ผลงานความล้มเหลวของระบบการศึกษาไทย และ ระบบการคิดทางสังคมที่ตื้นเขิน
เด็กวัยนี้ ควรยังอยู่ในชุดนักศึกษารั้วมหาลัย หรือไม่ ก็สาวออฟฟิส หรือบัณฑิตใหม่ที่มีอนาคต
เด็ก ม.ปลายจบปีเป็นแสน ศึกษาต่อกี่คน ที่เหลือหายไปไหน
ใครบอก มันเป็นความสำเร็จของวิชาด้านนิเทศน์สาขาโฆษณา
เมื่อสมัยราวๆ20ปีที่แล้ว เด็กเรียนจบ ม.ปลายสมัครเข้าเรียนนิเทศน์ โฆษณากันจมหู
จนคะแนนเอ็นทรานซ์นิเทศน์สูงจนแซงวิศวะ ไปแตะขอบล่างๆของคะแนนเข้าแพทย์
และไล่เลี่ยกับเภสัชฯ
เด็กยุคนั้นที่เข้านิเทศน์โฆษณาจึงเป็นCream of country มีนักวิชาการจริงๆ
ไม่ใช่นักวิชาการรับจ้างพูด ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า น่าเป็นห่วง อนาคตของชาติ
เมื่อคนเก่งมาอยู่ด้านโฆษณา ซึ่งความจริงนั้นคือโฆษณาชวนเชื่อ ต่อไปเขาจะทำให้
ใครเชื่อเพื่อขายสินค้านั้นได้โดยง่าย เพราะเขาเป็นคนเก่งฉลาด เอาคนเก่งมาบอกล่าว
ให้คนไม่เก่งฟัง ยังไงก็ต้องเชื่อเขา
ทำไม ไม่เอาคนเก่งมาทำงานรับใช้สังคม หมอรักษาคน วิศวะงานสร้างชาติ ฯลฯ
แกทิ้งไว้ให้ขบคิด
แล้วเมื่อมองตามมาจากยุคนั้น เมื่อครีม ออฟ คันทรี่เรียนจบมาใน4-5ปีให้หลัง
งานโฆษณา ถือเป็นงานที่มีเม็ดเงินสะพัดปีละนับหมื่นล้าน และเพิ่มขึ้นทุกปี
โฆษณาชวนเชื่อ ที่ปัจจุบันตัดคำหลังออก ได้ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น
ใครไม่มีผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ ไม่ได้ ไม่ทันเพื่อน ต้องมีให้ได้
วัตถุนิยมแข็งแรงเพราะการโฆษณา แล้วใครอยากมีอะไรๆ หาเงินมาเซ้ออย่างเดียว
พนันกันได้ว่า ที่นุ่งน้อยห่มน้อยอยู่บนเ้วที เธอมีเงินมาเซ้อมือถือที่ทันสมัยหวาที่ผม
กับน้าดุนใช้เสียอีก