุ์บริสุทธิ์แห่งความยิ่งใหญ่เอาไว้ เพราะจะยิ่งทำให้เยอรมนีสามารถครองโลกไว้ได้นานเท่านาน ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนเชื่อเช่นนี้ได้ แต่ความจริงก็คือในยุคล่าอาณานิคมของสมัยนั้น ความเชื่อเรื่องความเหนือกว่าของคนผิวขาวเป็นเรื่องธรรมดา ไอเดียเรื่องอารยันจึงเกิดขึ้น นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของฮิตเลอร์
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURONWIzVXdNakl6TURrMU1nPT0=